ชัดเจน โปร่งใส ผลสอบปรับปรุงป้ายสถานีกลางบางซื่อ ไม่พบทุจริต
ผลตรวจสอบโครงการปรับปรุง ป้ายสถานีกลางบางซื่อ 33 ล้าน ไม่พบทุจริต รายงานผลสอบให้รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ส่วนข้อเสนอแนะทั้งหมดนำไปปฏิบัติตามหรือไม่ ขึ้นกับคณะกรรมการหรือบอร์ดการถไฟจะพิจารณา
สิ้นข้อครหาแล้วจริงๆ กรณีปรับปรุงป้ายสถานีกลางบางซื่อที่จากรายงานข่าวล่าสุดของคณะกรรมการพิจารณาตรวจสอบข้อเท็จจริงการก่อสร้างโครงการปรับปรุงป้ายชื่อสถานีดังกล่าวมาเป็นสถานีกลางที่ชื่อ “กรุงเทพอภิวัฒน์” และตราสัญลักษณ์ของการรถไฟแห่งประเทศไทย ไม่พบว่าการรถไฟฯ ดำเนินการนอกเหนือจากขอบเขตงาน
ก่อนหน้านี้ นายศักดิ์สยาม ชิดชอบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม ได้แต่งตั้งคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงเรื่องดังกล่าว โดยมี นายสรพงศ์ ไพฑูรย์พงษ์ รองปลัดกระทรวงคมนาคม หัวหน้ากลุ่มภารกิจด้านการขนส่ง รักษาราชการแทน อธิบดีกรมเจ้าท่า เป็นประธานคณะกรรมการตรวจสอบฯ
สำหรับการตรวจสอบโครงการปรับปรุงป้ายสถานีกลางบางซื่อ คณะกรรมการฯ แบ่งเป็น 2 ประเด็น ได้แก่
1.ความเหมาะสมของขอบเขตงานและราคากลาง
กรณีนี้พบว่า รฟท. ไม่ได้ดำเนินการนอกเหนือจากขอบเขตงาน และเป็นไปตามรายละเอียดของงานติดตั้งป้ายเดิม ที่ รฟท.รายงานว่าได้ตรวจสอบและรับรองทางวิศวกรรม รวมทั้งติดตั้งไปแล้ว ซึ่งปรากฏว่ามีความปลอดภัยและแข็งแรงตามมาตรฐาน ดังนั้น การกำหนดขอบเขตการดำเนินการ และการกำหนดราคากลางของ รฟท.ของการดำเนินโครงการครั้งนี้ เป็นไปตามมาตรฐานทางวิชาชีพที่สามารถตรวจสอบได้
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมการฯ มีข้อเสนอแนะเพิ่มเติม โดย รฟท. อาจทบทวนเพื่อให้การดำเนินการมีประสิทธิภาพ และประหยัดงบประมาณของ รฟท.ให้ได้มากที่สุด เช่น ทบทวนรายละเอียดของวัสดุ เทคนิคที่ใช้ที่อาจทำให้การออกแบบ เลือกใช้วัสดุ และวิธีการจัดทำ และติดตั้งป้ายชื่อสถานีกลางบางซื่อในครั้งนี้มีประสิทธิภาพสูงกว่า หรือมีต้นทุนที่ต่ำกว่าเดิม, ทบทวนค่าใช้จ่ายในการรื้อถอน และจำนวนและเวลาที่ใช้งานของกระเช้าอีกครั้ง เสนอให้ใช้ตัวอักษรเดิม “สถานีกลาง” ที่ติดตั้งอยู่ในปัจจุบัน มาปรับปรุงเพื่อใช้ติดตั้งแทนที่จะทำขึ้นใหม่ทั้งหมด เพราะยังอยู่ในสภาพดี และสามารถนำมาปรับปรุงเหมือนกับตัวอักษรใหม่ได้
ทบทวนค่างานออกแบบที่อาจต่ำลงกว่าเดิมได้ เนื่องจากเป็นงานที่ออกแบบไว้เดิมอยู่แล้ว รวมทั้งทบทวนงานเผื่อเลือก (Provisional Sum) ที่อาจสามารถปรับลดได้ อาทิ การทบทวนความจำเป็นที่จะต้องมีวัสดุมาปิดไว้ทดแทนกระจกในขณะที่มีการรื้อถอน เนื่องจากงานดำเนินการในช่วงฤดูหนาว และอาคารสถานีบางส่วนเป็นพื้นที่ที่ไม่มีกระจกอยู่แล้ว เป็นต้น
2. ความถูกต้องของกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างด้วยวิธีเฉพาะเจาะจง
ประเด็นนี้คณะกรรมการฯเห็นว่า กระบวนการจัดซื้อจัดจ้างของ รฟท. แม้จะเป็นการใช้ดุลยพินิจตีความระเบียบกฎหมายในกรอบอำนาจหน้าที่โดยอาศัยเหตุและผลความจำเป็นตามที่เข้าใจ และ รฟท.ได้ชี้แจงมาข้างต้นไม่ว่าจะถูกต้องหรือไม่ก็ตาม ก็สมควรหารือผู้เชี่ยวชาญด้านพัสดุกรมบัญชีกลางให้ชัดเจน
นอกจากนี้ รฟท. ควรศึกษาทบทวนวิธีการจัดซื้อจัดจ้างให้เหมาะสม รอบคอบ และสอดคล้อง กับ พ.ร.บ.จัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุ พ.ศ.2560 โดยอาจพิจารณาแนวทางการจัดซื้อจัดจ้างตามหลักการของกฎหมาย ที่เห็นควรให้ใช้วิธีการพิจารณาเลือกใช้วิธีประกาศเชิญชวนทั่วไปเป็นลำดับแรกก่อน เพื่อให้เกิดการแข่งขันอย่างเปิดกว้าง ซึ่งจะทำให้เกิดความเชื่อมั่นถึงความโปร่งใส เป็นธรรม และเป็นที่ยอมรับของประชาชน
นอกจากนี้ เห็นควรให้ รฟท. พิจารณาทบทวนตรวจสอบกระบวนการสืบราคาให้เกิดความครบถ้วนชัดเจน และดำเนินการให้สอดคล้องกับคู่มือแนวทางการประกาศรายละเอียดข้อมูลราคากลางและการคำนวณราคากลางเกี่ยวกับการขอจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานของรัฐ ตามหนังสือกรมบัญชีกลาง ตามขั้นตอนต่อไป
รองปลัดกระทรวงคมนาคม แจ้งว่าได้รายงานผล การตรวจสอบไปยังรัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมแล้ว ส่วนข้อเสนอแนะทั้งหมด จะถูกนำไปปฏิบัติตามหรือไม่ขึ้นอยู่กับคณะกรรมการหรือบอร์ดของ รฟท.พิจารณา ซึ่งหากมีการเปลี่ยนแปลงจะต้องรายงานมายังกระทรวงคมนาคมตามระเบียบอยู่แล้ว
ส่วนกรณี รฟท.กล่าวอ้างว่า เป็นเพราะกระทรวงคมนาคมกำหนดในระเบียบว่าต้อง “เร่งรัด” การดำเนินโครงการนั้น ชี้แจงว่า การระบุคำดังกล่าวในระเบียบโครงการ เป็นปกติของการกำหนดให้แผนการดำเนินโครงการต่างๆ ของรัฐรวดเร็วเพื่อประโยชน์ของประชาชน แต่ก็ต้องคำนึงถึงระยะเวลาเพื่อให้เกิดประสิทธิภาพด้วย