ธีมการลงทุน Healthcare น่าลงไหม 2022

Thaiger Medicalเผยแพร่: 22 มิ.ย. 2565 17:28 น.| อัปเดต: 22 มิ.ย. 2565 17:32 น.

149 1 minute read

ธีมการลงทุน ในปัจจุบันนั้นบอกได้เลยว่า สำคัญมากๆ ที่พวกเราทุกคนต้องคำนึงถึง เพราะ ถือว่าเป็นการวางแผนที่ดีในอนาคต เมื่อพูดถึงการลงทุนนั้น มี ธีมการลงทุน ให้เลือก น่าสนใจหลายธีมมากๆ ไม่ว่า จะเป็น ธีมสายเทค หรือ สายเกม เป็นต้น แต่ในยุคปัจจุบัน ที่เต็มไปด้วยโรค รวมถึง Covid – 19 ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าสายสุขภาพ ช่วงนี้นั้นมาแรงจริงๆ ดังนั้น จาก Healthcare สู่กองทุน Health Tech บอกได้เลยว่า ถือเป็น ธีมการลงทุนที่น่าสนใจในอนาคตจริงๆค่ะทุกคน

ธีมการลงทุน Healthcare มีการเติบโตอย่างไร

ถ้าพูดถึง กองทุนสำรองเลี้ยงชีพ มนุษย์เงินเดือนคงรู้จักกันดี แต่จะมีสักกี่คนที่ติดตามผลของกองทุนของตนเอง หรือ บางท่านอาจจะลืมไปแเล่วว่า เลือกนโยบายการลงทุนแบบไหน นับเป็นโชคดี ถ้าวันเวลา ผ่านไปและ ผลตอบแทน ยังคงเป็นบวกต่อเนื่องก็คงไม่เกิดปัญหาอะไร แต่ถ้า ลตอบแทน จากบวก เป็นติดลบ คงเป็นเรื่องที่น่าเสียดาย ถ้าเป็นเช่นนี้ก็ต้องเข้าไปจัดการดูแลเพื่อทำให้เงินในกองทุนสำรองเลี้ยงชีพงอกเงยขึ้นตามที่ต้องการ

และ ถ้าหากพูดถึง ธีมการลงทุนใ นกองทุนรวมหุ้นที่มีความน่าสนใจ โดยเฉพาะช่วงเวลาที่มีการระบาดของโควิด COVID-19 ที่ผ่านมานั้น คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้ นอกจาก กองทุนรวมหุ้นที่ลงทุนในกลุ่มธุรกิจที่มีการเติบโต ที่รองรับการเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตแบบใหม่ ไม่ว่าจะเป็นการทำงานแบบ Work From Home หรือ Work From Anywhere หรือแม้แต่การซื้อสินค้าออนไลน์กันมากขึ้น รวมถึงการดูแลสุขภาพของคนทั่วไปนั่นเอง อย่าง

กองทุนต่างๆ มีอะไรน่าสนใจบ้าง

1 กองทุนรวมหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี – กองทุนนี้ถือว่า เป็นกองทุนหุ้น ที่มีอัตราการเติบโตที่สูงมากเลยจริงๆค่ะ แต่ถึงอย่างนั้น ก็มีความเสี่ยงสูงตามมาด้วยเช่นกัน โดยเฉพาะ ผู้ที่ลงทุนหุ้นในสายเทคโนโลยีที่มีความผันผวนในตอนนี้ ก็มีโอกาสที่จะติดลบ หรือได้ผลตอบแทนที่ไม่เป็นไปตามความคาดหวัง

2 กองทุนรวมหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมอีคอมเมิร์ซ

3 กองทุนรวมหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมด้านสุขภาพ หรือ Healthcare – อ้างอิงจาก Deloitte 2020

ธีมการลงทุน Health tech

ถือเป็น ธีมกองทุน ที่มี ความผันผวน น้อยกว่า มีการเติบโตแบบค่อยเป็นค่อยไป กว่าธีมการลงทุน ในแบบอื่นๆ โดยจากรายงานของ Deloitte พบว่าในช่วงปี 2013-2017 การเติบโตของกลุ่ม Healthcare อยู่ที่ประมาณ 2.9% และมีโอกาสเติบโตได้หลังจากปี 2018-2022 สูงถึง 5.4% ทั้งนี้ก็เพราะการดูแลสุขภาพของคนทั่วโลกนั้นสูงมากขึ้น ส่วนหนึ่งมาจาก สังคมผู้สูงอายุ และ โรคที่ไม่ติดต่อ และเรื้อรัง อย่างเช่น โรคมะเร็ง โรคเบาหวาน โรคความดัน และโรคหัวใจนั้นมีสูงมากขึ้น

และ ถ้าหากไปดู รายละเอียด ให้มากขึ้น เช่นในส่วนของ ดูงบการเงินของบริษัทในกลุ่ม Healthcare ก็จะพบว่า ธีมการลงทุน สายนี้มีการเติบโตของกำไรต่อหุ้น หรือ EPS สูงขึ้นเรื่อย ๆ ทุกปี และเติบโตอย่างต่อเนื่องมาเรื่อย ๆ ถึงจะไม่ได้เติบโตสูงแบบก้าวกระโดด แต่ก็สามารถสร้างผลตอบแทนที่ดีในระยะยาวให้กับนักลงทุนได้

และ เมื่อมีการระบาดของไวรัส COVID-19 ก็ทำให้กลุ่ม ธีมการลงทุน Healthcare เติบโตมากขึ้นกว่าเดิม เพราะว่าการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมทั้งหลายมีผลกระทบต่อภาพรวมของกลุ่มเป็นอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นการดูแลสุขภาพ การผลิตวัคซีนใหม่ ๆ รวมไปถึงแนวการรักษาโดยใช้เทคโนโลยีเข้ามาผสมผสานมากขึ้นไปด้วย จึงเป็นที่มาของการที่หุ้นในกลุ่ม Healthcare ได้พัฒนาไปสู่ Health Tech มากขึ้น

พิจารณา ธีมการลงทุน สายสุขภาพ Health Tech ในระยะยาว

ต้องเข้าใจกลยุทธ์การลงทุนของกองทุนรวมที่เรากำลังจะลงทุนก่อน

เพื่อให้ ความเสี่ยง ไม่สูงมาก บางกองทุน เราก็อาจจะเลือกบริษัทขนาดกลาง-เล็ก เพื่อที่จะสร้าง ผลตอบแทน ได้สูง บางกองทุนจะเน้นลงทุนใน Health Tech ใน จีน บางกองทุนอาจจะเน้นลงทุนใน สหรัฐอเมริกา มากกว่า ทั้งนี้ก็จะมีความแตกต่างกัน ทั้งเรื่องข้อมูล และกฏหมาย การพัฒนาของ Healthcare ที่ไม่เหมือนกันอีกด้วย

ดังนั้น ก่อน การลงทุน นักลงทุนเองต้องเข้าใจกองทุนที่เราจะลงทุนก่อนว่าเป็น กองทุน แบบไหน สไตล์การบริหารจัดการเป็นอย่างไร

พิจารณาผลตอบแทนย้อนหลังระยะยาวของกองทุน

เราต้องพิจารณาถึงผลตอบแทนย้อนหลังที่เปรียบเสมือนข้อพิสูจน์ว่า นโยบายของกองทุนที่เราเลือกมานั้น สามารถสร้างผลตอบแทนได้ดีและสม่ำเสมอ เมื่อเทียบกับกองทุนประเภทเดียวกัน เพื่อความสบายใจ ของเราเอง

ต้องดูค่าธรรมเนียมของกองทุน

สำคัญมากๆเลยนะคะข้อนี้ สำหรับ ธีมการลงทุน Health Tech เนื่องจากเราจะ ลงทุนระยะยาว กับกองทุนในกลุ่มนี้ ดังนั้น หากค่าธรรมเนียมแพงเกินไป ในระยะยาวผลตอบแทนที่ได้อาจจะไม่คุ้มค่า ซึ่งหากนักลงทุนสนใจกองทุนกลุ่ม Health Tech ที่ส่วนใหญ่เป็นกองทุน FIF (Foreign Investment Fund) ดังนั้น นักลงทุน เองก็ควรที่จะพิจารณาค่าธรรมเนียมทั้งในส่วนของ Master Fund และค่าธรรมเนียมที่ บลจ. ในไทยเก็บ (ค่าธรรมเนียมรวม) เพื่อให้ได้กองทุนที่ค่าธรรมเนียมรวมไม่แพงจนเกินไป

สุดท้ายแล้ว นอกจากการเลือก ธีมการลงทุน แล้ว สิ่งที่สำคัญ หุ้น ที่อยู่ใน กองทุน นั้นบางครั้งเป็นธุรกิจที่ยังมี ขนาดเล็กเลยอาจจะมีความเสี่ยงสูง เพราะบางบริษัทยังมีกำไรไม่มาก หรือเป็นบริษัทที่เริ่มจากการเป็น Start-up ที่เพิ่งเริ่มเข้าในตลาดหุ้นได้ไม่นาน แน่นอนว่าการทำธุรกิจ Health Tech หากไม่ได้มีจุดแข็งหรือจุดเด่นที่แตกต่างจากคู่แข่งมาก ๆ ก็อาจจะมีโอกาสที่บริษัทจะปิดตัวลงได้เช่นกัน และส่งผลต่อผลประกอบการของกองทุนได้

ดังนั้น ควรศึกษาข้อมูล เลือก ธีมการลงทุน ก่อนการลงทุนเพื่อผลตอบแทน และ ลดความเสี่ยงนะคะ เอาละ วันนี้หมอดี Mordee.co ก็ขอลาไปก่อน หวังว่า ผู้สนใจลงทุนในสายสุขภาพจะได้รับความรู้จากทาง หมอดี นะคะ

รวมดีลของหมอดี Mordee.co