เคาะแล้ว “ห้ามสูบกัญชาในรร.-ที่สาธารณะ” มีโทษจำคุกสูงสุด 1 ปี
สรุปชัด “ห้ามสูบกัญชาในโรงเรียน-ที่สาธารณะ” และห้ามจำหน่ายให้กับผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี เป็นความผิดเข้าข่ายตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย และพ.ร.บ.การสาธารณสุข มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ เช็กรายละเอียดที่นี่
รองโฆษกประจำกสำนักนายกรัฐมนตรี น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล ประกาศชัดกฎหมายที่เกี่ยวกับกัญชา ห้ามสูบกัญชาในโรงเรียนและที่สาธารณะ ตามที่ได้ปรากฏกรณีมีกลุ่มนักเรียนสูบกัญชาในโรงเรียน และขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งกระทรวงศึกษาธิการ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้เข้าไปดำเนินการตามข้อกฎหมายแล้วนั้น ขอย้ำเตือนทั้งกลุ่มเยาวชน ผู้ครอบครองและขายส่วนของกัญชา
ตลอดจนทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องอีกครั้งว่า แม้ปัจจุบัน พ.ร.บ.กัญชา กัญชง จะยังไม่มีผลบังคับ แต่มีกฎหมายควบคุมให้เกิดการใช้อย่างเหมาะสม ตรงตามนโยบายที่รัฐบาลสนับสนุนกัญชาทางการแพทย์ ให้ประชาชนใช้เพื่อประโยชน์ในการดูแลสุขภาพ และการผลิตผลิตภัณฑ์ต่างๆเพื่อประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ
สำหรับกฎหมายที่ควบคุมการใช้กัญชา กัญชง ในปัจจุบันอยู่ในประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง สมุนไพรควบคุม (กัญชา) พ.ศ. 2565 มีข้อกำหนดในส่วนการห้ามจำหน่ายกัญชา กัญชงให้แก่ ผู้ที่มีอายุต่ำกว่า 20 ปี, สตรีมีครรภ์ หรือสตรีที่ให้นมบุตร หากฝ่าฝืนก็ต้องรับโทษตามพระราชบัญญัติคุ้มครองและส่งเสริมภูมิปัญญาการแพทย์แผนไทย มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 20,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
รวมถึงประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง กำหนดให้การกระทำให้เกิดกลิ่น หรือควันกัญชา กัญชง หรือพืชอื่นใด เป็นเหตุรำคาญ พ.ศ. 2565 ได้ควบคุมไม่ให้มีการ สูบ เสพในที่สาธารณะทุกประเภท ซึ่งรวมถึงโรงเรียนด้วย โดยหากเจ้าหน้าที่แจ้งให้เลิก แต่ผู้สูบ เสพ ไม่เลิกจะมีความผิดตาม พ.ร.บ.การสาธารณสุข มีโทษจำคุกไม่เกิน 1 เดือน หรือปรับไม่เกิน 2,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“จากกรณีที่เกิดขึ้นที่ผู้สูบกัญชาเป็นเยาวชนซึ่งมีการซื้อมาจากตลาดนั้น เป็นกรณีฝ่าฝืนกฎหมายในส่วนที่ห้ามขายกัญชา กัญชงให้แก่เยาวชนที่อายุต่ำว่า 20 ปี เช่นนี้ถือว่าผู้ขายมีความผิด ส่วนที่มีการสูบกัญชาในเขตโรงเรียนถือว่าเป็นสถานที่สาธารณะ ซึ่งประกาศสาธารณสุขระบุห้ามไว้ หากเจ้าหน้าที่ตักเตือนแล้วยังกระทำอีกก็ถือว่ามีความผิดตามกฎหมาย ขอย้ำว่าปัจจุบันมีกฎหมายควบคุมการใช้ประโยชน์จากกัญชาอย่างเหมาะสม การที่กัญชา กัญชงไม่อยู่ในบัญชียาเสพติดให้โทษแล้วไม่ได้หมายความว่าบุคคลใด จะใช้กัญชาเพื่อการใด ในสถานที่ใดก็ได้ และรัฐบาลไม่สนับสนุนการใช้กัญชา กัญชงเพื่อการสันทนาการ” น.ส.ไตรศุลี กล่าว.