จัดฟัน ชนิดโลหะ มีคำถามอะไรบ้างที่พบบ่อย ?
จัดฟัน ชนิดโลหะคืออะไร ? ต้องเสียค่าใช้จ่ายประมาณเท่าไหร่ ? วันนี้ Thaiger Medical จะพาทุกท่านมาพบคำตอบของคำถามที่ทุกท่านสงสัย รวมไปถึงให้ความรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับคำถามที่พบบ่อยสำหรับการจัดฟันชนิดโลหะ ทั้งขั้นตอนและความคาดหวังหลังจากที่ติดเครื่องมือแล้วรวมมาให้ทุกท่านได้อ่านกันในบทความนี้
จัดฟัน ชนิดโลหะคือะไร?
การจัดฟันชนิดโลหะ คือการจัดฟันที่เกิดขึ้นมาเป็นวิธีการแรก ซึ่งโลหะที่นำมาใช้ในการจัดฟันซึ่งประกอบไปด้วย ไทเทเนียมอาร์คไวร์ โอริง และโลหะอื่น ๆ ซึ่งได้รับความนิยมมาเป็นระยะเวลานานมาก แถมยังเป็นการจัดฟันชนิดที่ประหยัดที่สุดอีกด้วย และในปัจจุบันการจัดฟันประเภทนี้ ก็ได้มีการพัฒนาวัสดุให้มีขนาดที่เล็กลง โดยเน้นการใช้งานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้น อาทิ การเปลี่ยนจากการใช้เพียงสแตนเลส มาให้โลหะผสมซึ่งสามารถทำให้ฟันเคลื่อนที่ในระหว่างการรักษาได้เป็นอย่างดี
ความจริงอีกข้อสำหรับการทำทันตกรรมประเภทจัดฟันคือ แม้จะถูกระบุเป็นการทำทันตกรรมประเภทความสวยงาม แต่ไม่ได้หมายความว่าจะสามารถเลือกจัดฟันได้ตามใจชอบ ซึ่งผู้คนมากมายที่ไม่เข้าใจความอันตรายของการจัดฟัน ก็ต่างพากันไปจัดฟันกัยผู้ให้บริการที่ไม่ใช่ทันตแพทย์เป็นที่มาของคำว่า “จัดฟันแฟชั่น” ในท้ายที่สุดจึงนำพามาซึ่งผลเสียมากกว่าผลดีเสมอ ตามที่เห็นในข่าวนั่นเอง
ทำไมคนถึงนิยม จัดฟัน ชนิดโลหะ ?
เหตุผล ๆ ง่ายสำหรับข้อนี้ก็คือ ราคาที่ไม่สูงมาก พร้อมด้วยอุปกรณ์ทันตกรรมจัดฟันที่มีความสวยงาม สามารถเลือกสีสันของยางให้มีความสดใสตามที่ต้องการได้ และเป็นอุปกรณ์การจัดฟันแบบเครื่องมือที่สามารถแก้ไขปัญหาฟันที่มีความยากมากได้เช่น ปัญหาฟันเก ฟันซ้อน เป็นต้น
การจัดฟันควรเริ่มที่อายุเท่าไหร่ ?
สำหรับการจัดฟันนั้น สามารถเริ่มจัดได้ตั้งแต่ 12 ถึง 13 ปี ซึ่งเป็นช่วงวัยที่มีฟันแท้ครบทั้ง 32 ซี่นั่นเอง และในบางกรณีที่มีความผิดปกตินั้น ทันตแพทย์ก็อาจจะใช้เครื่องมือพิเศษในการยับยั้งการเจริญเติบโตของกระดูกขากรรไกรชั่วคราว เพื่อตรวจสอบโครงสร้างความผิดปกติของระบบขากรรไกรอีกด้วย
หากเป็นผู้ใหญ่แล้วจะมีผลต่อการจัดฟันหรือไม่ ?
ในปัจจุบันนั้นเรื่องอายุไม่ใช่สาเหตุหลักของปัญหาเรื่องการจัดฟัน เพราะมีวิธรการและวัสดุให้เลือกอย่างหลากหลาย รวมไปถึงความก้าวหน้าของเทคโนโลยี ก็เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ไม่ว่าเป็นช่วงวัยไหนก็สามารถจัดฟันได้
การจัดชนิดโลหะแบบธรรมดากับการจัดฟันชนิดโลหะแบบดามอนต่างกันอย่างไร ?
สิ่งที่ชัดเจนที่แตกต่างกันระหว่างการจัดฟันทั้ง 2 แบบ ถึงแม้ว่าจะเป็นการจัดฟันชนิดโลหะเหมือนกันนั่นก็คือ เทคโนโลยี Self – ligating ซึ่งใช้ระบบประตูเปิดปิดเพื่อใส่และยึดลวด แทนการใช้ยางรัดลวด ทำให้ความเสียดทานระหว่างลวดและฟันลดลง สวนทางกับการเคลื่อนที่ของฟันที่เป็นไปอย่างลวดเร็วขึ้น ทำให้ระยะเวลาในการจัดฟันลดลง
ขั้นตอนในการจัดฟันชนิดโลหะมีอะไรบ้าง ?
- เข้าพบเแพทย์เพื่อรับการตรวจและประเมิน เพื่อเตรียมแผนการรักษาที่เหมาะสม
- ทำการเคลียร์ช่องปากก่อนการทำฟัน เช่น การถอนฟัน การรักษาเหงือก และการขูดหินปูน เป็นต้น
- การติดเครื่องมือโลหะ ซึ่งเป็นวิธีที่ค่อนข้างจะสำคัญและเป็นหัวใจหลักของการจัดฟันในครั้งนี้
- หลังจากทำการติดเครื่องมือแล้ว ก็ต้องเข้ามาพบทันตแพทย์รายเดือน เพื่อตรวจสภาพและปรับเครื่องมือจัดฟัน
- หลังจากการจัดฟันนั้นก็ควรสวมใส่รีเทนเนอร์ในช่วงกลางคืน เพื่อป้องกันฟันเคลื่อน
หากมีฟันคุดจำเป็นต้องถอนออกทุกครั้งก่อนจัดฟันหรือไม่ ?
เคยได้ยินกันมานานในเรื่องของ “ฟันคุด” ว่าหากมีการ จัดฟัน ทันตแพทย์ก็จะแนะนำให้ถอนออกทุกครั้ง ซึ่งในความเป็นจริงคือ การเอาฟันคุดจะทำให้การดูแลรักษาสุขภาพของช่องปากได้ง่ายขึ้นนั่นเอง ซึ่งการที่ทันตแพทย์จะแนะนำให้เอาออกนั้นก็ขึ้นอยู่กับหลายปัจจับ เช่น สภาพฟัน สภาพเหงือก เรื่องของกลิ่นปาก และอายุ อีกทั้งในบางกรณียังส่งผลกระทบต่อการจัดฟัน จึงสมควรเอาออกเพื่อไม่ให้เกิดปัยหาในอนาคต
แต่ในบางครั้งก็ไม่จำเป็นต้องเอาฟันคุดออก เช่นในกรณีที่ผู้เข้ารับการจัดฟันมีอายุ 10 ถึง 14 ปี ก็ไม่มีเหตุจำเป็นที่ต้องผ่าเอาฟันคุดออก หากไม่ต้องการเคลื่อนฟันกรามไปด้านหลังที่ไม่มีฟันคุด
หากเป็นโรคเหงือกจะดัดฟันอย่างไร ?
โรคเหงือก หรือโรคปริทันต์นั้น คือโรคที่เกี่ยวกับคาบจุลินทรีย์ใต้เหงือกเกิดการละลายของกระดูกเบ้าฟัน ซึ่งส่งผลให้เกิดปัญหาฟันห่าง ยื่น ห้อย และฟันล้ม เป็นต้น ซึ่งควรจะได้รับการรักษาโรคให้หายดีก่อน จากนั้นการจัดฟันก็จะช่วยแก้ปัญหาการเคลื่อนตัว และควรตรวจเช็คเหงือกเป็นระยะ เพื่อป้องกันปัญหาฟันไม่คงสภาพ
อาการหลังจากการติดเครื่องมือจัดฟันเป็นอย่างไร ?
อาการหลังจากการติดเครื่องมื่อจัดฟันนนั้นจะแตกต่างกันออกไปในแต่ละรายของผู้เข้ารับการจัดฟัน ซึ่งกลุ่มอาการที่พบบ่อยคืออาการไม่สบายหลักจาก จัดฟัน ซึ่งจะมีอาการหนักเบาแตกต่างกันออกไปในแต่ละบุคคล เพราะบางคนก็จะมีอาการตึงแต่ไม่ถึงกับปวดมาก แต่ในบางรายก็จะรู้สึกปวดและมีอาการร้อนในร่วมด้วย ซึ่งอาการเหล่านี้จะคงอยู่อย่างน้อย 2 ถึง 3 วัน แล้วค่อย ๆ ดีขึ้นได้เองตามลำดับ
ควรปฏิบัติตัวอย่างไรเพื่อผลลัพธ์ที่ดีที่สุด ?
แน่นอนว่าการปฏิบัติตัวนั้นเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้ผลลัพธ์ของการจัดฟันเป็นไปได้ตามที่ใจเราคิด ฉะนั้นเราควรจะดูแลรักษาลวดและแบร็กแก็ตให้ดีไม่รับประทานของที่ใช้ฟันสบ หรือของที่มีความแข็งมากจนเกินไป ซึ่งในบางคนที่มีอาการของโรคเหงือก ก็ควรเข้าพบทันตแพทย์อย่างสม่ำเสมอเพื่อการรักษาที่เป็นไปตามแผนการที่กำหนด
ดูแลตัวเองอย่างไรในตอนจัดฟัน ?
- หลีกเลี่ยงการรัปประทานของแข็ง และของที่มีความเหนียว รวมไปถึงอาหารจำพวกที่เข้าไปติดตามซอกฟันได้ง่าย
- ต้องไม่กัดสิ่งของต่าง ๆ หรือกัดเล็บเล่น เพราะจะทำให้เกิดความเสียหายของเครื่องมือ และทำให้ต้องใช้เวลาในการจัดฟันนานขึ้น
- ต้องทำความสะอาดฟันและเครื่องมือทุกวัน เพื่อสุขภาพของเหงือกและฟันที่ดี
- ทำตามคำแนะนำของทันตแพทย์ ไม่ละเลยคำเตือน หรือขาดการเข้าพบบ่อย ๆ
ระยะเวลาโดยประมาณที่ใช้ในการจัดฟันโลหะ ?
ระยะที่ใช้ในการจัดฟันโลหะของแต่ละคนนั้นมากน้อย แตกต่างกันออกไปตามอาการความผิดปกติของฟัน ซึ่งส่วนใหญ่นั้นจะมีระยะเวลาในการจัดฟันโดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1 ถึง 3 ปี ซึ่งในบางรายก็จะมีระยะเวลาที่เพิ่มขึ้นไปอีก เช่น การถอนฟัน และการผ่าตัดร่วมด้วย
การจัดฟันโลหะมีราคาเท่าไหร่ ?
ราคาเรื่มต้นโดยประมาณนั้นจะอยู่ที่ 1,000 ถึง 4,000 บาทต่อเดือน
ทำไมต้องจัดฟันที่ BIDH ?
ที่ทาง Thaiger Medical และ mordee.co ได้แนะนำ โรงพยาบาลฟัน กรุงเทพ อินเตอร์เนชั่นแนล หรือ BIDH เพราะที่ BIDH มีทันตแพทย์ด้านการจัดฟันเฉพาะทางซึ่งมีความเชี่ยวชาญ และมากไปด้วยประสบการณ์จากวิทยาลัยชั้นนำทางการแพทย์ ซึ่งทำให้การรักษาของคุณจะได้รับการดูแลเป็นอย่างดี และสามารถวางใจในความปลอดภัยได้อย่างแน่นอน และคลินิกทันตกรรม BIDH ได้รับการยอมรับโดยคณะกรรมการของสหรัฐอเมริกา คณะกรรมการของออสเตรเลีย และคณะกรรมการของญี่ปุ่น แสดงให้เห็นถึงความเป็นมืออาชีพในการรักษาที่ได้รับการยอมรับในระดับนานาชาติ นอกจากนี้ที่ BIDH ยังมีความเชี่ยวชาญในการจัดฟันใสแบบ invisalign ในระดับ diamond providers ด้วยการการันตีจากเจ้าของผลิตภัณฑ์ด้วยตัวเอง แสดงให้เห็นถึงประสบการณ์ทันตแพทย์ที่คลินิกแห่งนี้
ทั้งนี้หากคุณจองการรับบริการผ่านทาง mordee.co คุณจะได้รับส่วนลดสุดพิเศษในทุกสาขาการจัดฟัน ตามแบบที่เหมาะสมที่คุณต้องการ
- 3M Metal Braces จากปกติราคา 80,000 บาท เหลือเพียง 70,000 บาท สามารถคลิกได้ที่นี่เลย !!!
- 3M Clear Braces จากปกติราคา 120,000 บาท เหลือเพียง 90,000 บาท สามารถคลิกได้ที่นี่เลย !!!
- Invisalign Moderate จากปกติ 180,000 บาท เหลือเพียง 160,000 บาท สามารถคลิกได้ที่นี่เลย !!!
- Invisalign Full จากปกติ 200,000 บาท เหลือเพียง 185,000 บาท สามารถคลิกได้ที่นี่เลย !!!
และหากสนใจบริการทันตกรรรมอื่น ๆ ในราคาที่น่าสนใจ ก็สามารถกดเข้าไปดูได้ที่ ? ดีลเด็ดสุดคุ้มทั้งหมด บอกเลยว่างานนี้ไม่ควรพลาดอย่างแน่นอน