ลุงโทนี่ อินฟลูเอนเซอร์และดาสวติ๊กต๊อกชื่อดัง รับสารภาพคดีไลฟ์สดชักชวนเด็กเข้าเว็บพนันออนไลน์ เผยสาเหตุทำเพราะต้องการเงิน มาทราบตอนหลังคนโอนเงินเป็นเยาวชน
ความคืบหน้าข่าว นายเจริญศักดิ์ หรือ “ลุงโทนี่” ที่หลังจากเมื่อวันที่ 15 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา ณ กองบัญชาการตำรวจสืบสวนสอบสวนอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (บช.สอท.) เมืองทองธานี อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี ได้มีการนำตัว อินฟลูเอนเซอร์ชื่อดัง วัย 45 ปี มาสอบปากคำ หลังพบพฤติกรรมชักชวนเยาวชนสมัครเว็บพนันออนไลน์และแจกเงินให้ผู้ที่เข้าชมไลฟ์ผ่านทางแพลตฟอร์ม TikTok
นายเจริญศักดิ์ หรือลุงโทนี่ กล่าวว่า ตนเองกระทำผิดจริงโดยได้รับการติดต่อจากแอ็กเคานต์อวตารหลายแอ็กเคานต์จ้างวานให้ชักชวนคนเข้ามาเล่นพนันออนไลน์จะได้ค่าจ้างตั้งแต่ 3,000 บาทขึ้นไป ตกลงรับงานไลฟ์สดผ่าน TikTok โดยให้ผู้ที่สนใจแอดไลน์และกดลิงก์เว็บไซต์พนันออนไลน์
จากนั้นจะให้เติมเงินและเข้าไปเล่นพนัน มีการโฆษณาเชื้อเชิญว่าเมื่อเติมเงินเข้าระบบจะได้เงินมากกว่าจำนวนจริงที่เติม นอกจากนี้ยังโอนเงินให้กับเด็กคนหนึ่งกลางไลฟ์สด หลังเด็กคนดังกล่าวสมัครสมาชิก เพื่อเพิ่มความน่าเชื่อใจให้กับไลฟ์สด ยืนยันว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่หน้าม้า ไม่รู้จักกันมาก่อน เพิ่งมารู้หลังไลฟ์สดว่าบุคคลที่ตนโอนเงินเข้าไปให้เป็นเยาวชน พอรู้ว่าเป็นเด็กรู้สึกไม่ดีและรู้สึกผิดมากเพราะเด็กคนนั้นรุ่นราวคราวเดียวกับลูกของตน
ลุงโทนี่กล่าวอีกว่า สาเหตุที่ตัดสินใจรับจ้างชักชวนเล่นพนันออนไลน์เพราะเดือดร้อนเรื่องเงิน เนื่องจากมีคนเข้ามาขอความช่วยเหลือและของานทำเยอะ ไหนจะสัตว์ในฟาร์ม ต้องแบกภาระค่าใช้จ่ายทั้งคนงานและอาหารสัตว์ แต่ละเดือนมียอดเงินค่อนข้างสูง ทำให้หลงผิด การไลฟ์สดครั้งนั้นเป็นครั้งแรกและครั้งเดียวที่เป็นการไลฟ์สดเชิญชวนเล่นการพนันออนไลน์ หลังทราบเรื่องรีบมาพบตำรวจ ไม่ได้หลบหนีไปไหน จากนี้ไม่กล้าทำอีก อยากขอโทษและขอโอกาสจากสังคมและผู้ที่ติดตาม ยืนยันจะไม่ทำแบบนี้อีก จะตั้งหน้าตั้งตาทำงานและอาชีพสุจริตต่อไป
ทั้งนี้ในส่วนของคดี เบื้องต้นตำรวจแจ้งข้อหาลุงโทนี่ ในความผิดฐานชักชวนโดยทางตรงหรือทางอ้อมให้ผู้อื่นเข้าเล่นหรือเข้าพนัน (พ.ร.บ.การพนัน พ.ศ.2478 ม.12) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ, ชักจูง ส่งเสริมให้เด็กประพฤติตนไม่สมควร หรือน่าจะทำให้เด็กมีความประพฤติเสี่ยงต่อการกระทำผิด (พ.ร.บ.คุ้มครองเด็ก พ.ศ.2546 ม.26 (3), 78) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 3 เดือน หรือปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวน บก.สอท 1 ดำเนินคดีตามกฎหมาย.
