วันนี้! ตัดสิน ผู้กำกับโจ้ หรือ โจ้เฟอร์รารี ปมใช้ถุงดำรัดผู้ต้องหาเสียชีวิต
ศาลเตรียมอ่านคำพิพากษา ผู้กำกับโจ้ หรือ โจ้เฟอร์รารี คดีดังปี 64 หลัง ผู้กำกับโจ้ลงมือใช้ถุงดำรัดผู้ต้องหาเสียชีวิต
ในวันนี้ (8 มิ.ย.) เวลา 9.30 น. ศาลอาญาคดีทุจริตเเละประพฤติมิชอบกลาง ถนนเลียบทางรถไฟ ตลิ่งชัน ได้นัดอ่านคำพิพากษา คดีโจ้เฟอร์รารี่ หรือ พ.ต.อ.ธิติสรรค์ อุทธนผล อดีตผู้กำกับที่ก่อเหตุใช้ถุงดำคลุมศีรษะจนทำให้ มาวิน ผู้ต้องหายาเสพติดเสียชีวิต และกลายเป็นคดีโด่งดังเมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ปี 2564
โดยศาลเตรียมอ่านคำพิพากษาของ ผกก.โจ้ และพวกรวม 7 คน ในความผิดฐานดังต่อไปนี้
- เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- เป็นเจ้าพนักงานของรัฐร่วมกันปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติอย่างใดในตำแหน่งหรือหน้าที่หรือใช้อำนาจในตำแหน่งหรือหน้าที่โดยมิชอบเพื่อให้เกิดความเสียหายแก่ผู้หนึ่งผู้ใด หรือปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต
- ร่วมกันฆ่าผู้อื่นโดยทรมานหรือโดยกระทำทารุณโหดร้าย
- ร่วมกันตั้งแต่ห้าคนขึ้นไปข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด ไม่กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใดโดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพ ชื่อเสียง หรือทรัพย์สินของผู้ถูกข่มขืนใจนั้นเอง หรือของผู้อื่น
- หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น ไม่กระทำการนั้นหรือจำยอมต่อสิ่งนั้น
- อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 157, 288, 289 (5), 309 วรรค 2 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ.2561มาตรา 4,172
ซึ่งหากย้อนกลับไปก่อนหน้านี้
นายประยุทธ เพชรคุณ รองโฆษกฯ ได้เคยกล่าวไว้ว่า คดีนี้อัยการสูงสุด (อสส.) เป็นผู้มีอำนาจสั่งคดีตามที่กฎหมายระบุไว้ว่า คดีวิสามัญฆาตกรรม หรือการตายระหว่างการควบคุมของเจ้าหน้าที่ ให้เป็นอำนาจของอัยการสูงสุด พิจารณาสั่งคดีเพียงคนเดียว
ซึ่ง อสส.ได้พิจารณาสำนวนคดีอย่างละเอียดถี่ถ้วนแล้ว จึงมีคำสั่งฟ้องครบทุกข้อหา โดยเฉพาะข้อหาฆ่าผู้อื่นโดยทรมาน ทารุณโหดร้าย ตาม ป.อาญามาตรา 289(5) โทษประหารชีวิตสถานเดียว
ขณะที่ผู้กำกับโจ้เคยให้การว่า ยอมรับว่านำถุงพลาสติกหลายใบมาคลุมศีรษะจริงแต่ปฏิเสธว่าไม่ได้รัดแน่น หรือมีเจตนาให้เสียชีวิต แค่ต้องการทำให้กลัวเท่านั้น