สวนสัตว์พาต้าตั้งรางวัล 1 แสน ล่าคนทำลายทรัพย์ ร้องปลอยตัว ‘บัวลอย’
สวนสัตว์พาต้า ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพื่อตามล่ากลุ่มคนทำลายทรัพย์สิน ร้องปล่อยตัว บัวน้อย พร้อมตั้งแผนกพิเศษเฉพาะกิจ รวบรวมเบาะแส หน่วยงาน ดารา เซเลป ไฮโซ เดินเกมต่อต้าน ส่งตำรวจเชือดเป็นเยี่ยงอย่าง ย้ำไม่มีใครโจมตีการครอบครองลิงกอริลลาในประเทศตัวเอง
วันที่ 11 มีนาคม 2566 เฟซบุ๊กเพจ สวนสัตว์พาต้า ได้เผยแพร่คำแถลงการณ์ สวนสัตว์พาต้า กรณีการประกาศเรื่องต่อสู้และดำเนินคดีความกับผู้ต่อต้านและบุกรุก เพื่อเป็นการเคลื่อนไหวเรื่องนี้อย่างจริงจัง ในเรื่องการบุกรุกและทำลายทรัพย์สิน รวมถึงการโพสต์โซเชียลมีเดียที่วิจารณ์สวนสัตว์และทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง ดังนี้
“คำแถลงการณ์สวนสัตว์พาต้า
กรณีการประกาศเรื่องต่อสู้และดำเนินคดีความกับผู้ต่อต้านและบุกรุก
.
.
ประกาศ !!! สวนสัตว์พาต้า ตั้งรางวัลนำจับ 1 แสนบาท เพื่อตามล่ากลุ่มคนทำลายทรัพย์สิน ร้องปล่อยตัว บัวน้อย
.
.
เมื่อเวลาประมาณตี 1 ของเช้าวันที่ 6 มีนาคม 2566 ได้มีกลุ่มผู้กระทำความผิด จำนวน 5 คน บุกรุกพื้นที่ของห้างสรระสินค้าพาต้า โดยใช้การปีนสะพานลอยผ่านเข้ามายังขอบอาคารชั้น 3 ด้านหน้าห้าง ฯ และ ทำลายทรัพย์สินของบริษัทด้วยการพ่นสีใส่ผนังอาคาร เป็นข้อความในเชิงต่อต้านการครอบครองลิงกอริลลาของสวนสัตว์พาต้า โดยเขียนว่า “Free Buanoi” และอักษรภาษาอื่น ๆ เป็นทางยาวกว่า 20 เมตร
.
.
ซึ่งทำให้ตัวอาคารได้รับความเสียหาย และก่อให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของบริษัทเป็นอย่างมาก ทั้งที่การประกอบกิจการของสวนสัตว์พาต้านั้น อยู่ในความดูแลของหน่วยงานผู้เกี่ยวข้องและผ่านขั้นตอนการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ โดยเหตุการณ์การต่อต้านเรื่องการครอบครองลิงกอริลลาของห้าง ฯ พาต้านั้น มีมานานกว่า 20 ปี และเพิ่งจะได้รับความเข้าใจจากประชาชนโดยส่วนใหญ่เมื่อประมาณ 4 เดือนที่ผ่านมา จากแถลงการณ์ครั้งแรกของบริษัท ฯ ถึงเหตุผลต่าง ๆ และที่มาที่ไปของบัวลอย ลิงกอริลลา เพศเมีย วัยชรา ที่ได้รับการเลี้ยงดูเป็นอย่างดีตลอดมา ที่แม้ทางบริษัทจะประสบภาวะขาดทุนสะสมอย่างต่อเนื่อง แต่ทางผู้บริหารก็ยังไม่เคยทอดทิ้ง หรือ ตั้งราคาบัวน้อยในราคา 30 ล้าน ตามที่เป็นข่าว
.
.
ล่าสุดทางฝ่ายบริหารของทั้งห้างและสวนสัตว์พาต้า ได้เคลื่อนไหวในเรื่องนี้อย่างจริงจัง โดยจะขอนำเรื่องการบุกรุกและทำลายทรัพย์สินของบริษัทในครั้งนี้ เป็นกรณีตัวอย่างของการละเมิดสิทธิ์ที่ผิดกฎหมาย ที่บุคคล กลุ่ม หรือองค์กรพิทักษ์สัตว์มากมาย ทั้งในและต่างประเทศได้กระทำกันมาช้านาน
ทั้งการโพสต์โซเชียลมีเดียถึงการวิจารณ์ไปในทางหมิ่นประมาทและทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียงต่อสวนสัตว์พาต้า, การรวมตัวกันเรียกร้องให้ปิดสวนสัตว์และปล่อยตัวบัวน้อย ด้วยการใช้ภาพถ่ายเน้นลูกกรงให้ดูเศร้า รวมถึงการปรับเล่นกับโทนสีของภาพให้ดูหม่นหมอง เพื่อการเรียกร้อง และนำภาพบัวน้อยไปใช้กันอย่างแพร่หลาย จนนำไปสู่การขอรับบริจาคในโครงการของตนเองหลายต่อหลายครั้ง โดยไม่มีการแจ้งถึงยอดเงินดังกล่าวอย่างเป็นทางการว่าได้นำเงินนั้นไปใช้ในทิศทางใด
และสวนสัตว์พาต้า ขอใช้โอกาสและพื้นที่ตรงนี้เพื่อแจ้งว่า
.
.
.
“สวนสัตว์พาต้า ไม่เคยรับทราบถึงที่มาที่ไปของเงินบริจาคดังกล่าว ทั้งในและต่างประเทศ ที่มีการเรี่ยไรกระทำการอย่างไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย มาเป็นเวลาเกือบ 20 ปี”
รวมไปถึงนักอนุรักษ์สัตว์บางรายที่เคยฉวยโอกาสจากเหตุการณ์ต่อต้านสวนสัตว์พาต้า โดยกระทำการอบรมให้ข้อมูลแก่เยาวชนถึงในสถานศึกษา เพื่อใช้เด็กและเยาวชนเป็นแรงสนับสนุน มุ่งไปที่การ “ปล่อยตัวบัวน้อย” ให้เด็ก ๆ ซึมซับว่าบัวน้อยได้รับความทุกข์ทรมาน โดยที่เด็กและเยาวชนเหล่านั้น อาจไม่รู้ และไม่เคยมาเที่ยวสวนสัตว์พาต้าเลยสักครั้งในชีวิต ซึ่งถือเป็นการมอมเมาเด็กและเยาวชนจากหลักฐานที่ผู้ต่อต้าน ชี้แนะให้เด็ก ๆ จำนวนมาก เห็นสิ่งที่สวนสัตว์พาต้า กระทำตลอดมา ว่าเป็นความผิด ทั้งที่ประกอบกิจการทั้งหมดนั้นอยู่ภายใต้กฎหมาย
.
.
ตลอดจนให้เด็ก ๆ เหล่านั้นเขียนข้อความ ลงลายมือชื่อ และนามสกุล เพื่อต่อต้านสวนสัตว์พาต้า ซึ่งเชื่อว่าเหตุการณ์เหล่านี้ มีผู้ปกครองมากมายไม่ทราบเรื่องราวว่า บุตรหลานของท่านได้ถูกบุคคลนักอนุรักษ์สัตว์ผู้นี้ ชี้นำให้กระทำการต่อต้านในสิ่งที่ยังไม่สามารถวิเคราะห์ได้ด้วยวุฒิภาวะของตนเอง ทั้งยังให้เด็ก ๆ เหล่านั้น ลงลายมือชื่อ และนามสกุล รวมถึง มีข้อความเรียกร้องให้ปล่อยตัวบัวน้อยออกจาก “คุก!” ไว้เป็นหลักฐานด้วยการชี้นำของตน โดยที่ไม่คำนึงถึงผลเสียที่จะตามมาในตัวของเด็กและเยาวชนเหล่านั้น ว่าจะสามารถนำไปสู่หลักฐานเพื่อใช้ในการต่อสู้ทางคดีความ ที่จะต้องมีรายชื่อเด็ก ๆ เหล่านั้นอยู่ในสำนวนคดี
.
.
ยังไม่นับรวมถึงพฤติกรรมของนักอนุรักษ์สัตว์รายนี้ ที่โพสต์ข้อความว่าได้นำเรื่องราวและหนังสือบัวน้อยที่ตนเองได้สร้างขึ้นเพื่อจำหน่ายไปยังหลายประเทศ
และตั้งใจส่งไปรษณีย์ไปเพื่อให้ถึงมือเข้าชาย George องค์น้อย แห่งราชวงศ์อังกฤษ โดยมีข้อความบางตอนที่โพสต์ว่า
“หากท่านทรงเดินทางมาเมืองไทย และทรงแวะเยี่ยมบัวน้อย ท่านคงจะทรงตกพระทัยมิใช่น้อย ที่คนไทยไม่สามารถดูแลมรดกโลกได้ดีไปกว่านี้
.
.
ซึ่งถือเป็นเรื่องที่สวนสัตว์พาต้า รวมถึงประเทศชาติ ถูกตัดสินความผิดจากความรู้สึกของบุคคลผู้นี้ โดยไม่ยึดในข้อกฎหมายเป็นหลัก และยังเพิ่มความกดดัน โดยการนำเรื่องราวของบัวน้อย ออกไปไกลให้ถึงราชวงศ์ของต่างประเทศอย่างมีนัยยะ ด้วยข้อความที่ดูถูกและดูแคลนศักยภาพ และหน่วยงานผู้ดูแลกิจการ จนถึงผู้ประกอบการสวนสัตว์ของไทยอย่างเป็นหลักฐาน
ซึ่งเหตุการณ์ต่อต้านเรียกร้องมากมายที่เกิดขึ้นตลอดเวลาที่ผ่านมา ไม่น่าจะเกิดขึ้นได้ในประเทศที่มีกฎหมายแหละหน่วยงานของการควบคุมการทารุณกรรมสัตว์ ดังเช่นในประเทศไทย
.
และสวนสัตว์พาต้า ขออนุญาตและขออภัยหากข้อความต่อไปนี้ จะถือเป็นการสอนท่านผู้อนุรักษ์สัตว์รายนี้ว่า
“นักอนุรักษ์ที่มีมาตรฐานสูงทั่วโลก จะเริ่มจากพื้นฐานแห่งจิตสำนึกด้วยการไม่ต่อต้านสิ่งที่ถูกกฎหมายบนพื้นแผ่นดินในประเทศของตน
นักอนุรักษ์สัตว์ที่มีจิตใจโอบอ้อมอารี ไร้ซึ่งนัยยะเคลือบแคลง มักจะมุ่งทำประโยชน์ให้กับชีวิตสัตว์ที่น่าสงสารอีกมากมายอย่างต่อเนื่อง โดยไม่เลือกแม้ตัวตน เพศ ชนิด สายพันธุ์ หรือราคาของสัตว์ตัวนั้น ๆ จนนำไปสู่โอกาสของการสร้างชื่อเสียง รายได้ และการออกสื่อ หรือเข้าถึงบุคคลผู้ทรงเกียรติที่เกี่ยวข้อง เพื่อหน้าตาทางสังคมของตนเป็นนิจ
นักอนุรักษ์ที่อุทิศตนเพื่อสัตว์โลกที่แท้จริง มักใช้ช่วงชีวิตของตนที่มีอย่างจำกัด ทำประโยชน์ให้กับสัตว์ผู้ยากไร้รอบตัว ได้เกินกว่าร้อยพันชีวิต ที่ยังรอความช่วยเหลืออย่างน่าเวทนา ซึ่งจะได้ประโยชน์กว่า การมุ่งกระทำการต่อต้านสัตว์ล้ำค่าที่มีชื่อเสียงระดับดาวเด่นของประเทศ ทั้งยังสมบูรณ์แข็งแรง และอยู่ในความดูแลของเจ้าหน้าที่รัฐอย่างโปร่งใส จนปล่อยให้เวลาแห่งการอนุรักษ์ช่วยเหลือสัตว์ของตนเองผ่านไปอย่างไม่ประสบความสำเร็จ กับการต่อต้านสัตว์ที่ถูกกฎหมายเพียงตัวเดียว เป็นระยะเวลาเกือบ 30 ปี”
.
.
ซึ่งทางสวนสัตว์พาต้า ใคร่ขอโอกาสชี้แจงว่า มาตรฐานของหน่วยงานพิทักษ์สัตว์บนมาตรฐานโลก มักถูกก่อตั้งขึ้นเพื่อวัตถุประสงค์ของการเชื่อมโยงดูแลให้ครอบคลุมถึงการทารุณกรรมสัตว์ที่อยู่ในพื้นที่ซึ่งยากแก่การตรวจสอบ เช่น บ้านเรือน หรือ กิจการค้าสัตว์เลี้ยง เพื่อป้องกันการลักลอบค้าสัตว์ป่าผิดกฎหมาย รวมไปถึงการสอดส่องหน่วยงานเกี่ยวกับสัตว์ที่ปิดกั้นการเข้าถึงของประชาชน เช่น โรงงาน, อุตสาหกรรม จนขาดซึ่งผู้รับรู้ถึงสวัสดิภาพของสัตว์เหล่านั้น
ซึ่งประเด็นการต่อต้านที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกรณีของบัวน้อยนี้ แทบจะไม่มีที่ใด ประเทศใดในโลก ที่มีประวัติของการต่อต้านสัตว์ดาวเด่นในสวนสัตว์ประจำประเทศของตนเอง ทั้งที่กิจการสวนสัตว์ยังคงดำเนินการโดยผ่านการตรวจสอบ และคงสภาพความสะอาด รวมทั้งการเก็บค่าเข้าชมราคาถูก ซึ่งไม่ได้แสดงให้เห็นถึงผลกำไรแต่อย่างใด
.
และในส่วนนี้ ทางสวนสัตว์ ฯ เชื่อมั่นว่า สวนสัตว์พาต้าเป็นสวนสัตว์เพียงแห่งเดียวที่จัดให้มีการเข้าชมลิงกอริลลา และเก็บค่าเข้าชมในราคาที่ถูกที่สุดในโลก
คือราคาบัตร เด็ก 50 บาท และ ผู้ใหญ่ 80 บาท ซึ่งรวมราคาค่าบัตรเข้าชม 1 ครอบครัวต่อ พ่อ แม่ และลูก 1 คนเพียง 210 บาท หรือประมาณ 6 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสามารถซื้อได้เพียงแฮมเบอร์เกอร์ 1 ชิ้นในต่างแดน
และหากการต่อต้าน ทำไปเพื่อให้ “ปล่อยตัว” นั่นย่อมหมายความว่า สัตว์ตัวนั้น ๆ ถูกทารุณกรรมอย่างแน่ชัด ซึ่งไม่สามารถเกิดขึ้นได้กับสัตว์ในสวนสัตว์ ที่ยังคงให้ผู้เข้าชมได้ทราบความเคลื่อนไหวได้ตลอดเวลา เช่น ในสวนสัตว์พาต้า โดยเฉพาะชนิดสัตว์ล้ำค่าดังเช่น ลิงกอริลลาเพศเมีย ซึ่งเป็นสัตว์อันดับ 1 ที่สวนสัตว์ทั่วโลก ต่างแสวงหาเพื่อต้องการมีไว้ในครอบครอง และยาก ที่ประเทศแถบเอเชียจะได้ครอบครอง หากไม่มีศักยภาพในการลงทุน เลี้ยงดู และเข้าถึงองค์ความรู้ด้านลิงกอริลลามากพอ
.
“ทั้งที่ประเทศไทยนั้น มีกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช ภายใต้กฎหมายแห่งประเทศไทย ซึ่งเป็นหน่วยงานรับผิดชอบโดยตรง ด้วยการใช้ระเบียบการและกฎหมายกับการเข้าตรวจสอบภายในกิจการสวนสัตว์ ตามสิทธิของการตรวจตราได้ทุกซอกมุม
.
โดยไม่ต้องพึ่งพาวิจารณญาณของงอค์กรจากต่างประเทศ ที่ใช้ตัวแทนคนไทย โดยมีบัวน้อยเป็นตัวนำสื่อ เพื่อตีแผ่เรื่องราวกดดันไปทั่วโลก ทั้งที่องค์กรนั้น ๆ ไม่เคยแม้แต่เดินทางมาเพื่อทำการวิจัยอย่างเป็นกิจจะลักษณะในสถานที่จริง เหมือนดังเช่นกรมอุทยาน ฯ ที่มีสิทธิ์เข้าถึงการตรวจสอบอย่างโปร่งใส ภายใต้มาตรฐานและกฎหมายของประเทศไทย ที่ทุกฝ่ายต่างให้ความเคารพ บนพื้นฐานเดียวกัน
.
.
ซึ่งเรื่องดังกล่าวนี้ ทางผู้บริหารของทั้งห้างและสวนสัตว์พาต้า ได้นำมาวิเคราะห์กันอย่างต่อเนื่องถึงความเคลือบแคลงสงสัยในการดำเนินการองหน่วยงานมากมายที่เชื่อมโยงไปยังองค์กรต่างประเทศ จนถึงขนาดกดดันไม่ให้หลายธุรกิจแบรนด์หลักในประเทศของตน ลงนามทำสัญญาทางธุรกิจกับห้าง ฯ พาต้ามาตลอดเวลาหลายปี อย่างมีนัยยะ
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.
.