ข่าว

ม.33 ประกันสังคม ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3 15 ธ.ค. นี้

ม.33 ประกันสังคม ลงทะเบียนฉีดวัคซีนเข็ม 3 15 ธ.ค. นี้

วันที่ 10 ธ.ค. 64 พ.ต.อ.กฤษณะ พัฒนเจริญ รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติ เปิดเผยว่า ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ ได้รับการยืนยันข้อมูลว่าเป็นข่าวจริง เพิ่มเติม 1 กรณีคือ
กรณีที่มีการนำเสนอข่าวในสื่อต่างๆ เกี่ยวกับประเด็นเรื่อง ผู้ประกันตนม.33 ที่รับวัคซีนครบ 2 เข็ม เตรียมลงทะเบียนรับเข็ม 3 วันที่ 15 ธ.ค. ทางศูนย์ต่อต้านข่าวปลอมได้ดำเนินการตรวจสอบข้อเท็จจริงโดย สำนักงานประกันสังคม กระทรวงแรงงาน พบว่าประเด็นดังกล่าวนั้น เป็นข้อมูลจริง

Advertisements

จากสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รัฐบาลมีนโยบายให้มีการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งกระทรวงแรงงาน โดยสำนักงานประกันสังคม ได้ดำเนินการเร่งกระจายวัคซีนอย่างเร่งด่วน เมื่อต้นเดือน มิ.ย. 64 ที่ผ่านมา ครบจำนวน 2 เข็มให้กับผู้ประกันตนมาตรา 33 ไปแล้วกว่า 3 ล้านคนยอดฉีดวัคซีน เข็ม 1+ 2 ณ วันที่ 30 พฤศจิกายน 2564 ที่ผ่านมา ดำเนินการฉีดวัคซีนสะสมจำนวนทั้งสิ้นกว่า 3.3 ล้านโดส
อย่างไรก็ดี สำนักงานประกันสังคมได้ปฏิบัติตามข้อกำหนดของกระทรวงสาธารณสุข กรณีผู้ได้รับการฉีดวัคซีนโควิด-19 เข็มกระตุ้น สําหรับผู้ที่ได้รับวัคซีนสูตร AA หรือแอสตร้าเซนเนก้า ครบ 2 เข็ม ให้ฉีดวัคซีนกระตุ้นเข็ม 3 ให้มีระยะห่างการได้รับวัคซีนประมาณ 5 เดือน ขึ้นไป

ทั้งนี้ได้เร่งดำเนินการเตรียมความพร้อมฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือบูสเตอร์โดส พร้อมสำรวจความต้องการ ของผู้ประกันตนมาตรา 33 ที่ประสงค์ขอรับวัคซีน เข็มกระตุ้นโดยเร็ว เพื่อป้องกันและควบคุมโรคด้วยการฉีดวัคซีนให้กับผู้ประกันตนที่ได้รับผลกระทบได้กลับมาใช้ชีวิตปกติโดยเร็ว ประกอบกิจการและขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เดินหน้าต่อไป เพื่อเตรียมความพร้อม สำนักงานประกันสังคม ได้เปิดโอกาสให้ผู้ประกันตนที่ได้รับวัคซีน แอสตร้าเซนเนก้า มาแล้ว 2 เข็ม และประสงค์จะรับการฉีดวัคซีนเข็ม 3 หรือบูสเตอร์โดสสามารถลงทะเบียนฉีดวัคซีนผ่านระบบ e-Service ได้ตั้งแต่วันที่ 15 ธันวาคม 2564 นี้เป็นต้นไป
และเพื่อให้ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารจาก สำนักงานประกันสังคม สามารถติดตามได้ที่เว็บไซต์ www.sso.go.th หรือหากมีข้อสงสัย ต้องการสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม สามารถติดต่อได้ที่สำนักงานประกันสังคมกรุงเทพมหานครพื้นที่/จังหวัด/สาขาทุกแห่ง หรือที่สายด่วน 1506

รองโฆษกสำนักงานตำรวจแห่งชาติกล่าวเพิ่มเติมว่า การผลิตข่าวปลอม สร้างข่าวบิดเบือน ทำให้ประเทศชาติเสียหาย ประชาชนสับสน เป็นความผิดตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14(2),(5) มีอัตราโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือ ปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และอาจเข้าข่ายความผิดตามพ.ร.ก.ฉุกเฉิน รวมทั้งกฎหมายอื่นๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องจะดำเนินการตามกฎหมายกับผู้ที่ผลิตข่าวปลอมและผู้ที่เผยแพร่ทุกรายอย่างเด็ดขาดจริงจังและต่อเนื่องต่อไป

ทั้งนี้ หากพี่น้องประชาชนพบข้อมูลการกระทำผิด สามารถแจ้งเบาะแสข่าวผ่าน

5 ช่องทาง ได้แก่ เว็บไซต์ https://www.antifakenewscenter.com, เฟซบุ๊ก ANTI-FAKE NEWS CENTER, ทวิตเตอร์ @AFNCThailand, ไลน์ @antifakenewscenter, ช่องทางโทรศัพท์โทรสายด่วน GCC 1111 ต่อ 87 และสายด่วน 1599 ศูนย์ต่อต้านข่าวปลอม สำนักงานตำรวจแห่งชาติ

Advertisements

Thaiger

The Thaiger นำเสนอข่าวสารล่าสุดและอัปเดตจากทั่วประเทศไทย

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button