ข่าวข่าวการเมือง

สรุปเลขอายุ ‘เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม’ เวลาเสียชีวิต เจ้าพ่อปากน้ำ สมุทรปราการ

เปิดเลขอายุที่แท้จริงของ “เอ๋” หรือ “ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” อดีตนักการเมืองจังหวัดสุมทรปราการ หลังเสียชีวิตด้วยอาการช็อกหมดสติจาก ฮีทสโตรก ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 01.15 น.ที่ผ่านมา

ไขข้อสงสัย กรณีเลขอายุของ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” อดีตนักการเมืองคนดัง จังหวัดสมุทรปราการ อดีตรองหัวหน้าพรรคเพื่อแผ่นดิน ในชุดของพลตำรวจเอก ประชา พรหมนอก และเป็นบุตรชายของ วัฒนา อัศวเหม อดีตรัฐมนตรีหลายกระทรวง นักแข่งรถ และนักธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ หลังมีข่าวด่วนเสียชีวิตด้วยอาการช็อกหมดสติจาก ฮีทสโตรก ที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ เมื่อวันศุกร์ที่ 31 มีนาคม 2566 เมื่อเวลา 01.15 น. ซึ่งทำหลายคนสับสนว่าแท้จริงแล้วอายุของ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ คือเท่าไหร่กันแน่ 54 ปี หรือ 55 ปี แบบไหนถูกต้อง?

“เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” อายุเท่าไหร่

ทั้งนี้ เมื่ออ้างอิงตามข้อมูลวันเดือนปีเกิดของ “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” ระบุว่า เกิดเมื่อวันที่ 19 พฤศจิกายน ปีพุทธศักราช 2511 ดังนั้นหากนับอายุตามปีเพียงอย่างเดียว “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ ก็จะมีอายุ 55 ปี แต่หากรวมเดือนเกิดไปด้วย ก็จะเท่ากับเลขอายุ 54 ปี ย่างเข้า 55 ปี นั่นเอง ดังนั้นหากเอาตามหลักที่ถูกต้องเหมาะสม “เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม” จะมีอายุตั้งแต่ปีเกิดจนถึงปีที่เสียชีวิต รวมแล้ว 54 ปี ครับ

เลขอายุ เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ นักการเมือง

ทางด้านประวัติส่วนตัวนั้น เอ๋ ชนม์สวัสดิ์ อัศวเหม จบปริญญาตรีจากคณะบริหารธุรกิจ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ สมรสครั้งแรกกับ นันทิดา แก้วบัวสาย และอดีตคู่สมรสคนล่าสุดคือ เจนี่ อัลภาชน์ ณ ป้อมเพชร

โดยก่อนที่จะมีข่าวหมดสติขณะซ้อมแข่งรถ ตู่ นันทิดา,เนวิน และอนุทิน ได้เร่งเดินทางมาเยี่ยมที่โรงพยาบาลบุรีรัมย์ ซึ่งแพทย์ผู้เชี่ยวชาญด้านโรคหัวใจ คาดการณ์สาเหตุเบื้องต้นจากอาการฮีทสโตรก

อ้างอิง : 1 2

Thosapol

นักเขียนบทความที่ Thaiger จบการศึกษาจากคณะนิเทศศาสตร์ มหาวิทยาลัยกรุงเทพ เชี่ยวชาญเรื่องบทความท่องเที่ยว บันเทิง ไลฟ์สไตล์ ผ่านการค้นหาข้อมูลโดยละเอียดพร้อมด้วยประสบการณ์ตรงของตัวเอง งานอดิเรกมีความสนใจในกระแสข่าวรอบตัวต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านสุขภาพ สังคม การเมือง และที่สำคัญคือเป็นทาสแมวร้อยเปอร์เซ็นต์ครับ ช่องทางติดต่อ thospol@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button