ข่าวข่าวการเมือง

ด่วน! ไพบูลย์ นิติตะวัน รอด ไม่หลุดเก้าอี้ ส.ส.

ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ให้ ไพบูลย์ รอด ไม่ถูกตัดสินให้พ้นสภาพ ส.ส. จากกรณีสมัครสมาชิกเข้าพรรค พปชร. หลังจากที่พรรคเก่าเพิ่งสิ้นสภาพเป็นพรรคการเมือง

ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญได้ออกนั่งบัลลังก์อ่านคำวินิจฉัยสมาชิกภาพ ส.ส. ของนาย ไพบูลย์ นิติตะวัน หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูป และ ส.ส. บัญชีรายชื่อของพรรคประชาชนปฎิรูป จากกรณีที่นาย ไพบูลย์ สมัครเป็นสมาชิกพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) หลังจากที่พรรคประชาชนปฏิรูปสิ้นสภาพความเป็นพรรคการเมือง

ตาม พ.ร.ป. ว่าด้วยพรรค มาตรา 91 วรรคหนึ่ง (7) ทั้งที่ยังคงต้องปฏิบัติหน้าที่หัวหน้าพรรคประชาชนปฏิรูปอยู่จนกว่าการชำระบัญชีจะแล้วเสร็จ และมิได้เป็นผู้มีชื่อในบัญชีรายชื่อผู้สมัครรับเลือกตั้ง ส.ส. ของพรรคพลังประชารัฐที่ยื่นต่อคณะกรรมการการเลือกตั้งก่อนปิดการรับสมัครเลือกตั้ง เป็นเหตุให้สมาชิกภาพสิ้นสุดลงหรือไม่ โดยศาลเห็นว่าคดีเป็นปัญหาข้อกฎหมายและมีพยานหลักฐานเพียงพอที่จะพิจารณาวินิจฉัยได้ จึงยุติการไต่สวน และอ่านคำวินิจฉัยในวันนี้

โดยในคำวินิจฉัยระบุว่า การสิ้นสภาพของพรรคประชาชนปฏิรูปเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของข้อบังคับพรรคตามที่กำหนด กรรมการบริหารพรรคมีมติเอกฉันท์ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูป เป็นไปตามข้อบังคับพรรค โดยระบุเหตุผลว่า กรรมการบริหารพรรคหลายคนลาออก และขาดบุคลากรสนับสนุน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบตามกฎหมายพรรคการเมือง ได้ยืนยันสอดคล้องว่ามีการลงมติตามการประชุมดังกล่าวจริง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ให้สิ้นสภาพ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงเป็นไปโดยชอบ

ส่วนที่ผู้ร้องร้องว่าผู้ถูกร้องมีเจตนาซ่อนเร้น ศาลเห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง

การสิ้นสภาพของพรรคประชาชนปฏิรูปเป็นไปตามขั้นตอนและกระบวนการของข้อบังคับพรรคตามที่กำหนด กรรมการบริหารพรรคมีมติเอกฉันท์ให้เลิกพรรคประชาชนปฏิรูป เป็นไปตามข้อบังคับพรรค โดยระบุเหตุผลว่า กรรมการบริหารพรรคหลายคนลาออก และขาดบุคลากรสนับสนุน ทำให้ไม่สามารถดำเนินการต่อไปได้ นายทะเบียนพรรคการเมืองได้ตรวจสอบตามกฎหมายพรรคการเมือง ได้ยืนยันสอดคล้องว่ามีการลงมติตามการประชุมดังกล่าวจริง คณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) พิจารณาแล้วมีมติเอกฉันท์ให้สิ้นสภาพ และประกาศในราชกิจจานุเบกษาแล้ว จึงเป็นไปโดยชอบ

ส่วนที่ผู้ร้องร้องว่าผู้ถูกร้องมีเจตนาซ่อนเร้น ศาลเห็นว่าไม่มีข้อเท็จจริงหรือพยานหลักฐานตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง

ส่วนข้ออ้างของผู้ร้องที่บอกว่า ผู้ถูกร้องไม่ได้เป็นผู้ถูกเสนอชื่อในบัญชี ส.ส. รายชื่อ จึงไม่อาจเป็น ส.ส. บัญชีรายชื่อ พรรคพลังประชารัฐนั้น รัฐธรรมนูญได้กำหนดหลักเกณฑ์การได้มาซึ่ง ส.ส. บัญชีรายชื่อ มีวัตถุประสงค์บังคับช่วงเลือกตั้งและก่อนการเลือกตั้ง จึงเป็นคนละกรณี กรณีเป็นกรณีเกิดขึ้นภายหลังการเลือกตั้ง และผู้ถูกร้องได้เป็น ส.ส. แล้ว

จากข้อวินิจฉัยทั้งหนดี้ทำให้ นาย ไพบูลย์ ไม่พ้นสมาชิกภาพความเป็น ส.ส. ตามรัฐธรรมนูญมาตรา 101 (10) ประกอบมาตรา 90 และมาตรา 91 วรรคหนึ่ง (5)

Nateetorn S.

ผู้สื่อข่าว ทำงานกับ Thaiger มาตั้งแต่ปี 2020 จบการศึกษาจากคณะวารสารศาสตร์ มหาวิทยาลัยธรรมศาสคร์ เคยทำงานกับสถานีโทรทัศน์อันดับ 1 ของประเทศ ทำให้มประสบการณ์ความเชี่ยวชาญ เจาะประเด็นข่าวการเมืองอาชญากรรม ข่าวแปลกๆ เรื่องน่าสนใจจากต่างประเทศ ช่องทางติดต่อ tee@thethaiger.com

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button