สำนักงานประกันสังคม (สปส.) กระทรวงแรงงาน ดำเนินการออกมาตรการพิเศษ เพื่อเป็น ของขวัญปีใหม่ 2565 ให้แก่ผู้ประกันตนในระบบ ประกันสังคม
เมื่อวานนี้ (27 ธ.ค. 2564) นายบุญสงค์ ทัพชัยยุทธ์ เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่าตามที่รัฐบาลภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีนโยบายให้ความสำคัญในการดูแลคุณภาพชีวิตให้กับผู้ใช้แรงงาน โดยเฉพาะด้านการสร้างโอกาสและความเสมอภาคทางสังคม เพื่อให้ครอบคลุมการดูแลบริการและสิทธิประโยชน์ของแรงงานทุกกลุ่มทุกวัย
กระทรวงแรงงาน ภายใต้การกำกับดูแลของท่าน พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และนายสุชาติ ชมกลิ่น รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน ได้มอบหมายให้หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน เตรียมส่งมอบของขวัญปีใหม่ให้แก่ผู้ใช้แรงงานอุ่นใจ ในปี 2565 สำนักงานประกันสังคมในฐานะหน่วยงานที่มีพันธกิจการบริหารการประกันสังคมและเงินทดแทน
โดยการจัดการที่มีประสิทธิภาพ เพื่อให้แรงงานมีหลักประกันการดำรงชีวิตที่มั่นคงให้กับผู้ประกันตนตามมาตรา 33 มาตรา 39 และมาตรา 40 ได้ขานรับนโยบายโดยมอบ ของขวัญปีใหม่ 2565 สำหรับผู้ประกันตนภายในระบบ ประกันสังคม มีดังนี้
1. ลดขั้นตอนอนุมัติสิทธิ สำนักงานประกันสังคมปรับรูปแบบบริการขออนุมัติสิทธิฟอกเลือด ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่ายได้ตั้งแต่เดือนมกราคม 2565 เป็นต้นไป โดยพัฒนาระบบการลงทะเบียนการบำบัดทดแทนไตกรณีฟอกเลือดร่วมกับสำนักสารสนเทศบริการสุขภาพ (สกส.) จากเดิม ผู้ประกันตนรายใหม่ไปรักษาที่สถานพยาบาลต้องสำรองจ่ายไปก่อนและไปยื่นเอกสารที่สำนักงานประกันสังคม รอผลการอนุมัติใช้ระยะเวลารอคอยนาน (สูงสุดใช้ระยะเวลา 3 เดือน) เปลี่ยนเป็น ผู้ประกันตนรายใหม่ไปยื่นที่สถานพยาบาลที่รักษาได้ทันที ผ่านระบบอิเล็กทรอนิกส์โดยไม่ต้องสำรองจ่าย ทำให้ผู้ประกันตนได้รับความสะดวกรวดเร็ว (One Stop Service) ลดเอกสาร ลดขั้นตอน
สำหรับผู้ประกันตนไตวายเรื้อรังระยะสุดท้ายรายใหม่ และมารับบริการฟอกเลือดด้วยเครื่องไตเทียมเฉลี่ยเดือนละ 240 คน (อัตราเท่าที่จ่ายจริงไม่เกิน 1,500 บาทต่อครั้ง)
– ระยะเวลา 1 เดือน ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 18,000 บาทต่อคน (เฉลี่ยมารับบริการคนละ 12 ครั้งต่อเดือน) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 4.32 ล้านบาท
– ระยะเวลาสูงสุด 3 เดือน ผู้ประกันตนไม่ต้องสำรองจ่าย 54,000 บาทต่อคน (เฉลี่ยมารับบริการคนละ 36 ครั้ง) รวมเป็นเงินทั้งสิ้น 12.96 ล้านบาท
2. ลดอัตราเงินสมทบของผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เหลือร้อยละ 60 เป็นระยะเวลา 6 เดือน
ทางเลือกที่ 1 จากอัตราเงินสมทบเดิม 70 บาทต่อเดือน อัตราเงินสมทบใหม่ระยะ 6 เดือน 42 บาทต่อเดือน
ทางเลือกที่ 2 จากอัตราเงินสมทบเดิม 100 บาทต่อเดือน อัตราเงินสมทบใหม่ระยะ 6 เดือน 60 บาทต่อเดือน
ทางเลือกที่ 3 จากอัตราเงินสมทบเดิม 300 บาทต่อเดือน อัตราเงินสมทบใหม่ระยะ 6 เดือน 180 บาทต่อเดือน
ผู้ประกันตนมาตรา 40 ได้รับประโยชน์จากการลดอัตราเงินสมทบ จำนวน 10.57 ล้านคน รวมวงเงินหมุนเวียนเข้าสู่ระบบเศรษฐกิจ จำนวน 1,408.56 ล้านบาท
3. จัดหาของเยี่ยมให้กับผู้ประกันตนทั้ง 3 มาตรา ที่เป็นผู้ป่วยติดเตียง ผู้ทุพพลภาพ ที่รักษาตัว ณ สถานพยาบาล หรือออกเยี่ยม ณ บ้านพักของผู้ประกันตน
เลขาธิการสำนักงานประกันสังคม กล่าวในตอนท้ายว่า การมอบของขวัญปีใหม่ 2565 ในครั้งนี้ เพื่อช่วยลดภาระค่าใช้จ่าย บรรเทาความเดือดร้อนแก่ผู้ประกันตนในกรณีเกิดโรคระบาดโควิด 19 ที่ส่งผลกระทบต่อสภาวการณ์ทางเศรษฐกิจ ช่วยอำนวยความสะดวกในการติดต่อใช้บริการงานประกันสังคม อีกทั้งเพื่อส่งเสริมคุณภาพชีวิตที่ดี ด้วยความห่วงใยและสร้างกำลังใจให้กับผู้ประกันตนในทุกพื้นที่ทั่วประเทศ
แหล่งที่มาของข่าว : สำนักงานประกันสังคม (สปส.)
สามารถติดตามข่าวเศรษฐกิจเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวเศรษฐกิจ
- ออมสิน ร่วมมือพันธมิตร เริ่มโครงการ ‘สร้างงาน สร้างอาชีพ’
- เปิดแล้ว! สะพานพระราชวังจันทน์ สะพานเหล็กโค้งแห่งแรกของประเทศไทย