ข่าว

โควิดวันนี้ ทำนิวไฮ ติดเชื้อใหม่ทะลุ 2 หมื่น ดับ 39 ศพ สธ.เตรียมรับมือเข้ม

โควิดวันนี้ล่าสุด หลัง สธ.ประกาศ โควิดระดับ 4 ตัวเลขติดเชื้อใหม่ เสียชีวิต ทะลุนิวไฮ ผู้ป่วยใหม่พุ่งทะลุ 2 หมื่น ดับนิวไฮ 39 ศพ สธ.หนังสือด่วนวาง 4 ข้อ รับมือโอมิครอน

ศูนย์บริหารสถานการณ์โควิด-19 (ศบค.) รายงานสถานการณ์การแพร่ระบาดโรคติดเชื้อโควิด-19 ประจำวันที่ 23 ก.พ.65 โดยวันนี้ทั้งตัวเลขผู้ติดเชื้อรายใหม่และจำนวนผู้เสียชีวิตทำสถิตินิวไฮ โดยติดเชื้อใหม่ 21,232 ราย ผู้ติดเชื้อในประเทศ 21,064 ราย และผู้ป่วยมาจากต่างประเทศ 168 ราย ทำให้มีผู้ป่วยสะสม 547,358 ราย หายป่วยกลับบ้าน 16,662 ราย ส่วนเสียชีวิต 39 ศพ

Advertisements

ตัวเลขผู้หายป่วยสะสม (ตั้งแต่ 1 ม.ค. 2565) จำนวน 405,964 ราย กำลังรักษา 173,605 ส่วนสถานการณ์การ ฉีดวัคซีนโควิด-19 สรุปจำนวนการได้รับวัคซีนสะสมจำนวนการได้รับวัคซีนสะสม ตั้งแต่ 28 ก.พ. 2564 – 21 ก.พ. 2565 รวม 121,915,999 โดส ใน 77 จังหวัด แบ่งเป็น จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 1 สะสม : 53,163,555 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 2 สะสม : 49,496,871 ราย จำนวนผู้ได้รับวัคซีน เข็มที่ 3 สะสม : 19,255,573 ราย

ทั้งนี้ สืบเนื่องจากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิดทั่วโลกที่มีการระบาดอย่างรวดเร็ว สำหรับในประเทศไทย พบว่าขณะนี้ตรวจพบการติดเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่องและรวดเร็ว ทำให้วานนี้ (22 ก.พ.65) กระทรวงสาธารณสุข (สธ.) ได้ประกาศเตือนภัยจากระดับ 3 เป็นระดับ 4 ทั่วประเทศ โดยคาดว่าในประเทศไทย ช่วง 1-2 สัปดาห์แนวโน้มจะยังทรงตัวระดับสูง

ขณะเดียวกันเพื่อให้การดูแลผู้ติดเชื้อโควิดเป็นไปด้วยความเรียบร้อยมีประสิทธิภาพ สธ.ยังได้มีหนังสือด่วนที่สุด ถึง นายแพทย์ สสจ. ผอ.โรงพยาบาลศูนย์ โรงพยาบาลทั่วไป ดำเนินการ 4 ข้อ ดังนี้

1. เตรียมความพร้อมเตียง ระบบการดูแลรักษา และบุคลากรทางการแพทย์

2. ประชาสัมพันธ์เบอร์ติดต่อ รพ. เมื่อผู้ป่วยติดโควิด

Advertisements

3. เร่งรัดฉีดวัคซีนเข็มกระตุ้น

4. สื่อสารให้ประชาชนสามารถป้องกันตนเองและครอบครัว ตามมาตรการของ สธ.

โควิดวันนี้ 23 กพ

 

Pachara

นักเขียนประจำที่ Thaiger จบการศึกษาด้านศิลปกรรมศาสตร์ มหาวิทยาลัยบูรพา เคยผ่านประสบการณ์ผู้สื่อข่าวกีฬา เริ่มเขียนบทความกับ Thaiger ตั้งแต่ปี 2021 วิ่งกับการอ่านหนังสือ คือ กิจกรรมที่สนใจเป็นพิเศษ ช่องทางติดต่อ pachara@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button