ข่าวข่าวภูมิภาค

หนุ่มหวิดตาย แอร์แบ็กระเบิด ชิ้นส่วนฝังอก ร้องหาคนรับผิดชอบ

หนุ่มวัย 46 หวิดตาย แอร์แบ็กระเบิด พบชิ้นส่วนประหลาดฝังในอก ต้องผ่าตัดเอาออก เรียกร้องหน่วยงานที่เกี่ยวข้องออกมารับผิดชอบ

จากกรณีที่มีรายงานว่า ชายคนหนึ่งถูกแอร์แบ็กระเบิดใส่ หลังเกิดอุบัติเหตุ จึงได้ออกมาเรียกร้องให้มีการรับผิดชอบต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น เพราะอาจจะเป็นอันตรายถึงแก่ชีวิตของคนขับได้ ทั้งๆที่แอร์แบ็กควรจะเป็นอุปกรณ์ช่วยชีวิตแต่เกือบจะกลายเป็นอุปกรณ์ฆ่าคนเสียเอง

Advertisements

นายวรชัย สมบัติเจริญ ผู้ได้รับบาดเจ็บวัย 46 ปีเล่าว่าเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 25 ตุลาคม เวลาประมาณ 14.00 น. ตนขับรถยนต์วิ่งขาเข้าเส้น สาย 3 ได้ชนท้ายรถกระบะ และเกิดถุงลมนิรภัยระเบิด โดยตนมาทราบเรื่องหลังจากที่ได้โทรแจ้งตำรวจและโทรหาคนใกล้เคียง

ทางเจ้าหน้าที่ได้นำตัวส่งโรงพยาบาล ตอนแรกทางโรงพยาบาล เอกซเรย์เจออะไรบางอย่างไม่รู้ฝังในหน้าอก คล้ายๆ ฝาน้ำขนาดใหญ่ ต้องรับการผ่าตัด เอาชิ้นส่วนนี้ออก จากการผ่าตัดพบว่าชิ้นส่วนที่ฝังในหน้าอกเป็นอุปกรณ์หรือชิ้นส่วนของถุงลมนิรภัย โดยหมอให้ความรู้ว่าอุปกรณ์ของรถยนต์ทำให้เกิดอันตรายแก่ชีวิตได้

ตอนแรกตนไม่ได้ตามข่าวเรื่องนี้ แต่สภาองค์ของผู้บริโภค ได้ให้ความรู้ว่า เหตุการณ์แอร์แบ็กระเบิดกับหลายคนแล้วและกับรถหลายรุ่น ซึ่งอาจทำให้เกิดเสียชีวิตได้ ต่อมาได้รับความรู้จากเพื่อนๆ ที่มาเยี่ยมและได้บอกว่า แอร์แบ็กระเบิดอันตราย

ต่อมาทางสภาองค์กรของผู้บริโภค ได้ประสานเข้ามาผ่านคุณหมอ เพื่อจะมาขอดูข้อมูลตรงนี้ และได้มีการประชุม สรุปเกิดจาก แอร์แบ็ก ระเบิดจริงๆ ซึ่งทางสภาองค์กรผู้บริโภค ได้เรียกร้องไปทางบริษัทเจ้าของรถ เพื่อจะให้เข้าช่วยเรื่องการรักษาพยาบาลและอื่นๆ

ตอนนี้ทางบริษัทเจ้าของรถ ยังไม่ติดต่อพูดคุยอะไรมา และยังไม่ทราบว่าทางบริษัทเจ้าของรถ จะติดต่อมาหรือไม่ ซึ่งทางองค์กรผู้บริโภคได้ส่งรูปภาพให้ดู จากเหตุการณ์ แอร์แบ็กระเบิด ซึ่งแอร์แบ็ก เป็นสิ่งป้องกันชีวิตอย่างสุดท้าย กลายเป็นว่าเป็นสิ่งที่อันตรายที่สุด ซึ่งอุปกรณ์ แอร์แบ็ก ทำให้คนตาย ถือว่าตนโชคดี ที่เจาะมาแล้วกระดูกไม่หัก เพราะถ้าผ่านกระดูกไปได้อาจหนักกว่านี้ สำหรับตนรุ่นอื่นไม่แน่ใจ แต่รถของตน แม้จะเปลี่ยนอุปกรณ์แอร์แบ็กแล้วก็จะมีเหตุการณ์แบบนี้เกิดขึ้นอีก และถ้าเกิดระเบิดจะอันตรายขนาดไหน

Advertisements

สำหรับบาดแผลมีที่บริเวณ หน้าอกและช่วงท้อง ทางหน้าอกได้ผ่าตัดเอาชิ้นส่วนของแอร์แบ็กออก และแขน 2 ข้าง ช่วงคอมีบาดแผลคล้ายไฟไหม้ ส่วนรถก็เสียหายมาก ยังอยู่ที่ สน. อยู่ ส่วนการรักษา มีทาง พรบ. และบัตร 30 บาท เข้าช่วย ทางบริษัทเจ้าของรถ ยังไม่ติดต่อหรือช่วยเหลือ

ผู้บาดเจ็บ เล่าอีกว่า ใช่การเกิดอุบัติเหตุเป็นเพราะเราขับรถประมาท แต่อุปกรณ์แอร์แบ็กคืออุปกรณ์ช่วยหนักให้เป็นเบา แต่ครั้งนี้อุปกรณ์เกือบจะฆ่าตนเองเสียเอง ตอนนี้ได้ให้สภาองค์กรผู้บริโภค ยื่นเรื่องกับเจ้าของบริษัทรถยนต์ให้เข้ามารับผิดชอบ เพราะตนไม่ได้ดูเรื่องกฎหมาย แล้วอยากให้ผู้รู้และหน่วยงานเข้าช่วยเหลือ

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button