ชูวิทย์ บุก ป.ป.ช. ยื่นตรวจสอบ ‘ศักดิ์สยาม’ ปมนอมินีถือหุ้น ลั่นจะตามทำลาย ‘ภูมิใจไทย’ ฝากถึง ‘เศรษฐา’ ตนจับจองไว้แล้ว หลักฐานเพียบ
นาย ชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ หรือ “ชูวิค” อดีตนักการเมือง หอบเอกสารหลักฐาน และเผาเงินกงเต๊ก (แบงก์ปลอม) กระดาษเงินกระดาษทองที่หน้าสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ หรือ ป.ป.ช. เพื่อเป็นการแสดงสัญลักษณ์ ห้เงินกับพวกทุจริตที่อยากได้เงินแผ่นดินเอาไปใช้ และขอให้พวกทุจริตคอร์รัปชันหมดไปจากประเทศไทย
นอกจากนี้นาย ชูวิทย์ ยื่นเรื่องร้องเรียนต่อนายนิวัติไชย เกษมมงคล เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบกรณีกล่าวหาว่า อาจมีการทุจริตใน 4 ประเด็น ได้แก่ กรณีนาย ศักดิ์สยาม ชิดชอบ รมว.คมนาคม และเลขาธิการพรรคภูมิใจไทย ให้นอมินีถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญคอนสตรัคชั่น เพื่อไปรับโครงการต่าง ๆ จากกระทรวงคมนาคม
ตรวจสอบนายนิรุฒ มณีพันธ์ ผู้ว่าการรถไฟแห่งประเทศไทย (รฟท.) ละเว้นการปฏิบัติหน้าที่ไม่ดำเนินการเพิกถอนที่ดิน เขากระโดง ของผู้บุกรุกที่ดิน รฟท., ตรวจสอบนาย สุชาติ ตระกูลเกษมสุข กรรมการ ป.ป.ช. กรณีขาดคุณสมบัติการเป็นกรรมการ ป.ป.ช. และ ตรวจสอบเลขาธิการสำนักงานการปฏิรูปที่ดินเพื่อเกษตรกรรม (ส.ป.ก.) กรณีปล่อยปะละเลยให้พนักงานบริษัท ช.การช่าง ถือครองที่ดิน สปก. จ.สระบุรี โดยไม่ใช่ผู้ยากไร้
นายชูวิทย์ยืนยันว่า การยื่นตรวจสอบในครั้งนี้ไม่มีการเมืองเข้ามาเกี่ยวข้อง แต่ต้องการให้ทรัพย์สมบัติกลับมาเป็นของประชาชน พร้อมสาบานต่อสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และพระบรมรูปพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 ที่ตั้งอยู่ด้านหน้าสำนักงาน ป.ป.ช. นอกจากนี้ยังได้นำธนบัตรกงเต็ก และกระดาษเงินกระดาษทอง ที่ระบุว่านายศักดิ์สยามชอบเงิน หาเงินทอนจากโครงการต่าง ๆ รวมทั้งโฉนดที่ดินเจากระโดงเผาไปให้ เพื่อนำไปใช้ในปรโลก
พร้อมประกาศกร้าวอีกด้วยว่า จะตามทำลายพรรคภูมิใจไทย และจะไปจังหวัดบุรีรัมย์ โดยจะไปเคาะประตูบ้านนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม เพราะไม่ใช่บ้านของนายเนวิน และนายศักดิ์สยาม แต่เป็นที่สาธารณะของ รฟท. และหลังจากยุบสภาในวันที่ 20 มี.ค.จะยื่นให้กกต.ตรวจสอบเพื่อยุบพรรคภูมิใจไทย
กรณีนิมินีที่ถือหุ้นใน หจก.บุรีเจริญฯ แทนนายศักดิ์สยาม นำเงินที่ได้จากโครงการของกระทรวงคมนาคมไปบริจาคให้กับพรรคภูมิใจไทย ซึ่งถือเป็นเงินที่ไม่ชอบ เมื่อพรรคนำไปใช้ก็ต้องถูกยุบ และจะบอกให้ กกต.พิจารณาเป็นเรื่องเร่งด่วน และทำให้เสร็จก่อนการเลือกตั้งในเดือน พ.ค. 2566 เพราะถ้าไปยุบหลังการเลือกตั้ง บุคคลเหล่านี้ได้เป็น ส.ส.ก็จะเปล่าประโยชน์ เพราะสามารถย้ายพรรคได้
ขณะนี้กำลังจับจองนาย เศรษฐา ทวีสิน นักธุรกิจชื่อดัง ปัจจุบันเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าครอบครัวพรรคเพื่อไทย ที่มีเบื้องหลังเรื่องสำคัญ และมีหลักฐานไว้หมดแล้ว แต่ยังไม่ขอนำมาเปิดเผย ขอดูพฤติกรรมนายเศรษฐาก่อน จะเรียกว่าตนแบล็คเมล์ก็ว่าได้ ดูว่ามีความตั้งใจจริงในความเป็นนักการเมืองแค่ไหน ถ้าดูแล้วไม่เข้าท่า เป็นนักการเมืองที่ไม่มีอุดมการณ์ ตนจะเปิดเผยเรื่องเหล่านี้ซึ่งเป็นเรื่องเกี่ยวกับที่ดิน นอกจากนั้นเห็นว่าผู้ที่เคยเป็นนายหน้าที่ดินอย่างนายเศรษฐา นายศักดิ์สยาม นายอนุทิน ไม่ควรจะมาดูแลกระทรวงคมนาคมหรือกระทรวงที่เกี่ยวข้อง แต่ควรอยู่กระทรวงวัฒนธรรมเพื่อปรับปรุงตัว
