ครม. เคาะซื้อ ‘ฟาวิพิราเวียร์’ 17 ล้านเม็ด แทนที่ ‘โมลนูพิราเวียร์’
รองโฆษกสำนักนายกฯ เผยที่ประชุม ครม. ปรับรายการจัดหายา เคาะซื้อ ฟาวิพิราเวียร์ จำนวน 17 ล้านเม็ด แทนที่ โมลนูพิราเวียร์
น.ส.ไตรศุลี ไตรสรณกุล รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกมาเปิดเผยว่าที่ประชุม ครม. ได้มีมติเปลี่ยน รายการจัดหาเวชภัณฑ์ยา และขยายระยะเวลาดำเนินการโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ : กรณีโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) ระยะการระบาดระลอกเมษายน 2564 ประจำปีงบประมาณ พ.ศ. 2565 ตามที่กระทรวงสาธารณสุขเสนอ
โดยมีสาระสำคัญเป็นการเปลี่ยนแปลงรายการจัดซื้อเวชภัณฑ์ยาจากยา Molnupiravir (โมลนูพิราเวียร์) ตามโครงการแก้ไขปัญหาโรคติดต่ออุบัติใหม่ฯ 50,000 โดส เป็นยา Favipiravir (ฟาวิพิราเวียร์) จำนวน 17,065,457 เม็ด และยา Remdesivir (เรมเดซิเวียร์) จำนวน 5,166 Vial (ขวด)
ทั้งนี้ เนื่องจากแนวทางเวชปฏิบัติการวินิจฉัย ดูแลรักษาและป้องกันการติดเชื้อในโรงพยาบาล กรณีโรคติดเชื้อโควิด-19 กำหนดให้ยาฟาวิพิราเวียร์ เป็นยาหลักที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง ทั้งที่ไม่มีอาการปอดอักเสบหรือมีอาการปอดอักเสบเล็กน้อย โดยมีอัตราการใช้ยาร้อยละ 87 ของผู้ป่วยที่ติดเชื้อทั้งหมด สำหรับยาเรมเดซิเวียร์ ใช้ในการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการรุนแรงและผู้ป่วยที่มีอาการไม่รุนแรง แต่มีข้อห้ามในการใช้ยาฟาวิพิราเวียร์ โดยมีอัตราการใช้ยาร้อยละ 2 ของผู้ป่วยติดเชื้อทั้งหมด
พร้อมทั้ง ปรับแผนการปฏิบัติงานและแผนการใช้จ่ายเงินงบประมาณในการดำเนินโครงการ และ ขยายระยะเวลาการดำเนินการตามโครงการ จากเดิมระยะเวลาดำเนินการ เดือน ต.ค. – ธ.ค. 2564 เป็น เดือน ต.ค.2564 – เดือน ก.ย. 2565