ข่าวข่าวภูมิภาค

สธ. พบผู้ป่วย โควิดโอมิครอน BA.4 และ BA.5 หลังเปิดผับบาร์

กระทรวงสาธารณสุข เผย พบผู้ป่วย โควิดโอมิครอน BA.4 – BA.5และ ยอดผู้ป่วยใน กทม. มากขึ้น หลังเปิดผับบาร์ ยันอยู่ในการคำนวณ

นพ.สมศักดิ์ อรรฆศิลป์ อธิบดีกรมการแพทย์ ได้กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 หลังจากที่มีการคลายล็อกเปิดผับบาร์ ตั้งแต่วันที่ 1 มิ.ย. ที่ผ่านมา ซึ่งขณะนี้แนวโล้มการติดเชื้อของโควิด-19 ในภาพรวมของประเทศไทยนั้นยังไม่ชัดเจน

แต่ในพื้นที่กรุงเทพนั้น มีแนวโน้มผู้ป่วยเพิ่มมากขึ้น โดยพบว่าในส่วนของ รพ.สังกัดกรมการแพทย์ 3 แห่ง คือ รพ.ราชวิถี รพ.เลิดสิน และรพ.นพรัตนราชธานี มีแนวโน้มพบผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นเล็กน้อย เป็นไปตามคาดการณ์ว่า เมื่อมีการผ่อนคลายก็จะติดเชื้อเพิ่มขึ้นได้

นอกจากนี้ยังพบผู้ป่วยเพิ่มขึ้นในโรงเรียนด้วย เน้นย้ำความสำคัญของวัคซีนโควิด ตามคำแนะนำของกรมควบคุมโรค คือฉีดเข็มกระตุ้นทุก 4 เดือน ส่วนเข็มกระตุ้นในเด็กนักเรียนขอให้ติดตามประกาศจากกรมควบคุมโรคอีกครั้ง

“หากตรวจ ATK ด้วยตนเองที่บ้านแล้วพบว่าติดเชื้อ ขอให้ช่วยรายงานเข้าระบบด้วย ทั้งระบบการรักษาที่บ้าน (HI) หรือเจอแจกจบ (OPD) ที่จะมีแพทย์ติดตามใน 48 ชั่วโมงแรก เพื่อช่วยในการเก็บข้อมูลประเมินสถานการณ์” นพ.สมศักดิ์กล่าวและว่า

ส่วนสถานการณ์เตียงโควิด เฉพาะรพ.สังกัดกรมการแพทย์ใน กทม. ก่อนผ่อนคลายมาตรการ อัตราครองเตียงรวมกันไม่ถึงพันเตียง แต่ช่วงนี้เพิ่มขึ้นเป็นพันกว่าเตียงอัตราครองเตียงคิดเป็น 10% ส่วนผู้ป่วยอาการรุนแรงเมื่อเทียบเฉพาะกับผู้ป่วยครองเตียง เช่น รพ.ราชวิถี ครองเตียง 30 ราย อาการรุนแรง 3 ราย คิดเป็น 10% ขณะที่เตียงโควิดยังว่างเยอะอยู่ เตียงไอซียูตอนนี้มีการครองเตียง 10-20%

ในประเด็นโควิดโอมิครอนสายพันธุ์ BA.4 และ BA.5 นั้น ทาง กรมวิทยาศาสตร์การแพทย์เฝ้าระวังและรายงานว่า เริ่มเจอผู้ติดเชื้อ BA.4 และ BA.5 เพิ่มขึ้น ซึ่งสายพันธุ์ดังกล่าวคาดว่าจะกลายพันธุ์ในตำแหน่งที่หลบภูมิคุ้มกัน แต่ความรุนแรงยังไม่ชัดเจนว่าทำให้ต้องเข้า รพ.มากขึ้นหรือไม่

ทั้งนี้ รายงานจากต่างประเทศที่นำเชื้อดังกล่าวไปทดลองในเซลล์ปอด พบว่าเชื้อลงปอดมากกว่า BA.1 และ BA.2 แต่ไม่ได้นำมาเทียบกับสายพันธุ์เดลตาที่เคยมีความรุนแรงที่สุด ขณะเดียวกันทวีปยุโรป พบการติดเชื้อเพิ่มขึ้นและเข้ารักษาในรพ.มากขึ้นพอสมควร ทั้งนี้ การติดเชื้อซ้ำเกิดขึ้นได้แน่นอน แต่ระยะจะสั้นหรือไม่ ต้องรอข้อมูลจากกรมวิทย์อีกครั้ง แต่ในข้อมูลรายงานต่างประเทศที่ทดสอบกับเซลล์ปอดยืนยันได้ว่า BA.4 BA.5 ลงปอดมากกว่า BA.1 BA.2 ดังนั้น แนวโน้มว่าน่าจะรุนแรงกว่า

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button