ข่าวข่าวภูมิภาค

‘รสนา โตสิตระกูล’ โพสต์อาลัย ‘หลวงปู่ติช นัท ฮันห์’ หลังมรณภาพในวัย 95 ปี

อดีต สว. “รสนา โตสิตระกูล” แสดงความอาลัยถึงพระอาจารย์”ติช นัท ฮันห์” หลังมรณภาพในวัย 95 ปี ย้ำ ภูมิใจที่ได้เคยเป็นภิกษุณีไทยช่วยพระอาจารย์ทำหนังสือพุทธประวัติ

จากกรณี พระอาจารย์ “ติช นัท ฮันห์” พระผู้นำชาวเวียดนามซึ่งเป็นเจ้าของผลงานหนังสือธรรมะที่โด่งดังระดับโลกเช่น “ปาฏิหาริย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ” “สันติภาพทุกย่างก้าว” ได้มรณภาพเมื่อวันที่ 22 ม.ค. 65

ครั้งหนึ่ง เมื่อปี 2010 มาร์ติน ลูเธอร์ คิง จูเนียร์ ได้เสนอชื่อของท่านให้เป็นผู้ได้รับรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพ

รสนา โตสิตระกูล ในฐานะที่เธอเคยได้เป็นภิกษุณีที่ได้ใกล้ชิดท่านและเคยมีส่วนเผยแพร่ผลงานหนังสือพระพุทธประวัติ“เมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่”

วานนี้ 22 ม.ค. 65 เธอได้โพสต์ไว้อาลัย พระอาจารย์”ติช นัท ฮันห์” ลงเฟซบุ๊กส่วนตัว “Rosana Tositrakul” โดยระบุรายละเอียดว่า

“เมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่ของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์

ดิฉันได้รับทราบข่าวการละสังขารอย่างสงบของหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ เมื่อเวลา 00.00 น.ของวันที่ 22 มกราคม 2022 ณ.วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้ ประเทศเวียดนาม ด้วยความอาลัยรักอย่างยิ่ง

เมื่อ2ปีที่แล้ว (12 มีนาคม 2562 ) ดิฉันและเพื่อนๆจากสังฆะหมู่บ้านพลัมในไทยได้มีโอกาสไปเยี่ยมเยียนหลวงปู่ที่วัดตื่อเฮี้ยว เมืองเว้ นครหลวงโบราณของเวียดนาม

ขณะนี้วัดที่ท่านพำนักได้รับการอารักขาจากรัฐบาล และโชคดีมากที่หลวงปู่มีสุขภาพดีพอที่จะให้พวกเราเข้าไปกราบเยี่ยมคารวะใกล้ชิดท่านได้ ด้วยความกรุณาของหลวงพี่นิรามิสา ซึ่งเป็นภิกษุณีชาวไทยศิษย์ใกล้ชิดของหลวงปู่

นับเป็นเวลากว่า 40ปีที่ดิฉันได้พบท่านอย่างใกล้ชิดอีกครั้งหนึ่งดิฉันและเพื่อนๆในกลุ่มอหิงสาเป็นหนุ่มสาวชาวไทยกลุ่มแรกที่มีโอกาสพบกับหลวงปู่ติช นัท ฮันห์ ที่ประเทศไทยเมื่อปี 2517

ตอนนั้นเราเรียกท่านว่าไถ่ ที่แปลว่าพระเถราจารย์ ไถ่มาประชุมอาศรมแปซิฟิกร่วมกับอาจารย์สุลักษณ์ ศิวรักษ์และนักคิดชั้นนำทางศาสนาจากทั่วโลกที่ วัดผาลาด จ.เชียงใหม่

กลุ่มอหิงสามีสมาชิกเช่น พระประชา ปสนฺนธมฺโม วิศิษฐ์ วังวิญญู พจนา จันทรสันติ ไพศาล วงศ์วรวิสิทธิ์ (ปัจจุบันคือ พระอาจารย์ไพศาล วิสาโล) สันติสุข โสภณสิริ วีระ สมบูรณ์ อัจฉรา หังสพฤกษ์ ลัดดา วิวัฒน์สุรเวช สมลักษณ์ หุตานุวัตร เป็นต้น

พวกเราเป็นคนหนุ่ม สาวจากต่างมหาวิทยาลัยที่สนใจพุทธศาสนา และการเปลี่ยนแปลงสังคมด้วยสันติวิธี การได้พบกับไถ่ในครั้งนั้นเป็นแรงบันดาลใจให้กับพวกเราที่ทำงานสังคมไปพร้อมกับการพัฒนาเปลี่ยนแปลงคุณภาพจิตด้านใน

ไถ่บอกกับพวกเราว่า พุทธศาสนาจะต้องอยู่กับเราในชีวิตที่เป็นจริงทางสังคม อยู่ในเนื้อในตัวของเราในขณะดำเนินกิจกรรมทางสังคม พุทธศาสนาต้องไม่ใช่สิ่งที่อยู่บนหิ้ง หรืออยู่นอกชีวิตประจำวันของเรา ไถ่เรียกว่าเป็น “Engaged Buddhism” หรือที่พระอาจารย์ไพศาลพูดถึง

การทำกิจ และการทำจิตต้องประกอบไปด้วยธรรมะไถ่ได้แสดงธรรมะของท่านด้วยการปฏิบัติให้เห็น และท่านยังได้ก่อตั้งคณะนักบวชหนุ่มสาวรุ่นใหม่ที่เรียกว่า”คณะเทียบหิน”The Sanga of Interbeing ”

ช่วงที่ได้พบท่าน สงครามเวียดนามใกล้สิ้นสุด ความรุนแรงของสงครามเวียดนามได้ทำร้ายลูกศิษย์ พระ และภิกษุณีในวัดของท่าน และลูกศิษย์ในโรงเรียนคนหนุ่มสาวเพื่อบริการสังคม

มีคนเวียดนามที่หนีสงครามเข้ามาในไทยทางเรือที่รู้จักในชื่อของ Boat People และถูกโจรสลัดชาวไทยปล้น ฆ่า ข่มขืน ท่านเขียนบทกวีชื่อ Call me by my true name บอกว่ามนุษย์ไม่ใช่ศัตรูของเรา

ศัตรูที่แท้จริงของเราคือความโลภ ความเกลียดชัง ความรุนแรงและความหลงผิด

ท่านใช้การภาวนาเพื่อปลดเปลื้องความทุกข์ใจในชะตากรรมของพี่น้องร่วมชาติ และมุ่งหน้าช่วยเหลือคนเหล่านั้นด้วยความเมตตากรุณา

ตอนนั้นพวกเราได้ช่วยเหลือท่านในการส่งข้าว และยาไปให้กับวัดของท่านที่เวียดนาม แม้ตอนนั้นท่านมีชื่อเสียงและมีภารกิจล้นมือ

ท่านยังมีเมตตามีลิขิตด้วยลายมือของท่านเองถึงดิฉันเพื่อให้กำลังใจพวกเราในการภาวนาเพื่อสังคม พวกเรายังนำศีลเทียบหิน 14 ข้อของท่านมาภาวนาร่วมกันเป็นครั้งคราวในเวลานั้น

ดิฉันยังจำได้ดีว่า มีข้อหนึ่งที่ว่า จงอย่าครอบงำผู้อื่นแม้ด้วยวิธีทางการศึกษาหรือคิดว่าความเชื่อของเราเท่านั้นที่ถูกต้อง และท่านยังสอนให้พวกเราฟังเสียงความทุกข์ของผู้อื่นอย่างลึกซึ้ง

ราสามารถทำงานในท่ามกลางสังคมที่แบ่งฝักแบ่งฝ่ายได้อย่างไม่เป็นทุกข์

หนังสือเล่มแรกของไถ่นัท ฮันห์ ที่คุณประชา หุตานุวัตร สมัยที่เป็นพระประชา ปสันธัมโม แปลในชื่อว่า “ปาฏิหารย์แห่งการตื่นอยู่เสมอ” นั้นคือการสอนธรรมะให้เราอยู่กับปัจจุบันขณะ

การอยู่กับปัจจุบันขณะ ช่วยปลดเปลื้องความทุกข์ของเราจากความคิด ที่ปรุงแต่ง และมายาภาพที่หลอกลวงเราอยู่

สมัยที่ได้พบท่านเมื่อ40กว่าปีก่อน ท่านชวนพวกเราเสวนาและภาวนาร่วมกัน ท่านจะถามอยู่เสมอว่า “เธอลืมลมหายใจของเธอหรือเปล่า” ลมหายใจคือสิ่งที่เชื่อมเรากับปัจจุบันขณะ

เมื่อเรามีสติกับลมหายใจ เราจะอยู่ในปัจจุบันขณะ อยู่ในโลกที่เป็นจริง ไม่ใช่โลกในความคิดที่มีแต่อดีต และอนาคตที่ทำให้เราเป็นทุกข์ และกังวล

ปัจจุบันขณะไม่ใช่วันนี้ ชั่วโมงนี้ หรือ แม้แต่นาทีนี้ แต่ปัจจุบันขณะคือทุกลมหายใจเข้าออกของเรา เมื่อเรามีสติกับปัจจุบันขณะได้ต่อเนื่องมากเท่าไหร่ การทำกิจ

การทำจิตจะเป็นกระบวนการที่พัฒนาขัดเกลาตัวเอง ไปพร้อมๆกับการปฏิบัติการทางสังคมเพื่อประโยชน์ส่วนรวมได้อย่างแท้จริงมากขึ้น

ฐานะที่เป็นสานุศิษย์คนไทยคนหนึ่งที่เลื่อมใสในคำสอนของท่าน ดิฉันรู้สึกภาคภูมิใจที่อย่างน้อยได้มีส่วนเผยแพร่ผลงานของท่านด้วยการแปลหนังสือพระพุทธประวัติ

ท่านบรรจงนิพนธ์ขึ้นอย่างไพเราะงดงามในชื่อ OLD PATH WHITE CLOUD

ความหมายในทางธรรมาธิษฐานอันล้ำลึก กล่าวคือ Old Path หมายถึง อริยมรรค 8 หรือทางอันประเสริฐ 8 ประการ ส่วน White Cloud หมายถึง Interbeing

การอิงอาศัยกันและกันของสรรพสิ่ง หรือสำนวนของท่านคือ การเป็นดั่งกันและกัน ปราศจากเมฆขาว ก็ปราศจากต้นไม้ ปราศจากชีวิตในธรรมชาติ

เมื่อเห็นกระดาษแผ่นหนึ่ง จะเห็นดวงอาทิตย์ เมฆขาว ต้นไม้ คนปลูกต้นไม้ ในกระดาษแผ่นนั้น ปราศจากสิ่งเหล่านั้น ก็ปราศจากกระดาษแผ่นนั้น หรืออิทัปปัจยตา เพราะสิ่งนี้มี สิ่งนี้จึงมี

หนังสือเล่มนี้ในฉบับแปลเป็นภาษาไทยใช้ชื่อว่า“เมฆสีขาว ทางก้าวเก่าแก่” จัดพิมพ์โดยสำนักพิมพ์โกมลคีมทอง

ดิฉันเคยทำใจไว้แล้วว่า การได้รับเมตตาจากท่านให้เข้าพบเป็นการภายในที่วัดตื่อเฮี้ยวเมื่อ 2 ปีก่อน อาจจะเป็นปัจฉิมทัศนา แต่ประทีปธรรมแห่งการภาวนาเพื่อสังคม

ท่านจุดประกายไว้ให้พวกเรายังส่องสว่างให้เราก้าวเดินไปใน “ทางก้าวเก่าแก่” หรือพระอริยมรรคแห่งองค์พระบรมศาสดา

การดำรงสติในปัจจุบันขณะด้วยการหายใจลึกๆเมื่อนึกได้ให้มากขึ้น จะช่วยให้ดิฉันก้าวเดินบนเส้นทางสายเดียวกับท่าน

สำหรับดิฉันซึ่งเป็นเพียงต้นหญ้าตฤณชาติติดดินยังสามารถสัมผัสได้ถึงความชุ่มเย็นของหยาดน้ำจากเมฆขาวบนฟากฟ้าเสมอ

รสนา โตสิตระกูล เนื่องในวันละสังขารของ หลวงปู่นัท ฮันห์

วันเสาร์ที่ 22 มกราคม 2565″

navapol

อัปเดตข่าวสารล่าสุด เรื่องร้อนออนไลน์ ข่าวด่วนทันเหตุการณ์ ทุกประเด็นที่เป็นประแสในโลกโซเชียล จับประเด็นใหม่ให้เข้าใจง่าย สนุก ครบ

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button