รีวิว CODA หัวใจไม่ไร้เสียง ขวัญใจนักวิจารณ์ คว้ารางวัลออสการ์ถึง 2 สาขา
ชวนดู CODA หัวใจไม่ไร้เสียง หนังน้ำดีที่ไม่ควรพลาด หนังขวัญใจนักวิจารณ์ ที่คว้ารางวัลออสการ์มาได้ถึง 2 รางวัล
ใครที่เป็นคอหนังต้องบอกเลยว่าไม่ควรพลาด กับหนังชั้นดีขึ้นแท่นระดับตำนานอย่างเรื่อง CODA หัวใจไม่ไร้เสียง ภาพยนตร์กระแสแรงที่สร้างสถิติมากมายบนเวทีออสการ์ปี 2022 นี้ เพราะเป็นหนังเรื่องแรกที่ชนะ Best Picture จากการเข้าชิงไม่เกิน 3 สาขา หนังเรื่องนี้มีดีอะไร วันนี้ The Thaiger จะมารีวิวให้ทุกคนได้รู้จักกัน
- รีวิว Jurassic World 3 CG ไม่มีผิดหวัง บทสรุปหนังไตรภาคที่แฟนจูราสสิครอคอย
- รีวิว 365 Days: This Day หนังสุดแซ่บจาก Netflix พระเอกงานดี บทเผ็ชแบบงงๆ กลิ่นน้ำเน่าแรง
- รีวิว Turning Red แอนิเมชันจาก Disney เมื่อการเติบโต คือการฝึกฝนให้พ่อแม่รู้สึกผิดหวัง
รีวิว CODA รวมทุกอารมณ์ สุข เศร้า เหล้าน้ำตา แทรกความฮาเล็ก ๆ ที่ทำเอายิ้มตลอดเรื่อง
| CODA หัวใจไม่ไร้เสียง (2021)
CODA ย่อมาจาก Child of Deaf Adults หรือ เด็กจากพ่อแม่ที่เป็นคนหูหนวก เป็นภาพยนตร์ออริจินัลจาก Apple TV บอกเล่าเรื่องราวของรูบี รอสซี่ เด็กสาวมัธยมปลายจากครอบครัวที่มีความบกพร่องทางการได้ยิน
รูบีเป็นคนเดียวในครอบครัวที่หูไม่หนวก ครอบครัวของเธอทำอาชีพประมง โดยมีเธอเป็นกำลังสำคัญช่วยเป็นปากและเป็นหูให้ตั้งแต่ยังเล็ก ทุกวันต้องตื่นแต่เช้าเพื่อออกเรือ ทำให้ไปโรงเรียนสายอยู่บ่อยครั้ง แต่เธอไม่เคยบ่น สิ่งที่เธอหลงใหลมีเพียงหนึ่งเดียวคือการร้องเพลง
แต่เพราะภาระหน้าที่ของครอบครัว ทำให้การทำตามความฝันของ รูบี ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย เมื่อต้องเลือกระหว่างครอบครัวกับสิ่งที่ใจปรารถนา เธอจะเลือกอะไร สามารถไปรับชมคำตอบได้แล้วที่ Netflix วันนี้
| รีวิว CODA หนังดีแห่งปี 2021
ภาพยนตร์เรื่อง CODA (2021) เป็นผลงานของ เซียน ฮีเดอร์ (Sian Heder) นักแสดง ผู้กำกับ และมือเขียนบท ซึ่งเรื่องนี้เธอก็ควบหน้าที่กำกับและเขียนบทด้วยตัวเอง เรื่องนี้ส่งผลให้เธอได้รับรางวัล Directing Award จาก Sundance Film Festival
หนังเรื่องนี้ดัดแปลงมาจากภาพยนตร์ฝรั่งเศสเรื่อง La famille Bélier (2014) บอกเล่าชีวิตของรูบีได้จับหัวใจ ชูประเด็นเรื่องหน้าที่ของลูกสาวคนเดียวที่ไม่ผิดปกติในครอบครัวคนหูหนวก ที่เธอต้องรู้สึกลำบากใจกับการต้องทิ้งครอบครัวไปเรียนต่อต่างเมือง
ยิ่งไปกว่านั้นครอบครัวไม่เห็นด้วยกับการเป็นนักร้องของเธอ เพราะการที่ทั้งบ้านเป็นคนหูหนวก ทำให้ไม่มีใครสามารถเข้าใจพรสวรรค์ด้านการร้องเพลงของเธอได้ เรียกว่าเป็นพล็อตที่บีบคั้นความรู้สึก ดราม่า เรียกน้ำตาอาบแก้ม
แต่ระหว่างทางปรับอารมณ์ด้วยความฮา ความโรแมนซ์ที่ทำเผลออมยิ้ม ถึงขั้นระเบิดเสียงหัวเราะออกมา จัดเป็นหนังฟีลกู๊ด ที่ทำคุณซึ้งน้ำตาซึมและหัวเราะน้ำตาเล็ดในคราวเดียวกัน ดูแล้วหลงรักรูบีและครอบครัวแอบช่วยลุ้นให้ทุกอย่างลงล็อกจนนาทีสุดท้าย
จุดที่ทำให้หนังเดินหน้าไปอย่างน่าติดตามก็เมื่อหนังโยนอุปสรรคต่าง ๆ เข้ามาใส่รูบี้ ก็คือปัญหาระหว่างเธอกับครอบครัว ซึ่งดันไปกระทบกับความสัมพันธ์ของเธอกับไมลส์ และทำให้คุณครูแบร์นาโด ผิดหวังทั้งที่เส้นทางนักร้องของเธอกำลังไปอย่างสวยงาม จนทำให้รูบี้เริ่มทำใจและถอดใจกับเส้นทางที่เธอเลือกไว้ ดูไปก็ลุ้นไป เอาใจช่วยให้รูบี้ได้ประสบความสำเร็จอย่างที่เธอตั้งใจ
| เพลงประกอบช่วยบิ้วตอารมณ์
เพลงประกอบของหนังเรื่องนี้ เป็นสิ่งหนึ่งที่ทำให้คนพูดถึงเป็นอย่างมาก ซึ่งก็จะแบ่งน้ำหนักของทั้งสองส่วนได้ดี ตลอดเรื่องเราจะได้ฟังเพลงเพราะ ๆ จากยุค 60 หลัก ๆ มี 2 เพลงคือ You’re All I Need to Get By ของ มาร์วิน เกย์ ปี 1968 และ Both Sides, Now ของ โจนี มิตเชลล์ ปี 1969
ซึ่งก็เป็นเพลงที่คุณครูแบร์นาโด เลือกมาเคี่ยวกรำฝึกฝนให้ รูบี้ (รับบทโดย เอมิเลีย โจนส์) ซึ่งเราก็ได้เห็นพัฒนาการของ รูบี้ ในเรื่องการร้องเพลง ควบคู่ไปกับเรื่องราวกุ๊กกิ๊กของเธอกับ ไมลส์ หนุ่มเสียงดีที่คุณครูแบร์นาโดคัดมาร้องเพลงคู่กับเธอ
| CODA กับ รางวัลออสการ์ การันตี ความสำเร็จ
CODA กลายเป็นที่ชื่นชอบในหมู่นักวิจารณ์ ซึ่งหนึ่งในนั้นเรียกภาพยนตร์เรื่องนี้ว่าเป็น “ความห่วงใย อึกทึก และเต็มไปด้วยหัวใจที่พองโต” ด้านนักวิจารณ์จากนิวยอร์คไทม์ส ยกย่องว่า “เป็นโอกาสในการแสดงความชัดเจนของภาษามือ”
ซึ่งในการประกาศรางวัลออสการ์ครั้งที่ 94 CODA ได้อีก 2 รางวัลคือ ทรอย คอตเซอร์ นักแสดงสมทบชายยอดเยี่ยม (Best Supporting Actor) และ เซียน เฮเดอร์ บทภาพยนต์ดัดแปลงยอดเยี่ยม (Best Adapted Screenplay)
นอกจากนี้ ชัยชนะของ CODA มีความสำคัญต่อชุมชนคนหูหนวก ซึ่งเป็นประเด็นที่ คอตเซอร์ กล่าวหลังจากรับรางวัลออสการ์กลับบ้าน ถือเป็นการแสดงโดยนักแสดงหูหนวกครั้งแรกที่ชนะรางวัลออสการ์ “นี่คือช่วงเวลาของเรา”