ความยาวองคชาตชาวโลกยาวขึ้นเฉลี่ย 24% แต่หมอเตือนไม่ใช่เรื่องดี
การมีขนาดน้องชายที่ใหญ่ยาวคงจะเป็นความใฝ่ฝันภาคภูมิใจของชายทุกคน แต่ดูเหมือนว่าบางทีอาจจะไม่ใช่ข้อดีเสมอไป เพราะงานวิจัยล่าสุดเปิดเผยออกมาว่า ขนาดองคชาติของผู้ชายทั่วโลกมีความยาวเฉลี่ยเพิ่มขึ้นถึง 24% ใน 30 ปีหลังสุด ซึ่งอาจมีสาเหตุมาจากความผิดปกติทางสารเคมีและสิ่งแวดล้อม
วันนี้ 21 ก.พ. 2566 มีรายงานว่า สำนักข่าวต่างประเทศได้เผยแพร่บทความเรื่อง “ความยาวองคชาตเฉลี่ยเพิ่มขึ้นใน 30 ปี”
การศึกษาใหม่เผยว่าความยาวเฉลี่ยขององคชาตเพิ่มขึ้นในช่วง 30 ปีที่ผ่านมา แต่ผู้เชี่ยวชาญเตือนว่าอาจไม่ใช่เรื่องดีตามอุดมคติของผู้ชายทุกคน
นักวิจัยกล่าวว่า ขนาดนั้นอาจมีความสัมพันธ์อันเกิดจากพฤติกรรมที่ไม่ดีต่อสุขภาพ เช่น การทานอาหารขยะ หรือนั่งทำงานทั้งวัน หรือแม้กระทั่งมลพิษ
“การเปลี่ยนแปลงใดๆ ในการพัฒนาของความยาวโดยรวมเป็นเรื่องที่น่ากังวล เนื่องจากระบบสืบพันธุ์ของเราเป็นหนึ่งในส่วนที่สำคัญที่สุดของชีววิทยามนุษย์” ดร . ไมเคิล ไอเซนเบิร์ก ผู้ศึกษากล่าวกับบล็อก Scope ของ Stanford Medicine “ถ้าเราเห็นการเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วนั่นหมายความว่ามีบางอย่างที่ทรงพลังเกิดขึ้นกับร่างกายของเรา”
การศึกษาของมหาวิทยาลัยสแตนฟอร์ด ตีพิมพ์ในWorld Journal of Men’s Health วิเคราะห์ข้อมูลจากการศึกษา 75 ชิ้น จากผู้ชายมากกว่า 55,000 คนตั้งแต่ปี 2535 ถึง 2564 โดยเน้นที่ความยาวขององคชาตที่แข็งตัว
นักวิจัยค้นพบว่าขนาดองคชาติโดยเฉลี่ยเพิ่มขึ้น 24% ในช่วงเกือบสามทศวรรษที่ผ่านมา
“ความยาวขององคชาตที่แข็งตัวนั้นยาวขึ้น จากเฉลี่ย 4.8 นิ้วเป็น 6 นิ้วในช่วง 29 ปีที่ผ่านมา”
ไอเซนเบิร์ก ตั้งขอสันนิษฐานว่า ความยาวที่เพิ่มขึ้นอาจมีสาเหตุมาจากการได้รับสารพิษ สารเคมี หรือมลภาวะ
“การสัมผัสสารเคมีจากยาฆ่าแมลงหรือผลิตภัณฑ์สุขอนามัยอาจเป็นหนึ่งในปัจจัยต่างๆ ที่ก่อให้เกิดการเติบโตอย่างรวดเร็ว สารเคมีดังกล่าวสามารถทำลายระบบต่อมไร้ท่อซึ่งควบคุมฮอร์โมน ซึ่งส่งผลให้วัยรุ่นปัจจุบันเข้าสู่ภาวะเจริญพันธุ์เร็วขึ้น”
อย่างไรก็ดี งานวิจัยดังกล่าวยังไม่ได้ข้อสรุปที่ยืนยันแน่นอน หากได้ตั้งข้อสังเกตไว้ว่า การที่อวัยวะเพศชายทั่วโลกมีขนาดยาวขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ มีความสัมพันธ์กับสิ่งแวดล้อมที่เปลี่ยนไป แน่นอนว่าไม่ใช่เรื่องดี