ศาลฎีกา ยืน จำคุกตลอดชีวิต ‘อ๊อฟ สุรพล’ คดี น้องหญิงตกรถเทรลเลอร์
ศาลฎีกา ยืน จำคุกตลอดชีวิต สุรพล คดี น้องหญิงตกรถเทรลเลอร์
สืบเนื่องจากคดีสะเทือนขวัญเมื่อปี พ.ศ.2561 น้องหญิง น.ส.นรีกานต์ ยาวิราช ไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง ในจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ขากลับได้เดินทางกลับกับ นายอ๊อฟ สุรพล ดาราคำ ด้วยรถเทรลเลอร์ของนายอ๊อฟ ต่อมาได้เกิดเหตุ น้องหญิง กระโดดลงจากรถได้รับบาดเจ็บกะโหลกศรีษะแตก และสมองบวม จนเสียชีวิต ซึ่งญาติติดใจสาเหตุการตายว่าอาจเป็นการฆาตกรรม
ต่อมาเมื่อญาติแจ้งความ นำเรื่องเข้าสู่กระบวนการศาล นายอ๊อฟ โดนข้อกล่าวหาา กักขังหน่วงเหนี่ยวผู้อื่น หรือกระทำการด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเหตุให้ผู้ถูกหน่วยเหนี่ยวหรือกักขังถึงแก่ความตาย และทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ผู้นั้นถึงแก่ความ และฆ่าผู้อื่น ส่วน น.ส. เป็ด เพื่อน้องหญิง โดนข้อหา ข้อหาให้การสนับสนุน หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้อื่นหรือกระทำการด้วยประการใดให้ผูอื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย และเป็นเป็นให้ผู้ถูกหน่วงเหนี่ยวหรือกักขังถึงแกความตาย
ผลการตัดสินของศาลชั้นต้น เมื่อ ก.ค. 2562 พิพากษา ยกฟ้อง นายสุรพล และน.ส.เป็ด เนื่องจากผลชันสูตรศพของฝ่ายโจทก์และจำเลยมีความขัดแย้งกันโดยฝ่ายโจทก์ชี้ว่าที่ศีรษะถูกตีด้วยของแข็ง แต่ฝ่ายจำเลยชี้ว่าเกิดจากอุบัติเหตุ และฝ่ายโจทก์ไม่สามารถนำสืบให้คลายความสงสัยได้ว่าของแข็งที่ใช้ตีที่ศีรษะของผู้ตายคืออะไร
ต่อมา พ.ค. 2563 ศาลอุทธรณ์ภาค 1 พิพากษากลับ เป็นพิพากษาตลอดชีวิต นายอ๊อฟ ด้วยศาล เห็นว่าพยานหลักฐานของโจทก์รับฟัง ได้ว่าจำเลยที่ 1 ใช้ของแข็งไม่ทราบชนิดและขนาดตีศีรษะผู้ตายอันเป็นอวัยวะสำคัญ เป็นเหตุให้กะโหลกศีรษะแตก สมองช้ำเลือดบวม ย่อมเล็งเห็นผลได้ว่า การกระทำดังกล่าวทำให้ผู้ตายถึงแก่ความตายได้ ข้อต่อสู้นำสืบคดีของจำเลยที่ 1 มีข้อพิรุธสงสัย ไม่สามารถ รับฟังเพื่อหักล้างพยานหลักฐานของโจทก์ได้ การกระทำ ของจำเลยที่ 1 มีความผิดฐานฆ่าผู้อื่น
แต่พยานหลักฐานโจทก์ไม่อาจรับฟังได้ว่าจำเลยที่ 1 กระทำการ หน่วงเหนี่ยวกักขังผู้ตายให้ปราศจากเสรีภาพในร่างกาย จึงไม่อาจลงโทษจำเลยที่ 2 ฐานเป็นผู้สนับสนุนได้ คำพิพากษาว่าจำเลยที่ 1 ฐานฆ่าผู้อื่น ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 288 ให้ลงโทษจำคุกตลอดชีวิต นอกจากที่แก้ให้เป็นไปตามคำพิพากษาของศาลชั้นต้น
ล่าสุดวันนี้ 5 ต.ค. 2564 มีรายงานว่า ศาลฎีกา จังหวัดพระนครศรีอยุธยา มีคำพิพากษายืนตามศาลอุทธรณ์ ให้จำคุกตลอดชีวิต