ชวนดู “ดาวหาง C/2022 E3” ดวงแรกของปี 2023 มองเห็นด้วยตาเปล่า
ช่วงนี้มีดาวหาง จับตาดาวหาง ดาวหาง C/2022 E3 ดวงแรกของปี 2023 หลังมีรายงานแนวโน้มมีความสว่างมากขึ้นจนอาจมองเห็นด้วยตาเปล่า
วันที่ 9 มกราคม 2566 เฟซบุ๊กแฟนเพจ NARIT สถาบันวิจัยดาราศาสตร์แห่งชาติ ได้ออกมาให้ขอมูลเกี่ยวกับ ดาวหาง C/2022 E3 หรือในชื่อ (ZTF) ที่นักดาราศาสตร์เพิ่งค้นพบเมื่อไม่นานมานี้
ดาวหางดังกล่าวกำลังจะโคจรเข้าสู่ตำแหน่งใกล้ดวงอาทิตย์มากที่สุด (Perihelion) ในวันที่ 12 มกราคม ค.ศ. 2023 คาดว่าช่วงดังกล่าวดาวหางจะมีส่วนหางที่ฟุ้งกระจายและส่องสว่างมากที่สุด และจะเข้าใกล้โลกมากที่สุดระหว่างวันที่ 1-2 กุมภาพันธ์ 2566
ช่วงดังกล่าว ดาวหางจะสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ หากสถานการณ์ไม่เปลี่ยนแปลง อาจเป็นไปได้ที่จะสามารถสังเกตเห็นดาวหางดวงนี้ด้วยตาเปล่าได้จาง ๆ ในท้องฟ้าที่มืด แต่เนื่องจากความสว่างของดาวหางเป็นสิ่งที่คาดการณ์ได้ยาก เพราะมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา และหลายครั้งที่ดาวหางมีความสว่างเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ แต่สุดท้ายก็ยังไม่เพียงพอที่จะมองเห็นด้วยตาเปล่าได้ อย่างไรก็ตาม นับว่ายังมีจังหวะนานหลายวันที่จะสังเกตเห็นผ่านกล้องสองตา หรือกล้องโทรทรรศน์ในช่วงปลายเดือนมกราคมถึงต้นกุมภาพันธ์ 2566
จากข้อมูลของนาซา ผู้สังเกตที่อยู่บริเวณซีกโลกเหนือจะสามารถสังเกตดาวหางได้ในช่วงเช้ามืด ซึ่งกำลังปรากฏเคลื่อนตัวไปทางทิศตะวันตกเฉียงเหนือในเดือนมกราคม จากนั้นดาวหางจะปรากฏให้ผู้สังเกตในซีกโลกใต้สังเกตได้ในช่วงต้นเดือนกุมภาพันธ์
ช่วงเวลาที่เหมาะสมในการสังเกตดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) คือวันที่ดวงจันทร์ไม่สว่างมาก (จันทร์ดับ หรือดวงจันทร์ปรากฏเป็นเสี้ยวบาง ๆ) ในเดือนมกราคม ค.ศ. 2023 จันทร์ดับจะตรงกับวันที่ 22 มกราคม ดังนั้น หากสภาพอากาศเอื้ออำนวย ฟ้าเปิดและไม่มีเมฆบัง จะสามารถสังเกตเห็นดาวหางในช่วงเวลาดังกล่าวบริเวณกลุ่มดาวยีราฟ (Camelopardalis)
ข้อมูลจากห้องปฏิบัติการเครื่องยนต์ขับเคลื่อนไอพ่น (JPL) ขององค์การนาซา สหรัฐอเมริกา พบว่าดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) มีคาบการโคจรครบรอบนานประมาณ 50,000 ปี ซึ่งหมายความว่าการโคจรเข้ามายังระบบสุริยะชั้นในของดาวหางดวงนี้ครั้งล่าสุดอยู่ในช่วงท้าย ๆ ของยุคหินเก่า ตรงกับช่วงที่มนุษย์ยุคแรกเริ่ม (นีแอนเดอร์ทาล) อยู่อาศัยบนโลกในช่วงยุคน้ำแข็ง
ดาวหาง C/2022 E3 (ZTF) ค้นพบโดยเครือข่ายกล้องตรวจท้องฟ้ามุมกว้าง Zwicky Transient Facility ในช่วงต้นเดือนมีนาคม ค.ศ. 2022 ในช่วงแรกวัตถุนี้มีค่าอันดับความสว่างปรากฏ 17.3 นักดาราศาสตร์สันนิษฐานว่าเป็นดาวเคราะห์น้อย ซึ่งขณะนั้นโคจรอยู่ภายในวงโคจรดาวพฤหัสบดี ก่อนจะสว่างขึ้นจนนักดาราศาสตร์ทราบว่าเป็นดาวหาง มีค่าอันดับความสว่าง 10 ในเดือนพฤศจิกายน ค.ศ. 2022 และคาดว่าดาวหางดวงนี้อาจมีค่าอันดับความสว่างสูงสุดถึง 6
ทั้งนี้ ค่าอันดับความสว่างปรากฏ (Apparent Magnitude) เป็นค่าที่ใช้บอกความสว่างของวัตถุท้องฟ้า เป็นปริมาณที่ไม่มีหน่วย โดยยิ่งมีเลขน้อยจะยิ่งสว่างมาก ยิ่งมีเลขมากจะยิ่งสว่างน้อย เช่น ดวงจันทร์เต็มดวง = -12.7 ดาวซิริอุส (Sirius) = -1.3 ดาวบีเทลจุส (Betelgeuse) = 0.6 เนบิวลานายพราน (M42) = 4
สำหรับ ตามนุษย์มองเห็นวัตถุที่มีสว่างน้อยที่สุดที่ค่าอันดับความสว่างปรากฏ 6
เรียบเรียง : พิสิฏฐ นิธิยานันท์ – เจ้าหน้าที่สารสนเทศดาราศาสตร์ชำนาญการ สดร.
อ้างอิง : SPACE.com