ข่าวข่าวภูมิภาค

เริ่ม 5 ก.ย. นั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัด ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท

ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศที่มีใจความสำคัญว่า นับตั้งแต่ 5 กันยายน นั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัด ฝ่าฝืนปรับ 2,000 บาท

เว็บไซต์ ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ พ.ร.บ. จราจรทางบก (ฉบับที่ 13) พ.ศ. 2565 เมื่อวันที่ 7 พฤษภาคม 2565 ที่ผ่านมา ใจความสำคัญย้ำให้ผู้โดยสารนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็มขัดนิรภัย รวมถึงการจัดหาที่นั่งคาร์ซีทให้ผู้โดยสารอายุไม่เกิน 6 ปี

Advertisements

ในประกาศระบุว่า “มาตรา 123/1 ในการใช้รถนั่งสองแถว รถบรรทุกคนโดยสารขนาดเล็กที่มีการจัดที่นั่งตามความยาวของรถ รถกระบะ รถกึ่งกระบะ หรือรถยนต์อื่น ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด หากได้ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ดังต่อไปนี้ ให้คนโดยสารที่อยู่ในรถยนต์นั้น นอกจากคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้าได้รับยกเว้น ไม่ต้องรัดร่างกายด้วยเข็มขัดนิรภัยตามมาตรา 123

(1) การบรรทุกคนโดยสาร ต้องไม่เกินจำนวนตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนดสำหรับรถยนต์แต่ละประเภท และการโดยสารนั้นต้องไม่มีการยืน หรือนั่งโดยสารในลักษณะที่เป็นการเสี่ยงภัยตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนดสำหรับรถยนต์แต่ละประเภทและ

(2) การขับรถยนต์ต้องใช้อัตราความเร็วตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด ซึ่งอาจกำหนดแยกตามประเภทรถยนต์ก็ได้ แต่ต้องไม่เกินแปดสิบกิโลเมตรต่อชั่วโมง

ให้นำความในวรรคหนึ่งมาใช้บังคับกับการใช้รถบรรทุกคนโดยสารที่เป็นรถประจำทางที่ไม่ต้องติดตั้งเข็มขัดนิรภัยตามที่อธิบดีกรมการขนส่งทางบกประกาศกำหนด ในขณะขนส่งคนโดยสารในเส้นทางที่ได้รับอนุญาตประกอบการขนส่ง

มาตรา 123/2 ห้ามมิให้ผู้ขับขี่ ขับรถยนต์ในขณะที่มีคนโดยสารนั่งแถวตอนหน้าเกินสองคน หรือคนโดยสารที่นั่งแถวตอนหน้านั้นมิได้ปฏิบัติตามมาตรา 123

Advertisements

มาตรา 123/3 ผู้ขับขี่รถยนต์สาธารณะตามกฎหมายว่าด้วยรถยนต์ หรือรถที่ใช้ในการขนส่งผู้โดยสารเพื่อสินจ้างตามกฎหมายว่าด้วยการขนส่งทางบกต้องแจ้งเตือน หรือจัดให้มีการแจ้งเตือนด้วยวิธีการอื่น เพื่อให้คนโดยสารในรถนั้นปฏิบัติตามมาตรา 123 และมาตรา 123/1(1) ทุกครั้งก่อนการออกรถ ทั้งนี้ตามที่ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติประกาศกำหนด”

สรุปได้ว่า ผู้โดยสารนั่งเบาะหลังต้องคาดเข็ดขัดนิรภัย หากนั่งเบาะหลังไม่คาดเข็มขัด มีโทษปรับ 2,000 บาท สำหรับมาตรการดังกล่าวมีผลเริ่มใช้ในวันที่ 5 กันยายน

 

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

Back to top button