วิจารณ์สนั่น! แม่ ติดกล้องแอบดูลูก กลัวลูกไม่ตั้งใจอ่านหนังสือ
กลายเป็นที่พูดถึงกันสื่อสังคมออนไลน์หลังจากที่ มีชาวเน็ตเล่าว่าเธอถูกแม่ตนเอง ติดกล้องแอบดูลูก กลัวเธอไม่ตั้งใจอ่านหนังสือ
ผู้ใช้ทวิตเตอร์รายหนึ่งได้ออกมาทวิตข้อความเปิดเผยว่า พบกล้องวงจรปิดอยู่ในห้องของตน โดยเธอเล่าว่า “เมื่อประมาณช่วงเย็นเรานอนปิดไฟเล่นโทรศัพท์อยู่ที่เตียง เห็นไฟแวบๆกับสายเล็กๆโผล่ออกมาจากชั้นวางของ พอเดินไปใกล้ๆ ก็เห็นว่าเป็นกล้องวงจรปิด ถ้าไม่สังเกตจะไม่เห็นเลยนะ เพราะแจกันพลูด่างในรูปบังอยู่เกือบมิด เราตกใจมากแล้วที่บ้านฝนตกหนักไฟดับไปประมาณสองชั่วโมง ตอนนั้นแบบมือสั่นไปหมดเพราะช่วงนี้มีแม่เราคนเดียวที่เข้าห้อง
พอไฟมาเราได้ยินเสียงติ้ดๆซึ่งมีคนหลังไมค์มาว่าเป็นเสียงกล้อง เรารีบส่งข้อความไปหาแม่แล้วถามว่าเอากล้องมาติดเมื่อไหร่ติดทำไม เราก็คุยกับแม่ด้วยอารมณ์เย็นสุดๆขอเหตุผล แม่ตอบในโทรศัพท์และพิมพ์ในไลน์มาว่า “บ้านอื่นเค้าติดกล้องดูลูกกันแบบนี้ทั้งนั้นไม่เห็นจะแปลกอะไรเลย” เราตกใจมาก ไม่คิดว่าคำพูดนี้จะหลุดออกมาจากปากคนเป็นแม่ แม่เราค่อนข้างเป็นคนที่รักความสมบูรณ์แบบ บวกกับมีอาการวิตกกังวลขั้นรุนแรง แม่เคยขู่ติดกล้องมาหลายครั้งแล้ว
แม่แสดงออกถึงความเป็นห่วงและกังวลอย่างรุนแรง เราพยายามเห็นอกเห็นใจเข้าใจแม่มาตลอดเลยนะแต่ครั้งนี้เราไม่ได้จริงๆ จนกระทั่งเราไปตรงที่ติดกล้องอันแรกอีกครั้งเห็นสายอ้อมโต๊ะวางของมาตัวสายคือวางไว้เนียนมาก เราค่อยๆอ้อมสายจนเจอกับกล้องตัวที่ 2 มันถูกติดด้วยกาวสองหน้าไว้สักพัก เพราะตอนเราดึงออกคือค่อนข้างเหนียวเลย แล้วแนบไปกับสีโต๊ะด้วยนะ ถ้าไม่สังเกตคือไม่เห็น กล้องหันไปทางโต๊ะอ่านหนังสือพอดีเป๊ะ โดยกล้องทั้งสองตัวคือดูแบบ Live คือเชื่อมแอปแล้วเปิดดู
เรากับแม่ไม่ค่อยถูกกันค่ะ แบบทัศนคติความคิดอะไรค่อนข้างต่างกัน เค้าจะมีกรอบเป๊ะๆที่เราต้องปฏิบัติตาม เราก็ไม่ค่อยโอเคแหละค่ะแต่ก็ต้องทำ ซึ่งเราถูกเลี้ยงมาให้เรียนตั้งแต่เด็ก แม่เราดันให้เข้า รร. ประถมประจำจังหวัด พอจบประถมก็ให้เข้าโรงเรียนมัธยมชื่อดังของภาค พอจบ ม.3 ก็ให้ไปสอบ รร. มัธยมปลายที่เคลมว่าเป็นอันดับ1ของประเทศ เราต้องทำเพราะแม่ขู่ตลอดตั้งแต่ประถมว่าต้องติด ไม่งั้นแม่จะตัดขาดไม่เลี้ยง
เรามานึกดูถึงมุมกล้องทั้งสองตัวที่อันนี้ชี้ไปที่เตียงอีกอันไปที่โต๊ะอ่านหนังสือแม่กลัวเราไม่อ่านหนังสือค่ะ ไม่ใช้เวลาว่างทบทวนที่เรียน ไม่นานมานี้เค้ายื่นคำขาดกับเราว่าต้องสอบติดหมอคณะ Top 3 ของประเทศ ไม่ต้องเรียนก็ได้แล้วแม่จะปล่อยเราไป
มาคิดดูคือปัญหาพ่อแม่รังแกฉันคือไม่เกินจริงนะ อยากให้ตระหนักถึงความเป็นส่วนตัวกันจริงๆ บวกกับการไปพบจิตแพทย์ควรเป็นเรื่องปกติเถอะค่ะ แม่เราไปพบไปคุยจนช่วงหนึ่งเคยดีขึ้นแล้ว ไว้แค่นี้ก่อนค่ะ เหนื่อยมากๆ เลย
ทั้งนี้ เมื่อเทรดดังกล่าวถูกรีทวีตออกไปเป็นจำนวนมากครั้ง ได้มีผู้เข้ามาแสดงความคิด ช่วยเสนอแนะทางออกของปัญหานี้อย่างหลากหลาย พร้อมตำหนิวิธีการของแม่ที่ไม่ถูกต้องนัก ละเมิดความเป็นส่วนตัวของลูก