เจ้าหน้าที่พบ บอย อนันต์ นักเคลื่อนไหวทางการเมืองผูกคอเสียชีวิตปริศนา ด้านแม่ไม่ปักเชื่อ รอผลชันสูตรก่อน
เมื่อช่วงเวลาประมาณ 3.42 น. ของวันที่ 19 เมษายน ที่ผ่านมา มีพบร่างของชายผูกคอเสียชีวิต ที่ศาลารอรถข้างป้อมตำรวจ หน้าที่ว่าการอำเภอเฉลิมพระเกียรติ บ้านตลาดท่าช้าง ต.ท่าช้าง อ.เฉลิมพระเกียรติ จ.นครราชสีมา
โดยจากการตรวจสอบทำให้ทราบว่าผู้เสียชีวิตคือ คือ นายอนันต์ โลเกตุ อายุ 27 ปี หรือ บอย อนันต์ นักกิจกรรมทางการเมือง ที่เพิ่งมาร่วมกิจกรรมสัมมนาพรรคก้าวไกล ในโรงแรมแห่งหนึ่ง ที่ อ.เมืองนครราชสีมา เมื่อวันที่ 18 เมษายนที่ผ่านมา ก่อนที่จะหายตัวไป และมาพบอีกครั้งตอนผูกคอเสียชีวิตแล้ว
ซึ่งในวันนี้ (20 เม.ย) ญาติได้นำศพของนายอนันต์ หรือบอย มาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อตรวจหาเชื้อโควิด-19 ภายหลังจากที่โรงพยาบาลเฉลิมพระเกียรติ ตรวจครั้งแรกมีผลก้ำกึ่งไม่แน่ชัดว่าติดเชื้อโควิด-19 หรือไม่ จึงได้ส่งศพมาที่โรงพยาบาลมหาราชนครราชสีมา เพื่อทำการตรวจหาเชื้อซ้ำอีกครั้ง
ก่อนที่จะทำการชันสูตรศพเพื่อหาสาเหตุของการเสียชีวิตที่แท้จริง โดยมีนายุทธนา ลุนสำโรง ผู้ประสานงานเครือข่ายพื้นที่ภาคอีสานตอนล่าง พรรคก้าวไกล, นางหนูพิศ แม่ผู้เสียชีวิต และน้องชาย 2 คน เดินทางมาจากจังหวัดร้อยเอ็ด เพื่อมารับศพในครั้งนี้ด้วย
โดย นางหนูพิศ อายุ 48 ปี แม่ของผู้เสียชีวิต ให้สัมภาษณ์ว่า ปกติแล้วบอยจะเป็นคนที่ไม่ค่อยมีเรื่องกับใคร จะชอบทำกิจกรรมทางการเมือง และไม่เคยบนว่ามีปัญหาทะเลาะหรือขัดแย้งกับใคร รวมทั้งไม่เคยพูดถึงการอยากฆ่าตัวตายแต่อย่างใด
ซึ่งช่วงสงกรานต์ที่ผ่านมา บอยก็ได้กลับไปอยู่ที่บ้านที่ จ.ร้อยเอ็ดกับแม่ 4 วัน หลังจากนั้นเมื่อวันที่ 18 เมษายน ที่ผ่านมา ก็เดินทางมาร่วมกิจกรรมของพรรคก้าวไกลที่ อ.เมืองนครราชสีมา ก่อนที่จะหายตัวไป ตอนนี้คาใจมากว่าอะไรเป็นเหตุให้เขาคิดฆ่าตัวตาย ซึ่งแม่ก็ยังไม่เชื่อว่าลูกชายจะคิดสั้นผูกคอฆ่าตัวตาย โดยต้องรอผลการตรวจโควิดก่อน หลังจากนั้นก็จะต้องรอผลการชันสูตรศพหาสาเหตุการเสียชีวิตอีกครั้ง หากผลออกมาว่าฆ่าตัวตายจริงๆ ก็จะนำศพไปบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด ที่ จ.ร้อยเอ็ดต่อไป
ทั้งนี้นายอนันต์ เคยเป็นนักกิจกรรมทางการเมืองสมัยเป็นนักศึกษา เคยร่วมรณรงค์การ Vote NO ในการลงประชามติรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2560 เมื่อ 23 มิ.ย. 2559 ที่ตลาดเคหะบางพลี จ.สมุทรปราการ ต่อมาถูกตำรวจและทหารควบคุมตัวและตั้งข้อหาฝ่าฝืน และตกเป็น 1 ใน 7 จำเลยในข้อหาฝ่าฝืนพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) ว่าด้วยการออกเสียงประชามติร่างรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2559 ต่อมายังเป็น 1 ใน 5 ผู้ถูกดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.ประชามติฯ อีกครั้งเมื่อถูกจับกุมจากการติดรถเดินทางไปยัง จ.ราชบุรี โดยรถคันดังกล่าวบรรทุกสติกเกอร์ Vote NO ไปด้วยเมื่อปี 2559
- กลัวเพื่อนบ้านรังเกียจ หนุ่มคิดสั้น ผูกคอลาโลกหลังพ้นคุกวันเดียว
- สาวเครียด ถูกแอปฯ หลอกโอนเงิน หมดตัว ตัดสินใจ ผูกคอตาย
