ภาคีคณบดีสัตวแพทย์ เผยกำลังพัฒนา วัคซีนไวรัส ASF ป้องสุกร
ภาคีคณบดีสัตวแพทย์ ออกมายืนยันว่าได้ส่งหมายเตือน กรมปศุสัตว์ กรณีพบ ไวรัส ASF จริง เผยกำลังพัฒนา วัคซีนไวรัส ASF
ผศ.น.สพ.ดร.คงศักดิ์ เที่ยงธรรม ประธานภาคีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ได้ให้สัมภาษณ์ผ่านรายการ เจาะลึกทั่วไทย Inside Thailand กรณีที่มีรายงานเอกสาร ที่ออกโดย ภาคีคณบดีคณะสัตวแพทยศาสตร์แห่งประเทศไทย ลงวันที่วันที่ 7 ธ.ค. 64 เรื่องข้อห่วงใยต่อสถานการณ์โรคระบาดและการควบคุมโรคในสุกร โดยหน่วยงานของสถาบันการศึกษาสัตวแพทยศาสตร์ในประเทศไทย พบเชื้อไวรัสอหิวาต์แอฟริกาในสุกร (Afican Swine Fever: ASF) ในซากสุกร
โดย ผศ.น.สพ.ดร.คงศักดิ์ ยืนยันว่าตัวหนังสือนี้ภายหลังทำการเซ็นลงนามได้มีการนำส่งไปที่สำนักงานของกรมปศุสัตว์ โดยมีเจ้าหน้าที่ของกรมฯ เป็นผู้เซ็นรับหนังสือเป็นหลักฐาน ส่วนกรณีที่อธิบดีกรมปศุสัตว์บอกว่าไม่เห็นนั้น ทางกรมฯ ต้องเป็นผู้ตรวจสอบและไปดำเนินการว่าขั้นตอนเป็นอย่างไร ติดอะไร แต่ส่วนตัวจะไม่ให้ข้อคิดเห็นเพิ่มเติมเกี่ยวกับกรณีนี้
ส่วนปัญหาการแพร่ระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ได้พบการแพร่ระบาดสู่ประเทศไทยเป็นสักระยะหนึ่งจริงหรือไม่นั้น ผศ.น.สพ.ดร.คงศักดิ์ระบุว่า จากสภาพปัญหาที่เกิดขึ้นและข้อมูลจากผู้เลี้ยง ทำให้ทราบมาระยะหนึ่งแล้วว่ามีปัญหาเรื่องโรคระบาดในฟาร์มสุกรของไทย ซึ่งโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกรเป็นโรคที่ควบคุมได้ยาก ไม่เหมือนโรคที่เคยเกิดขึ้นกับสุกรในประเทศไทย เพราะหลายโรคที่พบเจอก่อนหน้านี้สามารถควบคุมและยับยั้งการระบาดได้โดยวัคซีน รวมถึงวิธีการที่ไม่ได้ยุ่งยากมากนัก
อีกทั้งจากการทำงานของสถาบันสัตวแพทย์ทั้ง 14 มหาวิทยาลัย มีการประชุมถึงประเด็นนี้ว่าจะกระทบต่ออุตสาหกรรมการเลี้ยงสุกรของเกษตรกรไทยรายย่อย-รายกลาง จะได้รับผลกระทบเป็นอย่างมาก จนนำไปสู่การออกหนังสือโดยกลุ่มภาคีแสดงถึงข้อห่วงใยต่อสถานการณ์ของโรคระบาดในครั้งนี้
ส่วนประเด็นความสงสัยของผู้คนว่าในเมื่อเกิดการระบาดแบบนี้ ทำไมกรมปศุสัตว์ถึงปกปิดข่าวดังกล่าว ผศ.น.สพ.ดร.คงศักดิ์บอกว่า เรื่องนี้ต้องให้กรมปศุสัตว์เป็นผู้ชี้แจงว่าเหตุใดถึงปกปิด พร้อมอธิบายว่าบทบาทหน้าที่ของหน่วยงานกรมปศุสัตว์คือการเป็นผู้รับผิดชอบเรื่องการควบคุมโรคระบาดในสัตว์ต่างๆ ในประเทศไทย โดยมีนักวิชาการหรือคณาจารย์ต่างๆ เป็นผู้ให้ข้อมูลหรือคำปรึกษากันอยู่ภายในกรมฯ ว่าต้องดำเนินการอย่างไร และส่วนตัวคิดว่าการที่กรมฯ ยังไม่ออกมาเปิดเผยข่าว อาจจะอยู่ระหว่างการศึกษาโรคหรือมีขั้นตอนอย่างไร ต้องให้กรมปศุสัตว์เป็นผู้อธิบายเอง
ขณะเดียวกัน ท่ามกลางความกังวลเรื่องการระบาดของโรคอหิวาต์แอฟริกาในสุกร ผู้คนยังมองไปที่ความเสียหายที่เกิดขึ้นกับเกษตรกรรายย่อย หลังพบฟาร์มหลายแห่งต้องปิดตัวไปเยอะ จนเหลือแต่ฟาร์มของผู้ผลิตรายใหญ่หรือที่บางคนใช้คำว่าฟาร์มเจ้าสัว ยังสามารถเดินหน้าต่อไปได้นั้น
ผศ.น.สพ.ดร.คงศักดิ์ระบุอีกว่า เรื่องนี้กำลังจะทำให้โครงสร้างการผลิตหรือเลี้ยงสุกรในไทยอาจจะเปลี่ยนแปลงไปได้ ซึ่งนับเป็นเรื่องที่น่ากังวล พร้อมยกตัวอย่างในสหรัฐอเมริกาก็ได้แสดงถึงข้อกังวลในประเด็นนี้มาโดยตลอดเช่นกัน เกี่ยวกับผู้ผลิตสุกรรายเล็กเริ่มมีน้อยลง ขณะที่ในไทยประเทศที่ขึ้นชื่อว่าเป็นประเทศแห่งเกษตรกรรมก็น่าเป็นห่วงเช่นกัน เนื่องจากในไทยมีฟาร์มระดับเล็ก-กลางเยอะมากในประเทศ เมื่อมองไปที่กระบวนการเลี้ยงจะพบว่าหลายฟาร์มไม่ได้มีแนวทางการป้องกันโรคต่างๆ ที่ถูกสุขลักษณะเท่าไรนัก ทำให้ฟาร์มระดับเล็ก-กลางมีโอกาสที่จะได้รับผลกระทบและเสียหายจากการระบาดที่เกิดขึ้นค่อนข้างมาก ดังนั้นสิ่งที่เกิดขึ้นในสุกรเหมือนการรักษาทั่วไป ถ้าเรารู้ว่าโรคเกิดจากเชื้ออะไร สาเหตุต้นตอคืออะไร มันจะช่วยให้เรารักษาได้ไวและตรงประเด็นที่สุด
นอกจากนี้กรณีของวัคซีนที่ใช้ในการรักษาโรคดังกล่าว ขณะนี้อยู่ระหว่างการพัฒนา เร่งรีบศึกษาวิจัย เช่นเดียวกับหลายประเทศ อาทิ จีนและเวียดนาม ที่ได้รับผลกระทบจากการระบาดของอหิวาต์แอฟริกาในสุกรมาก่อนประเทศไทย ได้เริ่มพัฒนาวัคซีนมาตลอด แต่ในภาพรวมจากหลายประเทศยังไม่มีการพัฒนาวัคซีนที่สมบูรณ์มาให้เห็นในรูปแบบของรายงานอย่างเป็นทางการ