รักษาสิวอุดตัน ทำยังไงดี? อ่านเคล็ดลับดูแลผิวได้ที่นี่!
ใคร ๆ ก็อยากมีผิวหน้าเนียนใสไร้สิวใช่ไหมคะ แต่เพราะเมืองไทยอากาศร้อนจัด มีทั้งฝุ่นทั้งมลภาวะมากวนใจจนก่อให้เกิดสิวอุดตัน สิวอักเสบ และสารพัดสิวตามมาไม่หยุด แถมพอสิวหายก็ยังทิ้งร่องรอยไว้ให้รักษาต่อกันอีกยาว สำหรับใครที่กำลังเจอกับปัญหานี้อยู่ วันนี้เรามีเคล็ดลับดี ๆ สำหรับคนที่กำลังเป็นสิวอยู่มาฝาก จะได้รักษากันอย่างถูกวิธีและมีผิวที่ดีไปนาน ๆ นะคะ
อยากหน้าใสไม่ใช่เรื่องยาก เรารวบรวมทริคดูแลผิวมาไว้ที่นี่แล้ว
ก่อนจะเริ่มรักษาสิว เราต้องทำความรู้จักกับสภาพผิวหน้าของตัวเอง และทำความรู้จักก่อนนะคะว่าสิวอุดตันคืออะไร ทำไมบางคนเป็นสิวบ่อย แต่บางคนถึงไม่เป็น เพราะการเกิดของสิวมีปัจจัยแวดล้อมหลายอย่าง ไม่ว่าจะเป็นอาหารการกิน การดูแลรักษาความสะอาดผิวหน้า ฮอร์โมนที่มีการเปลี่ยนแปลงในช่วงวัยรุ่นหรือช่วงมีประจำเดือน รวมถึงพันธุกรรมด้วยค่ะ
สิวอุดตันคืออะไร?
สิวอุดตันเป็นสิวที่เกิดจากการตกค้างของไขมันส่วนเกินและสิ่งสกปรกบนใบหน้า ทำให้เกิดการอุดตันในรูขุมขน อาจมองสังเกตเห็นได้หรือไม่ก็ได้ แต่เมื่อจับดูจะรู้สึกได้ว่าผิวหน้าไม่เรียบ เป็นตุ่มนูนแข็งเป็นไตอยู่ใต้ผิวหนัง แม้จะไม่ก่อให้เกิดการอักเสบ แต่บางครั้งหัวสิวก็จะโผล่ออกมาทักทายกวนใจเราด้วยค่ะ
ปกติแล้วสิวอุดตันจะมีอยู่ 2 แบบ คือ
- สิวอุดตันหัวเปิด หรือสิวหัวดำ จะเป็นสิวอุดตันที่โผล่ขึ้นมาจากผิวหน้าเล็กน้อย มักเห็นเป็นจุดสีดำ สามารถมองเห็นหัวสิวได้อย่างชัดเจน เมื่อหัวสิวใหญ่ขึ้นจะส่งผลให้รูขุมขนขยายออกกว้าง หากกดออกจะเป็นรูเล็ก ๆ และทิ้งรอยแดงหรือรอยดำไว้ให้รักษาทีหลัง
- สิวอุดตันหัวปิด หรือสิวหัวขาว ไม่สามารถมองเห็นได้จากภายนอก แต่เมื่อสัมผัสจะรู้สึกได้ว่าผิวมีตุ่มที่เกิดจากการสะสมของไขมัน แบคทีเรีย และสิ่งสกปรกอื่น ๆ อุดตันอยู่ในรูขุมขน ซึ่งหากไม่รีบรักษาก็จะทำให้กลายเป็นสิวอักเสบได้ค่ะ
สาเหตุของการเกิดสิวอุดตัน
การเกิดสิวอุดตันมีปัจจัยจากหลายสาเหตุดังต่อไปนี้ค่ะ
- ต่อมไขมันทำงานผิดปกติและผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป กรณีนี้สามารถเกิดได้จากหลายสาเหตุ เช่น พันธุกรรม สภาพอากาศ การล้างหน้าบ่อยเกินไป ผิวขาดความชุ่มชื้น หรือหากรับประทานของทอดและของมันมากเกินไปก็อาจเป็นสาเหตุทำให้ผิวหน้ามันได้
- ผิวหนังผลัดเซลล์ผิวเก่าได้ช้ากว่าปกติ ทำให้มีการสะสมของเซลล์ผิวเก่าที่ตายแล้วจนเกิดการอุดตันในรูขุมขน
- ระดับฮอร์โมนเพศชายมากเกินไปในช่วงวัยรุ่น ซึ่งสามารถเกิดขึ้นได้กับทุกเพศ
- การล้างหน้าไม่สะอาด เพราะใบหน้าของเราสัมผัสกับสิ่งสกปรกและมลภาวะอยู่เสมอ
- ใช้ผลิตภัณฑ์บำรุงผิวที่ไม่เหมาะกับผิวหน้า หรืออาจเกิดการแพ้สารบำรุงบางอย่างที่อยู่ในผลิตภัณฑ์
วิธีดูแลผิวไม่ให้เป็นสิวอุดตัน
ทราบสาเหตุของสิวอุดตันกันไปแล้ว คราวนี้มาเช็กสภาพผิวหน้าของคุณก่อนนะคะว่ามีผิวแบบไหน เพื่อที่จะได้ทราบสาเหตุการเกิดสิวอุดตัน พร้อมดูแลผิวหน้าเพื่อป้องกันสิวอุดตันให้เหมาะกับตัวเอง บางคนอาจมีผิวหน้ามัน ก็ให้สังเกตตัวเองดูว่าสาเหตุของความมันนั้นเกิดจากอะไร ล้างหน้าบ่อยแค่ไหน? ทำความสะอาดเครื่องสำอางอย่างหมดจดหรือเปล่า? ปัญหาเหล่านี้มีส่วนทำให้เกิดสิวอุดตันได้ง่ายเช่นกัน
หลังจากทราบสาเหตุของการเกิดสิวอุดตันแล้ว เรามาดูวิธีการรักษาสิวกันค่ะ
How to รักษาสิวด้วยตัวเอง
วิธีนี้เหมาะกับคนที่มีสิวอุดตันไม่มาก และยังไม่เกิดการอักเสบ โดยเริ่มจากการใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดและบำรุงผิวสูตรอ่อนโยน มีค่า pH (ความเป็นกรด-ด่าง) ใกล้เคียงกับผิว ไม่มีส่วนผสมของน้ำหอมหรือแอลกอฮอล์ เพื่อช่วยลดความมันบนใบหน้า และไม่กระตุ้นให้ผิวระคายเคืองหรือผลิตน้ำมันออกมามากเกินไป พร้อมทั้งปฏิบัติตัวดังนี้
- ล้างหน้าให้สะอาด เช้า-เย็น ไม่ควรล้างบ่อยเกินความจำเป็นเพราะจะทำให้ผิวแห้ง
- ใช้ผลิตภัณฑ์เพิ่มความชุ่มชื้นให้กับผิว โดยเฉพาะมอยส์เจอร์ไรเซอร์
- ไม่ควรแกะ เกา หรือบีบสิวเอง และไม่ควรจับใบหน้าบ่อย ๆ
- ลดการรับประทานอาหารที่มันจัด เน้นทานผัก ผลไม้
- พักผ่อนให้เพียงพอเพื่อช่วยให้เซลล์ผิวฟื้นฟูได้ดีขึ้น
บางกรณีอาจใช้ยาสำหรับรักษาสิวอุดตันซึ่งสามารถซื้อได้ตามร้านขายยาทั่วไป โดยยาทาสำหรับสิวอุดตันส่วนใหญ่มีดังนี้
- Retinoids (ยาในกลุ่มวิตามินเอ) ช่วยลดการอุดตันและลดการอักเสบ
- Benzoyl Peroxide (เบนโซอิล เพอร์ออกไซด์) เป็นยาฆ่าเชื้อแบคทีเรีย ช่วยลดการอุดตันและบรรเทาการอักเสบของสิว
- กรดอะซีลาอิก (Azelaic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิว ลดการอุดตัน ฆ่าเชื้อแบคทีเรียและช่วยลดรอยดำจากสิวได้
- กรดซาลิไซอิก (Salicylic Acid) ช่วยผลัดเซลล์ผิวและละลายหัวสิวอุดตัน รวมถึงลดความมันบนใบหน้า
- PHA (พีเอชเอ) ช่วยผลัดเซลล์ผิวอย่างอ่อนโยน
ก่อนซื้อยามารักษาสิวเอง ควรปรึกษาเภสัชกรก่อนทุกครั้ง จะได้ทราบวิธีใช้งานอย่างถูกต้อง และไม่ทำให้ดื้อยานะคะ
How to รักษาสิวอุดตันด้วยการเข้าคลินิกเสริมความงาม
สำหรับใครที่เป็นสิวอุดตันทั่วใบหน้า รักษามานานแล้วยังไม่หายสักที เราขอแนะนำให้คุณเข้าไปปรึกษาคุณหมอที่คลินิกเสริมความงามเลยค่ะ เพราะอย่างที่ได้บอกไปว่าการเป็นสิวนั้นเกิดขึ้นได้จากหลายสาเหตุ หากพยายามดูแลรักษาผิวหน้าให้สะอาดและคงความชุ่มชื้นอยู่เสมอแล้วแต่ก็ยังมีสิวอุดตันเกิดขึ้นมาไม่หยุด แถมยังทิ้งรอยดำไว้ให้ดูต่างหน้า บางทีการปรึกษาแพทย์ผู้เชี่ยวชาญจะช่วยให้ได้รับการรักษาอย่างตรงจุดมากกว่าการลองถูกลองผิดด้วยตัวเองค่ะ
ทั้งนี้ การเข้าคลินิกรักษาสิวจะมีการประเมินและวินิจฉัยการรักษาแตกต่างกันในแต่ละบุคคล แต่โดยหลัก ๆ แล้วจะมีขั้นตอนดังต่อไปนี้ค่ะ
- กดสิวเพื่อกำจัดสิวอุดตัน
- ฉีดสิวเพื่อลดการอักเสบของสิว
- มาสก์หน้าเพื่อช่วยละลายหัวสิว ฆ่าเชื้อสิว หรือให้ผิวมีความชุ่มชื้น
- ฉายแสงฆ่าเชื้อสิว หรือลดรอยสิว
- อาจต้องรับประทานยาในบางกรณี
การรักษาสิวไม่ใช่ว่าจะหายได้ในครั้งเดียว จะต้องรักษาบ่อยแค่ไหนขึ้นกับว่าปัญหาสิวของแต่ละคนรุนแรงมากน้อยเพียงใด ดังนั้นอย่าเพิ่งใจร้อนนะคะ และหลังจากที่สิวหายแล้วอาจต้องมารักษารอยดำรอยแดงจากสิวต่ออีก เรียกได้ว่ากว่าจะสวยต้องใช้เวลาจริง ๆ ค่ะ
ทริคดูแลผิวไม่ให้กลับมาเป็นสิวซ้ำ
ในช่วงที่กำลังรักษาสิว หรือหลังจากที่สิวหายแล้ว เรามีทริคดูแลผิวเพื่อป้องกันไม่ให้เกิดสิวอุดตันซ้ำจนทำให้เกิดความรำคาญใจมาแนะนำกันค่ะ การรักษาสิวอาจสร้างความรำคาญใจให้กับหลาย ๆ คน เพราะจะเป็นช่วงที่ผิวแห้งมาก ๆ แถมยังมีรอยแดงรอยดำหลงเหลือจากสิวมากวนใจ แต่อย่างที่เราได้บอกไปค่ะว่าอย่าใจร้อน ค่อย ๆ ดูแลรักษาจะได้ไม่กลับมาเป็นสิวซ้ำอีกนะคะ
- รักษาความสะอาดผิวหน้าอยู่เสมอ
หากคุณแต่งหน้าเป็นประจำ อย่าลืมเช็ดเครื่องสำอางออกให้สะอาดหมดจดก่อนล้างทำความสะอาดผิวหน้า เพื่อไม่ให้มีเครื่องสำอาง รวมถึงสิ่งสกปรกจากมลภาวะตกค้าง เพราะสิ่งเหล่านี้เป็นสาเหตุของการเกิดสิวได้ค่ะ
- ใช้เครื่องสำอางและสกินแคร์ที่ปราศจากแอลกอฮอล์และสารระคายเคือง
การเลือกใช้สกินแคร์หรือเครื่องสำอางก็เป็นสิ่งสำคัญ เพราะสารบางอย่างอาจก่อให้เกิดการแพ้ ระคายเคือง หรือกระตุ้นให้เกิดสิวอุดตัน ที่กลายเป็นสิวอักเสบตามมาได้ โดยเฉพาะคนที่มีผิวบอบบางแพ้ง่าย จะต้องพิถีพิถันในการเลือกสกินแคร์ให้เหมาะกับผิว และปราศจากสารอันตรายด้วยนะคะ
- บำรุงผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์เป็นประจำ
อย่าลืมเติมความชุ่มชื้นให้ผิวด้วยมอยส์เจอร์ไรเซอร์ ไม่ว่าจะเป็นการทาครีมบำรุง หรือการมาสก์หน้า มอยส์เจอร์ไรเซอร์จะช่วยเติมความชุ่มชื้น ทำให้หน้าไม่แห้งจนต่อมไขมันผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป ซึ่งเป็นสาเหตุที่ทำให้เกิดสิวง่าย แต่ก็ต้องเลือกผลิตภัณฑ์ให้เหมาะกับสภาพผิวหน้าของตัวเองด้วยนะคะ
- ทาครีมกันแดดที่มี SPF 50 ขึ้นไป
ครีมกันแดดเป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการบำรุงผิว เพราะนอกจากจะช่วยปกป้องแสงแดดและมลภาวะแล้วบางยี่ห้อยังมีส่วนผสมช่วยบำรุงผิว กระชับรูขุมขน แต่ทั้งนี้ก็ควรเลือกครีมกันแดดที่ไม่มีส่วนผสมของแอลกอฮอล์ หรือสารระคายเคือง เพราะอาจเกิดการแพ้ นอกจากนั้นหากใช้แล้วรู้สึกว่าหน้ามัน ควรเปลี่ยนไปใช้ครีมกันแดดยี่ห้ออื่นที่เหมาะกับสภาพผิวคุณมากกว่าเชื่อตามรีวิวนะคะ
- หากิจกรรมคลายเครียด และนอนหลับให้เพียงพอ
ความเครียดและการนอนไม่หลับเองก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่ทำให้เกิดสิวง่ายค่ะ ดังนั้นควรหากิจกรรมหรืองานอดิเรกคลายเครียด อาจจะเป็นการพบปะพูดคุยกับเพื่อนฝูงตามร้านอาหารหรือร้านกาแฟ อ่านหนังสือนิยายเรื่องโปรดสักเล่มเพื่อให้สมองได้ผ่อนคลาย และเข้านอนให้ครบอย่างน้อย 7 – 8 ชั่วโมง ผิวจะได้มีการซ่อมแซมฟื้นฟูในระหว่างนอนหลับ ทำให้ตื่นมาหน้าใสและสดชื่นด้วยค่ะ
- ดื่มน้ำมาก ๆ ทานอาหารที่มีประโยชน์
อาหารการกินก็เป็นสิ่งสำคัญ ควรดื่มน้ำในปริมาณที่ร่างกายต้องการในแต่ละวัน รวมถึงกินอาหารที่มีประโยชน์ เช่น อาหารจำพวกปลา ธัญพืช ถั่ว อัลมอนด์ ไขมันดีอย่างอะโวคาโด น้ำมันมะกอก ชาเขียว ทับทิม ส้ม แอปเปิล บล็อกโครี่ แครอท ผักโขม และมะเขือเทศ อาหารประเภทนี้จะช่วยให้ต่อมไขมันไม่ผลิตน้ำมันออกมามากจนเกินไป อีกทั้งยังมีวิตามินและประโยชน์มากมายที่ช่วยให้ผิวสวยด้วยค่ะ
เป็นยังไงบ้างคะ สำหรับทริคดูแลผิวและรักษาสิวอุดตันที่เราเอามาฝาก หรือถ้าใครอยากเข้าคลินิกไปปรึกษาคุณหมอ ก็สามารถเข้าเช็กดีลรักษาสิวได้ที่เว็บไซต์ Thaiger Deals แล้วเลือกคลินิกที่อยู่ใกล้บ้านได้เลยค่า
[lasso ref=”thethaiger-link-71″ id=”729212″ link_id=”528506″]
อ่านบทความอื่น ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
- IPL laser คืออะไร? รู้จักกับ 8 คุณสมบัติที่คุณจะหลงรักไอพีแอล
- Meso Fat คืออะไร ช่วยได้จริงไหม และข้อควรรู้ก่อนทำ
- 7 อันดับ คลินิกฉีดเมโสหน้าใสดีที่สุด ปี 2022