รวบสาวเพื่อนสนิท ฆ่าเจ้าแม่เงินกู้ ชิงทอง 7 บาท ลงมือต่อหน้าลูก 14 ปี
ตำรวจรวบเพื่อนสนิท ฆ่าเจ้าแม่เงินกู้ ชิงทอง 7 บาท เจ้าตัวสารภาพลงมือคนเดียว ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ พี่ผู้ก่อเหตุเล่า ลงมือต่อหน้าลูก 14 ปี
จากกรณีที่ พ.ต.ท.สมบูรณ์ สภ.พะโต๊ะ เปิดเผยว่า ได้รับแจ้งเหตุจาก นายจเร ขวัญราช ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 12 ต.พะโต๊ะ อ.พะโต๊ะ จ.ชุมพร หลังจากที่ชาวบ้านออกไปหาปลาในแม่น้ำพะโต๊ะ แล้วพบศพลอยเกยติดโขดหิน บริเวณบ้านตรัง จึงได้แจ้งให้ผู้บังคับบัญชาทราบและลงพื้นที่ตรวจสอบพร้อมกู้ภัย
ล่าสุด พ.ต.อ.มนต์ศักดิ์ ศรีสุวรรณ์ ผกก.สภ.พะโต๊ะ พร้อมกำลังเจ้าที่ชุดสอบสวนและชุดสืบสวน ควบคุมตัว นางบุญพา (ขอสงวนนามสกุล) อายุ 36 ปี มาชี้จุดก่อเหตุที่บ้านเช่าของตนเองซึ่งใช้เป็นสถานที่ลวง น.ส.ชฎาทิพย์ เจ้าแม่เงินกู้ มาทำร้ายทุบตีและฟันจนแน่นิ่ง
ก่อนนำร่างขึ้นรถกระบะของตนเองแล้วขับรถออกมาจากบ้านเช่ามุ่งหน้ามายังสะพานบ้านตรังพัฒนา แล้วลากร่างของผู้ตายลงจากรถ ก่อนจะผลักร่างลอดราวสะพานเพื่อทิ้งศพดังกล่าว เบื้องต้นผู้ก่อเหตุสารภาพเพียงว่า ได้ก่อเหตุเพียงคนเดียว ส่วนสาเหตุผู้ก่อเหตุยังไม่เปิดเผยแต่อย่างใด ๆ ซึ่งทางเจ้าหน้าที่ตำรวจยังไม่ปักใจเชื่อ ว่าจะก่อเหตุเพียงลำพัง และจะสอบสวนหารายละเอียดและมูลเหตุในการก่อคดีครั้งนี้ต่อไป
ก่อนหน้านี้มีรายงานว่า ชาวบ้านพบศพเป็นเพศหญิง ลอยติดโขดหิน สภาพขึ้นอืด นอนคว่ำหน้า ไม่สวมเสื้อ ใส่แต่กางเกงเสียชีวิตอยู่ในน้ำ ต่อมาทราบชื่อ น.ส.ชฎาทิพย์ อายุ 32 ปี จากการชันสูตรศพพบบริเวณศีรษะ และตามแขน ลำตัว ทั่วร่างกายถูกตีด้วยของแข็ง ถูกฟันและแทง เป็นแผลฉกรรจ์ นับ 10 แผล คาดว่าเสียชีวิตมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 วัน
สอดคล้องกับ กับที่ญาติผู้ตายได้โฟสต์เฟซบุ๊ก แจ้งเพื่อนในกลุ่มช่วยตามหาผู้ตาย ซึ่งหายออกไปจากบ้านเป็นเวลา 3 วันแล้ว เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงให้กู้ภัยทำการเก็บกู้ร่างผู้เสียชีวิต นำส่งชันสูตรโรงพยาบาลสุราษฎร์ธานีเพื่อชันสูตรอย่างเอียดอีกครั้ง
จากการสอบถามญาติผู้ตายนั้น ทำให้ทราบว่า น.ส.ชฎาทิพย์ทำธุรกิจเกี่ยวกับเงินกู้ ก่อนที่ผู้เสียชีวิตจะหายไป ในช่วงวันที่ 26 มี.ค. เวลาประมาณ 18.00 น. ได้มี นางสุ ซึ่งเป็นเพื่อน ได้ขับรถมารับผู้ตายออกไปข้างนอก อ้างชวนไปทวงหนี้ที่ลูกหนี้รายหนึ่ง ซึ่งเขาติดหนี้มาหลายเดือนแล้ว โดยทั้งคู่ก็ได้ขับรถกระบะ ยี่ห้ออีซูซุ สีดำ ออกไป แล้วก็ไม่กลับมาอีกเลย จนกระทั่งมาพบเป็นศพดังกล่าว
จากการสอบถามทราบว่า ผู้ตายมักจะสวมใส่สร้อยทองน้ำหนัก 5 บาท สร้อยข้อมือน้ำหนัก 2 บาท ซึ่งตอนพบศพสร้อยทองได้หายไป คงเหลือเพียงแหวนนามสกุลไว้เพียง 1 วง
ด้าน น.ส.บุญมี พี่สาวของผู้ก่อเหตุ เผยว่า ตนรู้สึกเสียใจกับการกระทำของน้องสาวเป็นอย่างมาก และไม่คาดคิดมาก่อนว่าน้องสาวจะก่อเหตุในครั้งนี้ เพราะผู้เสียชีวิตและผู้ก่อเหตุเป็นเพื่อนสนิทกัน ไปมาหาสู่กันอยู่ตลอด และมักจะไปเล่นการพนันด้วยกันอยู่เสมอ ที่ผ่านมาน้องสาวไม่เคยพูดหรือเล่าให้ฟังว่ามีปัญหาหรือมีเรื่องผิดใจกับผู้เสียชีวิตมาก่อน
จากเหตุการ์ที่เกิดขึ้นนั้น ถึงแม้ว่าน้องสาวจะปฏิเสธในเบื้องต้น แต่ทางเจ้าหน้าที่ก็มีหลักฐานแน่นหนาพอสมควร ทุกอย่างก็ขึ้นอยู่กับดุลพินิจของทางเจ้าหน้าที่ ซึ่งในตอนนี้สิ่งที่ตนเป็นห่วงมากที่สุดคือหลานวัย 14 ปี เพราะในช่วงที่น้องสาวก่อเหตุทำร้ายร่างกายน.ส.ชฎาทิพย์ จนเสียชีวิตนั้นได้ก่อเหตุต่อหน้าลูกสาว