ข่าวข่าวภูมิภาค

‘อิคคิว-บุ๋ม’ สวนกลับ! ร้อง ปปง. สอบเส้นทางการเงิน ‘ครูบาไก่’

อิคคิว และ บุ๋ม ร้อง สำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน สอบเส้นทางการเงิน ครูบาไก่ โต้กลับหลังถูกฟ้องหมิ่นประมาท

น.ส.วาสนา หรือ อิคคิว และ น.ส.คมคาย หรือ บุ๋ม อดีตโยมอุปัฏฐาก ครูบาไก่ หรือ พระอาจารย์สุวิทย์ ชินวโร พระดังที่ตกเป็นข่าวอยู่ในขณะนี้ ได้เดินทางยื่นหนังสือร้องเรียนต่อ นายเทพสุ บวรโชติดารา เลขาธิการ ปปง. เพื่อให้ตรวจสอบเส้นทางการเงินของครูบาไก่และพรรคพวก ทั้งเงินสด และทองคำ 188 บาท ที่ญาติโยมนำมาถวาย หวังสร้างพระองค์ปฐมฯ ว่า มีการเก็บเงินและทองคำไว้ใช้ ได้ตามวัตถุประสงค์ของญาติโยมหรือไม่

ทั้งสองกล่าวว่า ที่ผ่านมาเริ่มเห็นความผิดปกติ กับพฤติกรรมของครูบาเมื่อ 4 – 5 เดือนก่อน ประกอบกับแชทไลน์หลุดจากลูกศิษย์คนสนิท จึงตัดสินใจออกมาเปิดเผยเรื่องดังกล่าว พร้อมย้ำว่า อย่าได้ล้อเล่นกับศรัทธาของญาติโยม เพราะมันเป็นบาปที่จะติดตัวไป

ส่วนภาพที่ปรากฏตามสื่อ “ครูบาไก่” เล่นเจ็ตสกีกับลูกศิษย์คนสนิทนั้น ตนก็อยู่ในเหตุการณ์ด้วย แต่อยู่บนเรือ ยืนยันว่า ในขณะนั้นแม้จะรู้สึกแปลก แต่ก็ไม่ได้ห้ามปราม เพราะคิดว่า เป็นครูบาอาจารย์ย่อมมีวิจารณญาณมากกว่าตน จึงไม่กล้าตักเตือน และยืนยันว่า ภาพที่ปรากฏไม่ใช่ภาพตัดต่อ ซึ่งเรื่องนี้สามารถตรวจสอบได้ทั้งแง่กฎหมาย และทางเทคนิคว่า ภาพดังกล่าวเป็นของจริง ทั้งนี้ได้มอบภาพบางส่วน ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องไปแล้ว

บุ๋ม ให้สัมภาษณ์ว่าจุดแตกหักกับครูบาไก่ มาจากปมหนี้ 7 แสนบาท ครูบาเคยออกมาแถลงข่าว เงินผ้าป่าหายไปไหน ให้มาถามตน เรื่องนี้สร้างความสับสนให้ผู้คน คล้ายทำนองยักยอก ซึ่งก็ไม่เป็นความจริง ตรงกันข้ามเมื่อมีการก่อสร้าง สิ่งปลูกสร้างในวัด ทั้งตนและอิคคิว ต่างนำเงินส่วนตัวมาเป็นค่าใช้จ่าย สำรองล่วงหน้าให้ทางวัด แล้วครูบาฯ เองก็ขอยืม เรื่องนี้รู้อยู่แก่ใจ และเป็นจำนวนเงิน 1,300,000 บาท

แพรรี่ ครูบาไก่
ภาพจาก Facebook Page: ไพรวัลย์ วรรณบุตร

ซึ่งเมื่อมีผ้าป่าทาง ครูบาไก่ จึงนำเงินดังกล่าวมาคืนตน 700,000 บาท และครูบายังคงติดหนี้ตน อีกถึง 277,000 บาท อย่างไรก็ตาม อยากให้ครูบาออกมายอมรับความจริง และขอโทษประชาชน ถึงพฤติกรรมต่าง ๆ ที่เกิดขึ้น ขณะเดียวกัน ตนเองก็เดินทางไกลมาขนาดนี้ อยากให้สังคมเข้าใจ และยอมรับว่า ไม่มีทางที่จะมาใส่ร้ายแน่นอน หากไม่มีหลักฐานหรือมูลความจริง

ส่วนกรณีถูกครูบาไก่ฟ้อง 4 ข้อหา ทั้งหมิ่นประมาทด้วยการโฆษณา , ร่วมกันใส่ความคณะสงฆ์ , ร่วมกันแจ้งความเท็จ และ พ.ร.บ.คอมฯ จนถึงขณะนี้ ยังไม่มีตำรวจมาแจ้งให้รับทราบข้อกล่าวหา ส่วนตนยินดีให้ฟ้อง และจะเดินหน้าเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด

ย้อนกลับไปก่อนหน้านี้ ครูบาไก่ เข้าแจ้งความที่ สภ.มัญจาคีรี โดยคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงของทางคณะสงฆ์จะยุติชั่วคราว ต้องรอให้กระบวนการของทางตำรวจเสร็จสิ้น รวมถึงกระบวนการพิจารณาของศาล โดยระยะเวลาก็ขึ้นอยู่กับว่าจะจบที่ศาลชั้นไหน ทันทีที่กระบวนการทางกฎหมายของศาลเสร็จสิ้น ทางคณะสงฆ์ก็จะนำข้อมูลในส่วนนี้พิจารณาในกระบวนการทางพระวินัย

หากศาลพิจารณาตัดสินให้ครูบาไก่ไม่มีความผิด ทางคณะสงฆ์ก็จะยืนยันตามคำตัดสินของศาลในการนำมาพิจารณาดำเนินการทางวินัยของสงฆ์ หากศาลพิจารณาแล้วครูบาไก่ผิดจริง คณะสงฆ์ก็จะนำข้อมูลในส่วนนี้มาพิจารณาบทลงโทษทางวินัยของสงฆ์ตามขั้นตอนต่อไป

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button