เปิดความหมายท่าโค้งคำนับของ ฮาจิเมะ โมริยาสุ กุนซือของทัพซามูไรบลู ญี่ปุ่น หลังพลาดท่าพ่ายให้กับ โครเอเชีย ในการจุดโทษในศึก ฟุตบอลโลก 2022 รอบ 16 ทีมสุดท้าย
ญี่ปุ่น ถือว่าเป็นหนึ่งในทีมที่ทำผลงานได้อย่างน่าประทับใจในศึกฟุตบอลโลก 2022 หลังจากที่พวกเขาปราบทั้ง เยอรมนี และ สเปน พร้อมผ่านเข้ารอบ 16 ทีมสุดท้ายมาในฐานะแชมป์ของกลุ่ม อี ก่อนที่พวกเขาจะมาแพ้ให้กับ โครเอเชีย รองแชมป์โลกจากครั้งก่อนในการดวลจุดโทษ 1-3 หลังจากที่ทั้งสองทีมเสมอกันมาใน 120 นาที 1-1
Nothing but respect for Hajime Moriyasu. ❤️#JPN | #FIFAWorldCup pic.twitter.com/gt3zsPvoQo
— Football Tweet ⚽ (@Football__Tweet) December 5, 2022
หลังจบเกม มีภาพที่ โมริยาสุ เจ้านายใหญ่ของทัพซามูไรบลู โค้งคำนับให้กับแฟนบอลที่ตามมาเชียร์ตลอด 2 สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งท่าโค้งคำนับในครั้งนี้ของกุนซือวัย 54 ปีเต็มไปด้วยความหมายที่ลึกซึ้ง
อย่างที่ทราบกันว่าตามธรรมเนียมญี่ปุ่นแล้ว การโค้งนั้นเป็นการแสดงออกเพื่อให้เกียรติหรือการเคารพต่ออีกฝ่าย ซึ่งการโค้งของชาวญี่ปุ่นนั้นมีหลายระดับและมีหลักในการปฏิบัติ โดยหลักการใหญ่ๆจะมีข้อห้ามอยู่ 3 ข้อนั่นก็คือ ห้ามงอหลัง, ห้ามขอขาและสะโพก และห้ามหายใจเข้าขณะก้มศีรษะและเมื่อกลับมาทำท่าปกติก็ห้ามหายใจออก
ปกติแล้วคนญี่ปุ่นจะทักทายด้วยการโค้งน้อยๆราว 15 องศาจะเรียกว่า อีชาคุ (Eshaku) แต่หากเป็นการโค้ง 30 องศาจะเรียกว่า เคเร (Keirei) ซึ่งมีความหมายเป็นการขอบคุณ ส่วนมากใช้เพื่อการต้อนรับหรือส่งแขก
ส่วนการโค้งในระดับ 45 องศา จะเรียกว่า ไซเคเร (Saikeirei) เป็นการโค้งเพื่อต้อนรับแขกคนสำคัญ หรือโค้งให้แก่เจ้านายหรือพ่อแม่ในพิธีสมรส หรือเพื่อแสดงออกถึงความเสียใจและขอโทษอย่างสุดซึ้ง นอกจากการโค้งแล้วยังต้องค้างในท่านี้ 3 วินาที เพื่อแสดงให้เห็นถึงความเคารพจากใจจริง
และการโค้งที่องศามากสุดที่ 70 องศาจะเรียกว่า ฉะไซ (Shazai) เป็นการโค้งที่ใช้ในการขอขมา ท่านี้จะกระทำต่อเมื่อการทำผิดใหญ่หลวงเท่านั้น และต้องโค้งและค้างท่านี้เอาไว้ 4 วินาที
ส่วนการโค้งคำนับของโมริยาสุในครั้งนี้ ดูเหมือนเป็นการขอโทษที่ไม่สามารถพาทีมผ่านเข้าสู่รอบ 8 ทีมสุดท้ายได้เป็นครั้งแรกในประวัติศาสตร์ แต่ก็เป็นการขอบคุณกำลังใจจากแฟนบอลที่อยู่เคียงข้างกันมาโดนตลอดในเวลาเดียวกัน และการท่ายืนโค้งของโมริยาสุในครั้งนี้ยังเป็นการบอกลาฟุตบอลโลก 2022 ของทีมชาติญี่ปุ่นได้อย่างสวยงาม