คุ้มจริงไม่จกตา! รีวิว หลังใช้งาน Infinix HOT 11S มือถือสายประหยัด แต่สเปกเกินเบอร์มาก
คุ้มจริงไม่จกตา! รีวิว หลังใช้งาน Infinix HOT 11S มือถือสายประหยัด แต่สเปกเกินเบอร์มาก มาพร้อมกล้องหลัง 3 ตัว ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล กับหน้าจอแสดงผลไซซ์ใหญ่เต็มตา 6.78 นิ้ว แถมด้วยแบตอึดคู่ใจ 5000 mAh ใช้งานต่อเนื่องยาวนาน ในราคาเริ่มต้นไม่เกิน 5,000 บาท
รีวิว หลังใช้งาน Infinix HOT 11S – สมาร์ทโฟนรุ่นประหยัดมาแรง Infinix ที่เพิ่งเปิดตัวไปไม่นานตามรุ่นพี่ไปติด ๆ อย่าง NOTE 10 PRO แต่จะมีราคาที่ถูกลงกว่ามาก แถมยังคงใส่ฟีเจอร์มาให้แบบครบครัน รองรับการใช้งานที่หลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นเตอรี่ความจุ 5000 mAh ที่สามารถใช้ได้ยาวนาน 2 วัน สำหรับการเล่นอินเตอร์เน็ตทั่วไป สลับกับดูคลิปบนยูทูบ แล้วก็เปิดโหมดถ่ายรูปเป็นครั้งคราว หน้าจอแสดงผลไซซ์ใหญ่ขอบบางเป็นพิเศษ กับดีไซน์กล้องหน้าไร้รอยบากแบบมีรูบนหน้าจอ Punch-Hole Display ช่วยขยายพื้นที่การรับชมให้เพิ่มขึ้นเต็มตา
สเปก Infinix HOT 11S
- ขนาดตัวเครื่อง
– ยาว : 168.90 มิลลิเมตร
– กว้าง : 77 มิลลิเมตร
– หนา : 8.82 มิลลิเมตร
– น้ำหนัก : 205 กรัม - หน้าจอ
– Full HD+, Panel-IPS
– Refresh Rate 60 / 90Hz
– Touch Sampling Rate 180Hz
– Blue light ป้องกันแสงสีฟ้า
– หน้าจอ 6.78 นิ้ว
– 1080 x 2460 พิกเซล - ประมวลผล
– ชิปเซ็ต : Helio G88
– ซีพียู : Octa-core
– GPU : Mali-G52 MC2 - ระบบปฏิบัติการ OS
– XOS 7.6 บน Android 11 - หน่วยความจำ
– RAM : 6GB
– ROM : 128GB - กล้องหลัก Wide Angle
– ความละเอียดสูงสุด :50 ล้านพิกเซล
– รูรับแสงกว้าง : f1.6
– ระบบโฟกัสอัตโนมัติ - กล้องรอง Depth
– ความละเอียดสูงสุด : 2 ล้านพิกเซล
– ปรับเอฟเฟกต์โบเก้ - กล้อง AI
– AI (Triple Camera) - กล้องหน้า
– ความละเอียดสูงสุด : 8 ล้านพิกเซล
– ไฟแฟลช LED Selfie - วิดีโอ
– ความละเอียดสูงสุด 2K / 1080p / 720p
- แบตเตอรี่
– 5000 mAh
– Fast charging 18 วัตต์ - สีเครื่อง
– Black, Green, Purple
| รีวิว หลังใช้งาน Infinix HOT 11S ถูกใจเกมเมอร์สายประหยัด
ดีไซน์และการออกแบบ
สำหรับเครื่อง HOT 11S จะมีโมดูลกล้องหลังที่มีความโดดเด่นสวยงาม ฝาหลังมี Finger Print สำหรับการสแกนลายนิ้วมือเพื่อปลดล็อกหน้าจอ ส่วนปุ่มล็อกกับเพิ่มลดเสียงจะอยู่ฝั่งขวาเดียวกัน ฝาหลังทำจากวัสดุมันวาว พร้อมลวดลายดิจิทัลล้ำ ๆ รูปทรงหยักเรขาคณิตแบบ 3 มิติ ทำให้มีความสวยงามเมื่อสะท้อนกับแสงไฟ
การเล่นเกม
Infinix HOT 11S มีหน้าจอขนาด 6.78 นิ้ว ความคมชัดระดับ Full HD+ บนพาเนลแบบ IPS (ขนาด 1080 x 2460 พิกเซล) ซึ่งพอได้ลองจับครั้งแรกก็รู้สึกว่าไซซ์ใหญ่ถือจับกระชับมือ เหมาะสำหรับการเล่นเกมได้อย่างเต็มตาจุใจ และด้วยตัวขอบจอที่บางเฉียบเป็นพิเศษ กับกล้องหน้าแบบมีรู Punch-Hole Display ที่ช่วยขยายพื้นที่และการรับรู้ระหว่างการเล่นเกม หรือรับชมภาพยนตร์ได้อย่างลื่นไหล ไม่รู้สึกติดขัดสายตาแต่อย่างใด โดยเกมที่เลือกมาทดสอบสเปกเครื่องนั้นก็จะมีด้วยกัน 2 เกม ได้แก่ Genshin Impact และ PUBG
สำหรับเกม Genshin Impact นั้นจัดว่าเป็นเกมปราบเซียน ของสายเกมเมอร์บนโทรศัพท์เลยก็ว่าได้ ถึงแม้ว่าจะไม่เคยเล่นจริงจัง แต่ก็แอบได้ยินกิตศัพท์มาจากหลายวงการว่าภาพสวย กราฟิกโหด ครั้งนี้เลยจะมาลองเล่นทดสอบประสิทธิภาพเครื่องให้ได้เฉยชมกัน
? ซึ่งก็เป็นไปตามคาด ตัวเกมมีอาการแลค และภาพกระตุกเวลาที่เดินไปตามฉากต่าง ๆ โดยเฉพาะในเมืองที่มีรายละเอียดของ NPC และตึกรามบ้านช่องค่อนข้างมาก แต่ก็ไม่ถึงกับจะเล่นไม่ได้เลย ซึ่งอาการเหล่านี้จะเป็นแค่ระยะสั้น ๆ ไม่ได้ต่อเนื่องยาวนานจนรู้สึกหัวร้อน แต่ถ้าใครเป็นสายจริงจังเกมมิ่ง ก็อาจจะมีหงุดหงิดกันบ้าง แต่นี่ส่วนตัวไม่ได้เล่นเกมหนักขนาดนั้น เลยมองว่าทำออกมาได้ค่อนข้างประทับใจทีเดียว โดยระหว่างการเล่นในระยะเวลา 1 ชั่วโมง ตัว CPU จะมีอุณหภูมิเริ่มต้นที่ 66 องศาเซลเซียส (โดยประมาณ) ซึ่งพอเอามาวางบนตักก็แค่อุ่น ๆ ไม่ได้ร้อนจนเกินไป
ขยับมาต่อกันที่เกมดังขวัญใจมหาชนอย่าง PUBG ที่เมื่อปรับกราฟิกสุดทุกอย่าง (โดยเกมเปิดให้ถึงแค่ระดับ HD และจะเปิดให้ปรับในระดับความละเอียดที่ชัดขึ้นในอนาคตบนอุปกรณ์นี้) ก็ยังคงเล่นได้ไหลลื่นทั้งแบบ Third person และ First person ไม่ว่าจะเป็นขับรถ ล่องเรือ โดดร่ม หรือช่วงหนีตายเข้าเซฟโซน ก็จัดว่าเล่นได้ลื่นไหลถูกใจมาก สำหรับเกม PUBG ได้ทำการทดลองเล่นเป็นระยะเวลา 30 นาที จนจบเกม และเมื่อวัดอุณหภูมิ CPU ก็พบว่ามีค่าเริ่มต้นต่ำกว่า โดยอยู่ที่ 64 องศาเซลเซียส และความร้อนเมื่อวางบนตักก็พอ ๆ กับตอนที่เล่นเกม Genshin Impact (ทั้งนี้ตัวเลขค่าต่าง ๆ อาจไม่ตรงกันเสมอไปขึ้นอยู่กับหลายปัจจัย)
ด้วยหน้าจอขนาดใหญ่ 6.78 นิ้ว ความชัด Full HD+ ที่มาพร้อมกับอัตรารีเฟรชเรท 90Hz และอัตราการตอบสนองการสัมผัสที่ 180Hz ภายใต้ Performance จากชิปเซ็ต Helio 88 เลยทำให้ HOT 11S เป็นมือถือเกมมิ่งระดับกลาง ที่มีประสิทธิภาพดีคุ้มเกินราคามาก
แบตเตอรี่ความจุ
ถือว่าคุ้มมากสำหรับมือถือราคาไม่ถึง 5,000 บาท (เมื่อใช้โค้ดส่วนลด) แต่ได้แบตเตอรี่มาให้ถึง 5000 mAh พร้อมระบบชาร์จไวทันใจ 18 วัตต์ ที่ได้ลองใช้งานเล่นเกม เล่นเน็ต เปิดแอปฯ หรือดูหนังฟังเพลง ก็เฉลี่ยแล้วอยู่ได้ประมาณ 1 วัน แบบเหลือ ๆ แต่ถ้าเอาตามข้อมูลที่เว็บไซต์เคลมไว้ ก็จะอยู่ได้นานถึง 60 วัน สำหรับการเปิดสแตนบายไว้เฉย ๆ
การรับชมวิดีโอและความบันเทิงต่าง ๆ
ทางทีมงาน The Thaiger ประเทศไทย ได้ลองเปิด MV Savage ของวง aespa โดยปรับความละเอียดสูงสุด ที่ระดับ 2K ซึ่งก็ได้ภาพสวยคมชัด ลื่นไหลกระชากใจแอดสุด ๆ ไปเลยละ ?
…โอเคครับ กลับมาที่เรื่องของวิดีโอกันต่อ สำหรับการเล่นหนังบน NETFLIX (L3) โดยในภาพตัวอย่างจะเป็นเรื่อง Demon Slayer ตอน ศึกรถไฟสู่นิรันดร์ ก็ไม่มีปัญหาอะไร แต่อาจมีข้อสังเกตเรื่องเงาสะท้อนบนจอแบบกระจกแข็ง ที่ขัดใจอยู่บ้าง แต่ก็ถือว่าอยู่เกณฑ์ที่รับได้ครับ
ส่วนการรับชมคลิปรายการ T Talk บนยูทูบ ก็ปกติดีทุกอย่างไม่มีอะไรให้ติดขัด แถมยังเสียงดังกังวาน ด้วยลำโพงแบบคู่ที่มาพร้อมกับระบบเสียง DTS กระจายเสียงคมชัดรอบทิศทางได้เป็นอย่างดี
โดยรวมแล้วหน้าจอแสดงผลทำงานออกมาได้อย่างมีประสิทธิภาพ ตอบโจทย์ทั้งการดูหนัง เล่นเกม หรือเปิดแอปพลิเคชันใช้งานได้ค่อนข้างประทับใจ
กล้องถ่ายภาพ
Infinix HOT 11S ติดตั้งกล้องหลังสามตัว ได้แก่ กล้องหลัก Wide ความละเอียดสูงสุด 50 ล้านพิกเซล รูรับแสงกว้าง f/1.6 + กล้องรอง Depth สำหรับโหมดถ่ายภาพบุคคล ความละเอียดสูงสุด 2 ล้านพิกเซล และกล้อง AI สำหรับการประมวลและวิเคราะห์ปรับแต่งภาพถ่ายให้สวยงาม ทางฝั่งของกล้องหน้าก็มีความละเอียดอยู่ที่ 8 ล้านพิกเซล คู่กับโหมดไฟแฟลช LED Selfie ช่วยเปลี่ยนหน้าหมองให้ขาวจั๊วะ สว่างสดใสกันไปเลย
โดยจะมีฟีเจอร์ต่าง ๆ มาให้เล่นเพียบ ไม่ว่าจะเป็น AI Camera (โหมดปกติ), ภาพ HDR, โหมด Beauty, โหมดถ่ายภาพบุคคล, โหมดประสิทธิภาพในที่มืด, ภาพถ่าย AR, วิดีโอ และวิดีโอขนาดสั้น
สำหรับโหมด HDR ยังคงทำงานได้ดี และจะเห็นความแตกต่างได้ชัดเจนเวลาที่เราถ่ายภาพท้องฟ้ามืดครื้ม หรือวัตถุที่มีสีซีด
ในส่วนของการถ่ายตอนกลางคืน ผลลัพธ์ออกมาได้ค่อนข้างประทับใจ แต่ภาพก็จะมีรายละเอียดลดลงไปมากเช่นกัน ซึ่งหากมีการนำเทคโนโลยีกันสั่นมาด้วยก็จะน่าใช้ยิ่งขึ้นทีเดียว
โหมด Portrait และ Beauty
เรียกว่าสวยงามตามสไตล์มือถือจากฝั่ง Android ที่ให้คอนทราสต์เข้มข้นกับสีสันสดใสฉูดฉาดบาดใจ ซึ่งยังคงคมชัดเก็บรายละเอียดได้มากเช่นเคย อาจกล่าวได้ว่าสามารถถ่ายครบจบที่หลังกล้องได้เลยไม่ต้องผ่านแอปให้เสียเวลา
กล้องวิดีโอ
สามารถปรับความละเอียดได้สูงสุด 2K / 1080p / 720p แต่ถ้าเลือกใช้โหมดวิดีโอเบลอหรือฟีเจอร์ฟรุ้งฟริ้ง ตัวกล้องจะปรับความละเอียดไปเป็น 720p แบบอัตโนมัติ
ทำงานแบบ Multitasking
และอีกหนึ่งฟีเจอร์ที่ชอบมากและไม่คิดว่าจะทำได้ด้วยในรุ่นนี้นั่นก็คือ การเปิด 2 จอ ใช้งานพร้อมกัน ด้วยการใช้นิ้ว 3 นิ้ว ปัดขึ้น เพียงเท่านี้ก็จะย่อหน้าจอที่กำลังเปิดอยู่ พร้อมกับเปิดอีกอันขึ้นมาได้อย่างสะดวก โดยโหมดนี้จะปรับได้ทั้งขนาดเล็กสุด และขนาดกลางตามภาพตัวอย่างเลย
สรุปความคุ้ม
สำหรับมือถือในระดับราคานี้ ก็ถือว่าคุ้มมากกับการใช้งานได้หลากหลาย แม้ว่าจะมีประสิทธิภาพเทียบไม่ได้กับรุ่นเรือธง แต่ก็เหมาะกับคนที่มีงบจำกัดแต่อยากได้มือถือสมาร์ทโฟนเครื่องเดียว ที่ตอบโจทย์การใช้งานหลายด้านในระดับกลาง ๆ ก็ไม่ควรพลาดกับรุ่นนี้เลยครับ ส่วนคะแนนขอมอบให้ทั้งหมด 8 / 10 สำหรับมือถือราคาประหยัดแต่ได้สเปกจัดเต็ม ถ้าส่องดูแล้วตอบโจทย์ได้ดีก็ลองเก็บ Infinix HOT 11S ไว้พิจารณาได้เลยนะครับ
ตัวอย่างภาพอื่น ๆ จากกล้องของ Infinix HOT 11S