ข่าวข่าวอาชญากรรม

ครบรอบสองปี กราดยิงโคราช กับการตั้งคำถามปฏิรูปกองทัพ

วันที่ 8 กุมภาพันธ์ เป็นวันที่เกิดเหตุ กราดยิงโคราช จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 30 ศพ โดยสองปีที่ผ่านมานั้น หลายฝ่ายยังคงตั้งคำถามกับการปฏิรูปกองทัพ

หากย้อนกลับไป เมื่อวันที่ 8 กุมภาพันธ์ ปี 2563 ได้เกิดเหตุการณ์สะเทือนขวัญสำหรับชาวไทย ซึ่งคือเหตุกราดยิงโคราช หรือ เหตุกราดยิงที่เทอร์มินอล 21 โคราช จนเป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิต 30 ศพ และถือเป็นเหตุกราดยิงที่เกิดขึ้นครั้งแรกในประเทศไทย

โดยเหตุการณ์ครั้งนี้ ได้เริ่มต้นขึ้น เมื่อผู้ก่อเหตุใช้อาวุธปืนยิง พ.อ.อนันตโรจน์ กระแสร์ นายทหารสังกัดค่ายสุรธรรมพิทักษ์ พร้อมด้วยหญิงชรา อายุ 63 ปี เสียชีวิต ที่บ้านเลขที่ 187 หมู่ 3 บ้านถนนหัก ต.หนองจะบก อ.เมือง จ.นครราชสีมา

จากนั้นทหารคลั่ง ได้ไปแย่งอาวุธปืนจากทหารเวรประจำการ ที่ค่ายสุรธรรมพิทักษ์ ก่อนขับรถฮัมวี่ออกมาและหลบหนีไปยังห้างเทอร์มินัล 21 โคราช และมีการยิงแก๊สให้ระเบิด พร้อมถ่ายรูปเซลฟี่ลงเฟซบุ๊กตัวเอง และได้ยิงประชาชนได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิตหลายราย

ซึ่งการปิดรอบของทหารคลั่งและกองทัพดำเนินไปนานหลายชั่วโมง ก่อนที่ทหารคลั่งคนดังกล่าวจะถูกเจ้าหน้าที่วิสามัญเสียชีวิต บริเวณชั้นล่างของห้างฯ ก่อนเจ้าหน้าที่จะรีบนำกำลังเข้าเคลียร์พื้นที่ และช่วยตัวประกันที่เหลือออกมา ซึ่งจากเหตุการณ์ดังกล่าว ทำให้มีผู้เสียชีวิต รวมทั้งสิ้น 30 ราย (รวมคนร้าย) บาดเจ็บ 58 ราย

อย่างไรก็ตามเหตุสลดครั้งนี้ได้นำไปสู่การตั้งคำถามในหลายอย่างในสังคม ไม่ว่าจะเป็นการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จนทำให้ทาง สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. ลงดาบ สื่อดังสามช่องในการนำเสนอข่าวดังกล่าว

เช่นเดียวกันกับการปฏิรูปกองทัพ ที่ พล.อ.อภิรัชต์ คงสมพงษ์ ผบ.ทบ. เคยให้สัมภาษณ์พร้อมน้ำตาว่า ‘วินาทีลั่นไกสังหาร เขาเป็นอาชญากรไม่ใช่ทหารอีกต่อไปแล้ว’ และให้คำมั่นสัญญาว่าจะปฏิรูปกองทัพภายในหนึ่งร้อยวัน อย่างไรก็ตามความคืบหน้านั้นยังไม่ชัดเจน จนนำไปสู่การทวงสัญญากองทัพอีกครั้ง

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button