จับเภสัชกรเถื่อน ขายยาเขียวเหลืองให้กลุ่มวัยรุ่นใช้ผสม 4×100
ตำรวจสอบสวนกลางร่วม อย. ปราบเภสัชกรเถื่อน ขายยาเขียวเหลือง หรือ ทรามาดอล ให้กลุ่มวัยรุ่นใช้ผสม 4×100 ตรวจค้นร้านยาในกรุงเทพมหานคร 4 จุด
วันที่ 23 ธันวาคม 2565 กองบัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. ) ร่วมกันแถลงผลงานจับกุมกวาดล้างเภสัชกรเถื่อน เบื้องต้นมีการดำเนินคดีกับผู้ต้องหา 4 ราย พร้อมตรวจยึดของกลาง 22 รายการ
สืบเนื่องจากกรณีได้รับเรื่องร้องเรียนจาก อย. ให้ทำการตรวจสอบร้านขายยาที่มีการสั่งซื้อยากลุ่มแก้ปวด (ทรามาดอล) และยาแก้แพ้ แก้ไอในปริมาณสูงผิดปกติ ซึ่งกลุ่มวัยรุ่นมักจะนำมาผสมสารเสพติดชนิด 4×100 จึงทำการสืบสวน และในวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ได้ร่วมกับ อย. ลงพื้นที่ตรวจสอบพื้นที่กรุงเทพมหานคร รวม 4 จุด ผู้ต้องหา 4 ราย ตรวจยึดของกลาง 22 รายการ รายละเอียดดังนี้
1. ร้านน้ำหวานเภสัช เลขที่ 57 ซอยพหลโยธิน 55 แขวงอนุสาวรีย์ เขตบางเขน กรุงเทพมหานคร โดยขณะตรวจสอบร้านขายยาดังกล่าวไม่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ จับกุมนายนฤมิตร์(สงวนนามสกุล) อายุ 31 ปี ที่ขายยา ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยนายนฤมิตร์ฯ เป็นเจ้าของร้าน เปิดร้านและขายยาด้วยตนเอง จบการศึกษาระดับปริญญาตรีและมีความรู้เรื่องยาเนื่องจากพี่สาวเป็นเภสัชกร โดยทำมาแล้วประมาณ 2 ปี ตรวจยึดของกลางเป็นยาแก้ไอแก้แพ้ 11 ขวด, ยาเขียวเหลือง (ทรามาดอล) และยากลุ่มบรรเทาปวดอื่น 610 แคปซูล
2. ร้านต้นยา 8 ฟาร์มาซี เลขที่ 35 ห้อง T.002 อาคารตุลาแมนชั่น ซอยรามคำแหง 50 (สหกรณ์ 1) ถนนรามคำแหง แขวงหัวหมาก เขตบางกะปิ กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะตรวจสอบร้านขายยาดังกล่าวไม่มีเภสัชกร อยู่ปฏิบัติหน้าที่ และจับกุมนายปภัสสร(สงวนนามสกุล) อายุ 22 ปี พนักงานที่ขายยา ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต และขายยาอันตรายระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่” โดยนายประภัสสรฯ จบการศึกษาระดับชั้นมัธยมศึกษาปีที่ 6 และรับว่าตนเคยมีประสบการณ์ทำงานร้านขายยา มาก่อนโดยทำมาแล้วประมาณ 3 ปี และรับค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท ตรวจยึดของกลางเป็นยากลุ่มบรรเทาปวด จำนวน 1,510 แคปซูล
3. บ้านยา B&M เลขที่ 54 ซอยลาดกระบัง 13/5 ถนนฉลองกรุง แขวงลาดกระบัง เขตลาดกระบัง กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะตรวจสอบร้านขายยาดังกล่าวไม่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ จับกุม น.ส.นรูอาดณี(สงวนนามสกุล) อายุ 24 ปี พนักงานขายยาในร้าน ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดย น.ส.นรูอาดณีฯ จบการศึกษาระดับปริญญาตรี ไม่ได้มีความรู้หรือประสบการเรื่องยาแต่อย่างใด และเพิ่งทำงานร้านขายยาได้ 2 วัน รับค่าจ้างเดือนละ 12,000 บาท ตรวจยึดของกลางเป็นยาเขียวเหลือง(ทรามาดอล) จำนวน 1,960 แคปซูล และยาแก้ไอยี่ห้อ Datissin จำนวน 3,607 ขวด
4. ร้านยาโปรด เลขที่ 243/11 ซอยลาดพร้าว 1 ถนนลาดพร้าว แขวงจอมพล เขตจตุจักร กรุงเทพมหานคร ซึ่งขณะตรวจสอบร้านขายยาดังกล่าวไม่มีเภสัชกรอยู่ปฏิบัติหน้าที่ จับกุมนายเศรษฐโรจน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 35 ปี พนักงานขายยาในร้าน ในความผิดฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต” โดยนายเศรษฐโรจน์ฯ ยอมรับว่าจบการศึกษาระดับปริญญาตรี มีความรู้เรื่องยาเนื่องจากเคยอบรมหลักสูตรผู้ช่วยร้านขายยา และทำมาแล้วประมาณ 1 ปี รับค่าจ้างเดือนละ 9,000 บาท ตรวจยึดของกลางเป็นยากลุ่มแก้แพ้แก้ไอ จำนวน 217 ขวด และยากลุ่มบรรเทาปวดอื่น 2,090 แคปซูล
รวมตรวจค้น 4 จุด โดยร้านขายยาทั้งหมดเป็นสถานที่ได้รับอนุญาตขายยาแผนปัจจุบัน แต่ไม่มี เภสัชกรประจำอยู่ และผู้ที่ขายยาไม่ใช่เภสัชกรโดยจบการศึกษาระดับปริญญาตรี 3 ราย และมัธยมศึกษาปีที่ 6 จำนวน 1 ราย ตรวจยึดของกลางรวม 22 รายการ เป็นยาแก้ไอแก้แพ้ 3,835 ขวด, ยาทรามาดอลและยากลุ่มแก้ปวด 6,170 เม็ด รวมมูลค่ากว่า 200,000 บาท ดำเนินคดีกับผู้ต้องหาที่ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมโดยไม่ได้รับอนุญาต 4 ราย โดยผู้ต้องหาทั้งหมดให้การรับสารภาพตลอดทุกข้อกล่าวหา
การกระทำดังกล่าวเป็นความผิดตาม
พ.ร.บ.วิชาชีพเภสัชกรรม พ.ศ. 2537 มาตรา 28 ฐาน “ประกอบวิชาชีพเภสัชกรรมฯ โดยมิได้ขึ้นทะเบียนและรับใบอนุญาต” ระวางโทษจำคุกไม่เกิน 3 ปี ปรับไม่เกิน 30,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
พ.ร.บ. ยา พ.ศ. 2510 มาตรา 32 ฐาน “ขายยาอันตรายในระหว่างที่เภสัชกรไม่อยู่ปฏิบัติหน้าที่”
ระวางโทษปรับ 1,000-5,000 บาท
นพ.วิทิต สฤษฎีชัยกุล รองเลขาธิการคณะกรรมการอาหารและยา กล่าวว่า การดำเนินการตรวจสอบจับกุมเครือข่ายร้านขายยายากลุ่มเสี่ยงร่วมกับ บก.ปคบ. ครั้งนี้เป็นการดำเนินการครั้งที่ 4 พบร้านขายยาที่ได้รับอนุญาตมีผู้ดำเนินกิจการเป็นชื่อเดียวกันและเปิดเป็นเครือข่ายหลายร้าน และกลุ่มร้านขายยาที่มิใช่เครือข่าย
โดยทั้ง 2 กลุ่มนี้มีพฤติการณ์ในยาแก้ปวดทรามาดอล และยาแก้แพ้ แก้ไอ ให้แก่กลุ่มวัยรุ่นเพื่อนำยาไปใช้ในทางที่ผิด ส่งเสริมการมอมเมาเยาวชนและเกิดปัญหาต่อสังคมตามมาอีกมากมาย
จึงขอเตือนผู้ประกอบการร้านขายยาให้ตะหนักว่าร้านขายยาเป็นด่านคัดกรองความเจ็บป่วยเบื้องต้นในชุมชน ดังนั้นการแนะนำการใช้ยาต้องแนะนำในทางที่ถูกต้อง ไม่ควรเน้นหวังเน้นกำไรและไม่มีความรับผิดชอบต่อสังคม และตัวเภสัชกรผู้มีหน้าที่ปฏิบัติการควรมีจรรยาบรรณรับผิดชอบต่อวิชาชีพต่อตนเอง
ทั้งนี้ ประชาชนทั่วไปหากพบเห็นการกระทำความผิด สามารถแจ้งได้ที่ สายด่วน ปคบ. 1135 หรือเพจ ปคบ.เตือนภัยผู้บริโภค
ที่มา : สำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา ( อย. )