ประวัติ ‘แซม แบงค์แมน-ฟรายด์’ อดีตเจ้าของ FTX อาณาจักรคริปโตที่ล่มสลาย
ส่องประวัติ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) อดีตเจ้าของ FTX จากยุครุ่งเรือง สู่การล่มสลาย ที่ทำลายทั้งระบบคริปโต
เป็นระยะเวลากว่า 1 สัปดาห์ตอนนี้ตลาดคริปโต (Crypto) กำลังอยู่ในจุดตกต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ หลังจากที่ FTX ราชันแห่งคริปโต ภายใต้การนำของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) ยื่นขอล้มละลาย ทำเอานักลงทุนทั่วโลกกุมขมับ เพราะจากมหาเศรษฐีระดับโลก ยังไปไม่รอด
ประวัติ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ เจ้าของ FTX
แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) หนุ่มมาดเซอร์ผู้มาพร้อมกับทรงผมแอโฟร เกิดเมื่อวันที่ 6 มีนาคม ค.ศ.1992 ปัจจุบันอายุ 30 ปี เป็นที่รู้จักกันในชื่อย่อ SBF เกิดและเติบโตที่สแตนฟอร์ด รัฐแคลิฟอร์เนีย โดยทั้งพ่อและแม่เป็นศาสตราจารย์ด้านกฎหมาย
จากความชอบด้านคณิตศาสตร์และวิทยาศาสตร์ทำให้ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ เข้าเรียนใน Massachusetts Institute of Technology หรือ MIT ในสาขาวิชาฟิสิกส์ และได้มีโอกาสฝึกงานเป็นนักพัฒนาโมเดลทางคณิตศาสตร์เพื่อสร้างผลตอบแทนจากการลงทุนในสินทรัพย์ต่าง ๆ หรือ Quantitative Trading
การฝึกงานในตำแหน่งนี้ เป็นจุดประกายให้เขาตัดสินใจว่าจะเอาดีในด้านนี้และได้เข้าทำงานที่ Jane Street Capital หลังเรียนจบซึ่งบริษัททำธุรกิจ Quantitative Trading และอีกธุรกิจคือ Liquidity Provider หรือผู้ให้บริการเสริมสภาพคล่องของหลักทรัพย์หรือสินทรัพย์ทางการเงินต่าง ๆ เพื่อควบคุม Bid Offer หรือราคาซื้อขายสินทรัพย์ให้มีเสถียรภาพ
แซม ทำงานอยู่ที่ Jane Street Capital เป็นเวลา 3 ปีจนกระทั่งในปี 2017 แซมเล็งเห็นว่าผู้คนทั่วโลกกำลังให้ความสนใจกับคริปโต (Cryptocurrency) จึงได้ก่อตั้งบริษัท Alameda Research ในปีเดียวกัน โดยจะโฟกัสไปที่สินทรัพย์ดิจิทัลและตลาดคริปโตโดยเฉพาะ ปัจจุบันบ.นี้มีมูลค่าสูงถึง 3.3 หมื่นล้านบาท
จุดเปลี่ยนสำคัญของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์
จุดเปลี่ยนสำคัญของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ อยู่ในปี 2019 กับการร่วมก่อตั้งบริษัท FTX ร่วมกับ แกรี่ หวัง (Gary Wang) ซึ่งแซมรับตำแหน่งเป็นประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายเทคโนโลยีหรือ CTO ได้เริ่มเปิดให้บริการ Exchange ซื้อขายคริปโตในปี 2019
แซม ออกแบบให้ FTX เป็นแพลตฟอร์มสำหรับซื้อขายคริปโตด้วยคอนเซปต์ “Built by Traders, for Traders” หรือเป็นกระดานซื้อขายที่สร้างโดยเทรดเดอร์ เพื่อเทรดเดอร์โดยเฉพาะ โดยมีต้นแบบมาจาก League of Legends เกมส์มือถือที่เขาชอบเล่นอยู่บ่อย ๆ
นอกจากนี้ FTX ก็ยังมีเหรียญเป็นของตัวเอง ชื่อว่า FTX Token หรือ FTT ถูกพัฒนาขึ้นให้เป็นเหรียญประจำ Exchange คล้ายกับ Binance Coin บน Binance หรือ Bitkub Coin บน Bitkub ซึ่งผู้ถือครอง FTT ก็จะได้รับสิทธิประโยชน์ เช่น
- นำ FTT ไปจ่ายเป็นค่าธรรมเนียมในการซื้อขายบน Exchange
- นำไปฝากไว้กับระบบเพื่อรับผลตอบแทน
จากช่วง 3 ปีที่ผ่านมา FTX ได้รับการประเมินมูลค่ากิจการอยู่ที่ 1.8 หมื่นล้านดอลลาร์สหรัฐหรือราว 5.9 แสนล้านบาท โดยแซม ที่เป็นผู้ก่อตั้งและเจ้าของ มีทรัพย์สินมากถึง 2.8 แสนล้านบาท
FTX อาณาจักรคริปโตที่ล่มสลาย
ล่าสุด FTX ภายใตการนำของ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ (Sam Bankman-Fried) ประสบกับวิกฤตการละลายในปลายปี 2022 นำไปสู่การล่มสลายใน FTT ของคริปโตเคอเรนซีดั้งเดิมของ FTX ซึ่งในขณะที่ แซม มูลค่าสุทธิสูงสุดที่ 26 พันล้านเหรียญ ในเดือนตุลาคม 2022 เขามีมูลค่าสุทธิประมาณ 10.5 พันล้านดอลลาร์
อย่างไรก็ตามในวันที่ 8 พฤศจิกายน 2022 ท่ามกลางวิกฤตความสามารถในการชำระหนี้ของ FTX มูลค่าสุทธิของเขาลดลง 94% ในหนึ่งวันเหลือ 991.5 ล้านดอลลาร์ ตามรายงานของ Bloomberg Billionaires Index แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ กลายเป็นบุคคลล้มละลาย
โลกแห่งคริปโตปั่นป่วนมากขึ้นไปอีก เมื่อมูลค่าบิตคอยน์ร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 ปี จนทำให้หลายคนสงสัยว่าถ้าขนาด FTX ยังล่มสลายลงได้ขนาดนี้ทั้งที่มีผู้นำระดับ แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ แล้วใครจะเป็นรายต่อไป ?
ปัจจุบัน แซม แบงค์แมน-ฟรายด์ อยู่ในกสรดูแลของตำรวจในบาฮามาส ทางตะวันออกของรัฐฟลอริดา สหรัฐอเมริกา ในระหว่าการขึ้นศาลฟ้องล้มละลาย และได้ประกาศขายบ้านและทรัพย์สินต่าง ๆ มูลค่ารวมกว่า 1,500 ล้านบาท