แนะนำ หนังกลางแปลงกทม ประจำสัปดาห์แรก เดือนกรกฎาคม ตั้งแต่วันที่ 7 – 9 ก.ค. 2565 มีเรื่องใดบ้าง เรื่องไหนห้ามพลาด เช็กกันที่นี่
เริ่มต้นเดือนใหม่ เดือนกรกฎาคม 2565 ด้วยเทศกาล “กรุงเทพฯ กลางแปลง” ตามนโยบายของผู้ว่าฯ ชัชชาติ ผู้ว่าราชการกรุงเทพ หลังจากที่ประกาศนโยบาย 12 เทศกาล 12 เดือน ซึ่งเป็นหนึ่งในนโยบายของท่านผู้ว่าฯ หลังจากที่จบกันไปแล้วกับเทศกาลดนตรีในสวนเมื่อวันที่ 3 ก.ค. 2656 ก็ต่อเนื่องไปกับเทศกาลหนังกลางแปลง เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565 เป็นต้นไป ทางทีมงาน The Thaiger จะพาส่องหนังที่จัดฉายในงานกลางแปลงสัปดาห์แรก เริ่มตั้งแต่วันที่ 7 – 9 กรกฎาคม 2565
หนังกลางแปลง ที่ฉายวันพฤหัสบดีที่ 7 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
1. อันธพาลครองเมือง (2540) | ลานคนเมือง เขตพระนคร
เริ่มกันที่ หนังกลางแปลง กทม. เรื่องแรก อันธพาลครองเมือง เป็นภาพยนตร์ไทยแนวแอคชั่น-ดราม่า ที่เล่าถึงเหตุการณ์ก่อนปี พ.ศ. 2500 สมัยที่กรุงเทพฯ ถูกเรียกว่า พระนคร การเข้ามาของวัฒนธรรมตะวันตกส่งผลให้วัยรุ่นไทยไม่เกรงกลัวต่อกฎหมาย และแย่งชิงอำนาจกันเพื่อครองเมือง เมื่อภาพยนตร์เรื่องนี้ได้ออกฉายเป็นครั้งแรกก็มีเสียงวิพากษ์วิจารณ์จากเหล่าผู้ชมจนเป็นกระแสในสังคมช่วงหนึ่ง รวมทั้งหนังเรื่องนี้ยังแจ้งเกิดให้กับนักแสดงหน้าใหม่หลาย ๆ คนที่ต่อมาก็กลายเป็นซุปตาร์แถวหน้าของเมือง อย่าง ‘พี่ติ๊ก’ หรือ เจษฎาภรณ์ ผลดี ที่รับบทเป็น แดง ตัวเอกของเรื่อง
การนำ อันธพาลครองเมือง มาฉายในเทศกาล หนังกลางแปลง ครั้งนี้ยังเป็นการตอกย้ำให้เห็นว่าหนังไทยตั้งแต่ในอดีตก็มีคุณภาพไม่แพ้หนังต่างชาติ เนื่องจากหนังเรื่องนี้เป็นภาพยนตร์ไทยเรื่องแรกที่ได้รับรางวัล ภาพยนตร์ยอดเยี่ยมจากงานประกวดภาพยนตร์อิสระที่ประเทศเบลเยี่ยม ซึ่งเป็นหนึ่งในการยกระดับภาพยนตร์ไทยอย่างแท้จริง ทุกท่านสามารถรับชมภาพยนตร์คุณภาพดีอย่าง อันธพาลครองเมือง ได้ฟรีที่ ลานคนเมือง เขตพระนคร ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค. 2565
2. รถไฟฟ้ามาหานะเธอ (2552) | True Digital Park เขตพระโขนง
รถไฟฟ้ามาหานะเธอ เป็นภาพยนตร์แนวโรแมนติก-คอมเมดี้ ที่เล่าเรื่องโดยใช้มุมมองของสาวโสดในวัย 30 ปี ที่ปิ๊งวิศวกรรถไฟฟ้าตั้งแต่แรกเห็น เทศกาลกรุงเทพฯ กลางแปลง ก็ได้นำเหตุการณ์การดำเนินเรื่องเกี่ยวกับความรักของตัวเอกอย่าง ‘เหมยลี่’ ที่รับบทโดย คริส หอวัง ภาพยนตร์ยังพาให้คุณได้สัมผัสกับบรรยากาศสถานที่เดตสุดโรแมนติกอย่าง ท้องฟ้าจำลอง หรือภาพบรรยากาศของคนกรุงฯ ผ่านถนนเยาวราชมาฉายอีกครั้ง รถไฟฟ้ามาหานะเธอก็ได้รับรางวัล สาขาภาพยนตร์ยอดเยี่ยม จารทั้งสองสถาบัน คือ รางวัลขวัญใจสื่อมวลชนและท็อปอวอร์ด 2009 ทั้งยังได้รับรางวัล ภาพยนตร์ยอดนิยมจากสตาร์พิกส์อวอร์ด ส่วนนักแสดงนำ คริส หอวัง ก็ได้รับรางวัลประเภทนักแสดงหญิงยอดเยี่ยมไปครองอีกหลายสถาบันด้วยกัน
นอกจากนี้หากผู้อ่านติดตามโซเชียลมีเดียก็คงจะได้เห็นประโยคเด็ดจากภาพยนตร์ รถไฟฟ้ามาหานะเธอ ผ่าน ๆ ตากันมาบ้าง เช่น “แฟนไม่ได้มีไว้อยู่ด้วยกันตลอดเวลา แต่มีไว้ให้รู้ว่ายังมีใครสักคนที่รักเรา” หรือ ”ก็เพราะกูอยู่กับพวกแกนี่แหละ ถึงไม่มีใครมาจีบ” ก็จะรู้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้มีประโยคเด็ดอีกมากมายให้ได้นำไปใส่แคปชั่นสนุก ๆ แล้วในงาน หนังกลางแปลง ครั้งนี้ก็จัดขึ้นฟรี ๆ ทุกคนสามารถมาสัมผัสบรรยากาศสุดโรแมนติกอย่างกับอยู่ในหนังเรื่องนี้ได้เลยที่ True Digital Park เขตพระโขนง ในวันพฤหัสบดีที่ 7 ก.ค. 2565
หนังกลางแปลง ที่ฉายวันศุกร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
1. เวลาในขวดแก้ว (2534) | ลานคนเมือง เขตพระนคร
ในวันต่อมา หนังกลางแปลง กรุงเทพ ก็ได้จัดฉาย เวลาในขวดแก้ว เป็นภาพยนตร์ที่สร้างจากนวนิยายไทยของ ประภัสสร เสวิกุล ศิลปินแห่งชาติ สาขาวรรณศิลป์ 2554 มีเนื้อหาที่สะท้อนถึงชีวิตและปัญหาของวัยรุ่นไทยรอบด้านตั้งแต่ครอบครัว การศึกษา ความรัก จนกระทั่งปัญหาสังคม โดยภาพยนตร์ก็ได้ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมากทั้งด้านรายได้ และคำนิยม การันตีได้จากการได้รับรางวัลสมาพันธ์ภาพยนตร์แห่งชาติ ครั้งที่ 1 ประจำปี พ.ศ. 2534 และรางวัลภาพยนตร์ไทย ชมรมวิจารณ์บันเทิงครั้งที่ 2 ประจำปี พ.ศ. 2534 รวมทั้งสิ้น 6 รางวัล
เรียกได้ว่า ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ และทีมที่เกี่ยวข้องเลือกหนังที่มาฉายในงาน หนังกลางแปลง ได้สอดคล้องกับผู้ชมเป็นอย่างมาก เพราะภาพยนตร์ เวลาในขวดแก้ว มีเนื้อหาที่เกี่ยวกับเด็กวัยรุ่นไทย ไม่ว่าจะในยุคสมัยใดก็ยังคงถูกจำกัดให้อยู่ภายในกรอบที่สังคมกำหนดขึ้นมา เช่น ‘นัต’ ตัวเอกของเรื่องที่รักดนตรีเป็นชีวิตจิตใจ แต่ต้องจำใจเรียนนิติฯ เพื่อให้เป็นไปตามความคาดหวังของผู้เป็นแม่ ซึ่งปัญหานี้ก็ยังคงมีให้เห็นได้ในปัจจุบัน หากใครอยากรับชมภาพยนตร์ที่สะท้อนปัญหาของสังคมไทย สามารถรับชมได้ ณ ลานคนเมือง เขตพระนคร ในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. 2565
2. 36 (2555) | True Digital Park เขตพระโขนง
36 ภาพยนตร์เรื่องแรกของ เต๋อ นวพล ธำรงรัตนฤทธิ์ ผู้กำกับและนักเขียนบทภาพยนตร์แนวอินดี้ ถึงแม้ว่าภาพยนตร์เรื่องนี้จะไม่โด่งดังเท่าเรื่องอื่น ๆ ที่ผู้กำกับ เต๋อ เคยกำกับไว้ แต่ก็ยังคงกลิ่นอายของความเป็นภาพยนตร์แนวอินดี้ที่มีคำคมให้ได้คิดตาม หรือติดปากให้แก่ผู้ชมได้อย่างแน่นอน 36 เป็นเรื่องราวเกี่ยวกับม้วนฟิล์มทั้ง 36 ฉากที่ไม่ต่อเนื่องกัน เทศกาลกรุงเทพฯ กลางแปลง คงอยากให้ผู้ชมได้หลงเข้าไปอยู่ในความทรงจำของใครที่เป็นเจ้าของฟิล์มในฉากนั้น ๆ อีกครั้งหนึ่ง
ท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ ยังคงเอาใจคนที่หวนคิดถึงอดีตกันอีกครั้งในงาน หนังกลางแปลง โดยให้ผู้ชมได้สัมผัสบรรยากาศกับฉากที่ถ่ายทำโดยกล้องฟิล์มที่ถือว่าเป็นสิ่งที่ล้าสมัยในยุคนี้แล้ว หากท่านชื่นชอบภาพฟิล์มสามารถรับได้ฟรี ณ True Digital Park เขตพระโขนง ในวันศุกร์ที่ 8 ก.ค. 2565
หนังกลางแปลง ที่ฉายวันเสาร์ที่ 9 กรกฎาคม พ.ศ. 2565
1. แพรดำ (2504) | ลานคนเมือง เขตพระนคร
อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่จัดฉายใน หนังกลางแปลง กทม. เรื่อง แพรดำ ภาพยนตร์ไทยสายรางวัลที่สร้างขึ้นเพื่อส่งออกไปยังต่างประเทศ โดยถือว่าเป็นภาพยนตร์อาชญกรรม หรือ ภาพยนตร์ฟิล์มนัวร์เรื่องแรกของประเทศไทย เล่าเรื่องราวด้านมืดของคนธรรมดาทั่วไป ซึ่ง แพรดำ เป็นภาพยนตร์ที่ส่งเข้าร่วมประกวดในงานเทศกาลภาพยนตร์นานาชาติเบอร์ลิน ประเทศเยอรมัน ในปี ค.ศ. 1961 ได้รับกระแสตอบรับที่ดีเป็นอย่างมาก ถึงจะพลาดที่ไม่ได้รับรางวัลกลับมาเลยก็ตาม จนกระทั่งปี พ.ศ. 2505 ภาพยนตร์เรื่องนี้ก็ได้รับรางวัลถ่ายภาพในงานประกาศผล รางวัลตุ๊กตาทอง
นับว่า แพรดำ คือหนังคุณภาพชั้นดีที่เป็นหนังสายรางวัล ในปัจจุบันตามหาดูได้ยากมาก แต่ในงาน หนังกลางแปลง ที่จัดขึ้นในเดือนกรกฎาคม 2565 ท่านผู้ว่าฯ ก็ได้นำหนังเรื่องนี้มาฉายอีกครั้ง หากใครไม่อยากพลาดโอกาสรับชมหนังรางวัลคุณภาพดีก็สามารถรับชมได้ ณ ลานคนเมือง เขตพระนคร ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. 2565
2. แม่นาคพระโขนง (2502) | True Digital Park เขตพระโขนง
สำหรับภาพยนตร์เรื่องสุดท้ายของสัปดาห์นี้ที่จะจัดฉายในเทศกาล กรุงเทพฯ กลางแปลง คือ แม่นาคพระโขนง ภาพยนตร์อมตะที่ถูกสร้างซ้ำมาไม่ต่ำกว่า 10 สำนวน แต่ในครั้งนี้ แม่นาคพระโขนง จะถูกถ่ายทอดผ่านศิลปะการแสดงพื้นบ้านอย่างนาฏลิเก ซึ่งในปัจจุบันเป็นศิลปะที่หาดูได้ยากมาก โดยเฉพาะในเมืองกรุง เป็นอีกหนึ่งภาพยนตร์ แม่นาคพระโขนง ที่ได้รับการวิจารณ์ในด้านดเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการพากย์และทำเสียงประกอบสดขณะฉายในตอนนั้นเอง
หนังกลางแปลง เรื่องสุดท้ายประจำสัปดาห์แรกก็ยังคงถูกคัดเลือกมาด้วยคุณภาพ ประกอบกับการเล่าเรื่องที่หาดูได้ยากในปัจจุบัน หากใครอยากรับชม แม่นาคพระโขนง ฉบับนี้สามารถรับชมได้ที่ ณ True Digital Park เขตพระโขนง ในวันเสาร์ที่ 9 ก.ค. 2565
สุดท้ายนี้ก็ฝากภาพยนตร์ทั้ง 6 เรื่องในสัปดาห์แรกของเทศกาล หนังกลางแปลง ตั้งแต่วันที่ 7 – 9 ก.ค. 2565 ส่วนเรื่องเวลาในการฉายหนังว่า ฉายเวลาใด กี่โมง ต้องรอคำตอบจากกทม.อีกครั้งหนึ่ง และเพื่อให้ตรงกับความตั้งใจของท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติที่อยากจะปลุกหนังกลางแปลงให้กลับมามีชีวิต ฟื้นฟูเศรษฐกิจในพื้นที่กรุงเทพฯ อีกครั้ง อย่าพลาดที่จะรับชมหนังกลางแปลงได้ฟรี ๆ ตามพิกัดด้านล่างนี้
เช็กพิกัดสถานที่ฉาย หนังกลางแปลง กรุงเทพ เดินทางอย่างไร
ขอแนะนำให้เดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS หรือ MRT เนื่องจาก วันที่จัดงานเทศกาล ‘กรุงเทพฯ กลางแปลง’ ตรงกับวันหยุดสุดสัปดาห์ จึงอาจทำให้มีการสัญจรทางถนนที่แออัดได้
1. ลานคนเมือง เขตพระนคร
ลานคนเมือง เขตพระนคร สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT มาลงที่สถานีสามยอด เดินประมาณ 750 เมตร โดยลานคนเมืองจะอยู่ใกล้กับเสาชิงช้า
แผนที่ https://goo.gl/maps/8p9LYE9DkG2mZiTt6
2. True Digital Park เขตพระโขนง
True Digital Park เขตพระโขนง สามารถเดินทางด้วยรถไฟฟ้า BTS มาลงที่สถานีปุณณวิถีทางออก 3 เดินประมาณ 400 เมตร หากใครมีรถยนตร์ส่วนตัวก็มีบริการจอดฟรี 3 ชั่วโมง