รู้จัก ‘โรคซิฟิลิส (Syphilis)’ คืออะไร ? แม้ไม่มีเพศสัมพันธุ์ก็ติดได้ โรคติดง่าย แต่รักษาไม่ยาก
รู้จัก ‘โรคซิฟิลิส (Syphilis)’ คืออะไร? เกิดจากอะไร? เหมือน เอดส์ ไหม รู้หรือไม่ แม้ไม่มีเพศสัมพันธุ์ก็สามารถติดโรคซิฟิลิสได้
เมื่อพูดถึงเรื่องของโรคติดต่อทางเพศสัมพันธุ์ หลาย ๆ คนต่างก็ต้องต้ิงพูดถึงโรคเอดส์ เป็นลำดับต้น ๆ อย่างแน่นอน แต่รู้หรือไม่ว่าการมีเพศสัมพันธุ์แบบไม่ฟ้องกัน จะนำพาอีกโรคที่อันตรายไม่แพ้กันนั่นก็คือ ‘โรคซิฟิลิส (Syphilis)’ ที่นอกจากจะติดจากกิจกกรรมบนเตียงได้แล้วนั้น ยังสามารถติดจากปัจจัยอื่น ๆ ได้อีกด้วย
วันนี้ The Thaiger จะพาทุกคนไปไขข้องใจ โรคซิฟิลิส คืออะไร ? มีสาเหตุเกิดจากอะไรได้บ้าง ? มีอาการอย่างไร ?
ไขข้อข้องใจ โรคซิฟิลิส คืออะไร มีอาการอย่างไร ติดต่อได้ทางไหนบ้าง รู้ไว้ป้องกันโรค
| โรคซิฟิลิส คืออะไร มีสาเหตุ จากไหน ?
โรคซิฟิลิส (Syphilis) คือ โรคที่เกิดจาก เชื้อแบคทีเรีย Treponema Polidum. เกิดได้ที่บริเวณช่องคลอด ทวารหนัก และปาก หากไม่รับการรักษาที่ถูกต้อง อาจเกิดภาวะแทรกซ้อนจากการติดเชื้อ ส่งผลต่อระบบประสาท หัวใจ สมอง ระบบต่างๆ ของร่างกาย และอาจรุนแรงถึงขั้นเสียชีวิต
การดำเนินโรคในขั้นต้นโดยทั่วไปจะเริ่มจากบาดแผล ซึ่งมักพบบริเวณอวัยวะเพศ ปาก หรือทวารหนัก ลักษณะของแผลจะเป็นแผลที่ ‘ไม่รู้สึกเจ็บ (Painless sore)’ หรือเรียกว่า ‘แผลริมแข็ง (Chancre)’ การแพร่กระจายเชื้อสู่ผู้อื่นสามารถเกิดได้ผ่านทางการสัมผัสบาดแผลนี้
| โรคซิฟิลิส มีอาการอย่างไร ?
โรคซิฟิลิสอาจเป็นปัญหาที่ตรวจพบได้ยาก เนื่องจากการดำเนินโรคหลังจากได้รับเชื้อแล้ว เชื้อแบคทีเรียสามารถหลบซ่อนตัวอยู่เงียบ ๆ ภายในร่างกายเป็นเวลาหลายปี ก่อนที่จะมีอาการแสดงขึ้นมาในภายหลัง เรียกว่า ระยะแฝง (Latent phase) หากเราสามารถตรวจพบการติดเชื้อนี้ได้ตั้งแต่เนิ่น ๆ จะสามารถรักษาให้หายขาดได้
โดยอาการของโรคซิฟิลิส จะแบ่งออกเป็น 4 ระยะ ได้แก่
- ระยะที่ 1 มีตุ่มเล็ก ๆ แตกเป็นแผลมีน้ำเหลือง
- ระยะที่ 2 มีไข้ ปวดศีรษะ มีผื่นขึ้นตามฝ่ามือ ฝ่าเท้า หรือทั่วร่างกาย
- ระยะที่ 3 ระยะแฝง ผู้ป่วยมักไม่มีอาการแสดงใด ๆ
- ระยะที่ 4 เชื้อเข้าไปทำลายระบบสมอง และอวัยวะต่าง ๆ
สำหรับโรคซิฟิลิส ในหญิงตั้งครรภ์ จะเป็นอันตรายต่อการตั้งครรภ์มาก เนื่องจากเชื้อสามารถผ่าน รกไปยังตัวของทารก สามารถติดต่อไปยังทารกได้ทุกระยะของการตั้งครรภ์ แต่ความรุนแรงของโรคจะขึ้นกับปริมาณเชื้อในกระแสเลือด และระยะของการตั้งครรภ์ที่ติดเชื้อ ในบางรายอาจรุนแรกถึงขั้นแท้ง, พิการแต่กำเนิด หรืออาจร้ายแรงถึงเสียชีวิตระหว่างคลอดได้
| วิธีการรักษาโรคซิฟิลิส อันตรายไหม ?
| วิธีการตรวจโรคซฟิลิส (Syphilis) |
จะทราบได้อย่างไรว่าเป็นซิฟิลิส ? การตรวจวินิจฉัยทำได้โดยการตรวจ หนองจากแผล ในระยะที่ 1 หรือ ตรวจเลือด สามารถในทุกระยะ การตรวจเชื้อทำได้โดย 2 วิธีหลัก คือ
- Darkfield Exam ส่องกล้อง Darkfield เพื่อหาตัวเชื้อ การตรวจนี้สามารถวินิจฉัยได้จาก แผล หรือผื่นที่น่าสงสัยว่าอาจเกิดการติดเชื้อระยะ 1
- การตรวจเลือด เป็นการตรวจเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันต่อเชื้อซิฟิลิส มี 3 วิธี คือ
- การเจาะเลือดเพื่อหาภูมิคุ้มกันเบื้องต้น ซึ่งไม่เฉพาะเจาะจงต่อเชื้อซิฟิลิส เช่น การตรวจ VDRL หรือ RPR
- การเจาะเลือดเพื่อหาตัวเชื้อซิฟิลิสโดยเฉพาะ เช่น FTA-ABS หรือ MHA-TP
- Cerebrospinal Fluid Test การตรวจน้ำไขสันหลังจะ ทำในกรณีสงสัยการติดเชื้อในระบบประสาท
| วิธีการรักษาโรคซิฟิลิส |
- รักษาโดยการฉีดยาปฏิชีวนะเข้ากล้าม หรือการรับประทานยาปฏิชีวนะ ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับระยะของโรคที่เป็น
- ให้ตรวจเลือดเพื่อติดตามการรักษาหลังจากรักษา 6 เดือน และต้องตรวจเลือดซ้ำหลังจากนั้นทุกปี
- ผู้ป่วยโรคนี้ขณะมีแผล ควรงดการมีเพศสัมพันธ์ หรือสวมถุงยาอนามัยจนกว่าแผลหายสนิท และควรแจ้งให้คู่นอนทราบ เพื่อมารับการรักษาด้วย
- โรคนี้สามารถรักษาให้หายขาดได้ ดังนั้นผู้ที่มีพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ ควรได้รับการตรวจคัดกรองโรคซิฟิลิสอย่างสม่ำเสมอ
| โรคซิฟิลิส เอดส์ และหนองใน เหมือนกันไหม ?
ซิฟิลิส กับเอดส์ เป็นคนละโรคกันอย่างสิ้นเชิง โดยซิฟิลิสเกิดจากการติดเชื้อแบคทีเรีย แต่โรคเอดส์ เกิดจากการติดเชื้อไวรัส โดยอาการของโรคนั้นก็มีความแตกต่างกัน แต่สิ่งที่เหมือนกันนั้น คือ ช่องทางการติดต่อ สามารถติดต่อได้ทางเพศสัมพันธ์ จากแม่สู่ลูก
สำหรับโรคซิฟิลิส และหนองใน เป็นโรคที่เกี่ยวกับพฤติกรรมเสี่ยงทางเพศ โดยมีระยะฟักตัวประมาณ 3 วัน อาการของผู้ชาย จะเริ่มปัสสาวะแสบขัดและมีหนอง ส่วนในผู้หญิงจะมีอาการตกขาว มีกลิ่น มีเมือกสีเขียว ๆ หรืออาจจะไม่มีอาการเลยก็ได้
ส่วนการรักษา โรคซิฟิลิส สามารถรักษาให้หายขาดได้ แต่ เอดส์ ไม่สามารถรักษาให้หายได้
? สามารถติดตามสาระน่ารู้ต่าง ๆ เพิ่มเติมได้ที่นี่
- วันพืชมงคล 2565 พระโคกิน ‘น้ำ-หญ้า-ถั่ว-เหล้า’ น้ำท่าอุดมสมบูรณ์ เดินทางสะดวก
- เตือนภัย กินฉี่ รักษาโรค ได้จริงไหม ? ไขข้อข้องใจ ใครเคยดื่มน้ำปัสสาวะ เช็กด่วน!
- แนะนำ ปลาร้า 5 ยี่ห้อ รสนัว แซ่บหลาย เปลี่ยนทุกจานให้เด็ดฉบับอีสาน
- เตือนภัย! ไวรัสตับอักเสบบี (HBV) ติดต่อทางไหนได้บ้าง โรคร้ายกลายเป็น ‘มะเร็งตับ’