ครม. เห็นชอบขยายเวลา EXIM Biz Transformation Loan ถึง 30 มิ.ย. 66
คณะรัฐมนตรี (ครม.) ได้มีมติเห็นชอบให้มีการขยายระยะเวลาโครงการสินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan จากเดิมที่สิ้นสุดเมื่อปลาอยเดือนที่ผ่านมา ให้มาเป็นถึงวันที่ 30 มิ.ย. 2566
(17 ส.ค. 2565) น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีกล่าวว่า คณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบขยายระยะเวลาอนุมัติวงเงินโครงการสินเชื่อ EXIM Biz Transformation Loan ของธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย(ธสน.) จากเดิมสิ้นสุดวันที่ 31 กรกฎาคม 2565 เป็นสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2566
โดยการดำเนินการดังกล่าวจะช่วยให้สามารถดำเนินการส่งเสริมผู้ประกอบการและให้บริการสินเชื่อได้ตามเป้าหมายภายในกรอบวงเงิน 5,000 ล้านบาท ซึ่งปัจจุบันมีสินเชื่อที่อยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติอีกประมาณ 3,049 ล้านบาท และยังเป็นการเสริมสภาพคล่องให้กับผู้ประกอบการในการประกอบธุรกิจ และพัฒนาศักยภาพการผลิตในภาคการส่งออกของประเทศไทย
สำหรับโครงการสินเชื่อ Biz Transformation Loan มีวัตถุประสงค์ เพื่อช่วยเหลือผู้ประกอบการที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 และต้องการปรับปรุงเครื่องจักรหรือลงทุนในเครื่องจักรใหม่ และเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการผลิตให้แก่ผู้ประกอบการที่เริ่มฟื้นตัวให้กลับมาประกอบธุรกิจได้อย่างต่อเนื่อง ด้วยต้นทุนอัตราดอกเบี้ยที่สามารถแข่งขันกับตลาดโลกได้
วงเงินอนุมัติสินเชื่อสูงสุดต่อรายไม่เกิน 100 ล้านบาทระยะเวลาการให้กู้ยืม ไม่เกิน 7 ปี อัตราดอกเบี้ยปีที่ 1-2 อัตราดอกเบี้ยคงที่ร้อยละ 2, ปีที่ 3-5 อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ลบร้อยละ 2 และ ปีที่ 6-7 อัตราดอกเบี้ย Prime Rate ทั้งนี้มีกลุ่มเป้าหมาย เป็นผู้ประกอบการทุกขนาดธุรกิจ(S/M/L) ที่อยู่ในทุกกลุ่มอุตสาหกรรม โดยเน้นอุตสาหกรรมเป้าหมายใหม่(S-Curve) และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวข้องที่ได้รับผลกระทบจากโควิด -19 เช่น อุตสาหกรรมอาหารและเกษตรแปรรูป อุตสาหกรรมยานยนต์สมัยใหม่ อุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อัจฉริยะ อุตสาหกรรมการเกษตรและเทคโนโลยีชีวภาพ และอุตสาหกรรมอนาคต ได้แก่ หุ่นยนต์เพื่ออุตสาหกรรม(Robotics) อุตสาหกรรมเชื้อเพลิงชีวภาพและเคมีชีวภาพ อุตสาหกรรมดิจิทัล และอุตสาหกรรมแพทย์ครบวงจร (Medical Hub)
โดยผลการดำเนินงาน EXIM Bizฯ ณ วันที่ 12 กรกฎาคม 2565 ธสน.ได้อนุมัติสินเชื่อไปแล้วจำนวน 55 ราย เป็นจำนวนเงิน 1,583 ล้านบาท และ ณ สิ้นเดือนพฤษภาคม 2565 มียอดเบิกใช้วงเงินจำนวน 15 ราย จำนวนเงิน 299 ล้านบาท และอยู่ระหว่างการพิจารณาอนุมัติสินเชื่ออีกจำนวน 3,049 ล้านบาท
แหล่งที่มาของข่าว : รัฐบาลไทย
สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน