จัดกระเป๋าไปเติมหวานทั่วไทย 10 สถานที่เที่ยวสุดโรแมนติก ขึ้นเหนือล่องใต้ไปเกาะ จูงมือคนรักหรือเพื่อนสนิทออกไปเที่ยวกันให้ชื่นบานได้เลย
ประเทศไทยเป็นอีกหนึ่งประเทศที่มีสถานที่ท่องเที่ยวตามธรรมชาติมากมายทุกภาคทั่วประเทศ วิวดีไม่พอ บรรยากาศก็สุดโรแมนติก ทำได้หลายกิจกรรมอีกต่างหาก จะลุยเข้าไปในป่า นั่งเรือไปเที่ยวเกาะ ดื่มด่ำบรรยากาศในเมืองหรือย้อนเวลาไปชมอดีต ไม่ว่าทริปแบบไหนก็ชวนให้รู้สึกดีที่ได้เที่ยวเมืองไทยทั้งนั้น และเตรียมเปิดประเทศ 15 ตุลาคมนี้แล้ว หลายคนคงจะคิดถึงบรรยากาศการท่องเที่ยวในประเทศไทยไม่น้อย มาแพลนรอวันหยุดเพื่อเตรียมท่องเที่ยวเชิงโรแมนติกกันดีกว่ากับ 10 สถานที่เที่ยวสุดโรแมนติก จัดกระเป๋าไปเติมหวานทั่วไทย จัดไปเลย
สถานที่เที่ยวที่โรแมนติกที่สุดในประเทศไทย
1. หมู่เกาะสิมิลัน
หมู่เกาะสิมิลัน จังหวัดพังงา ประกอบด้วยเกาะที่สวยงามทั้งหมด 11 เกาะ โด่งดังมากในเรื่องวิวน้ำทะเลที่ใสดุจคริสตัล ทรายขาวเนียนละเอียด และเป็นหนึ่งในจุดดำน้ำที่ดีที่สุดในโลก ชมความงามใต้ท้องทะเลและเพลิดเพลินกับปะการังหลากสี ปลาทะเลตัวน้อย รวมถึงสัตว์ทะเลชนิดอื่น ๆ
นอกจากจับมือกันชมความงามใต้ทะเลแล้ว คุณยังสามารถเดินจับมือกับคนรักเข้าป่าไปชมสัตว์ป่านานาชนิดได้อีกด้วย เช่น นก ค่าง กิ้งก่า กระรอกและฝูงค้างคาว นอนพักผ่อนอาบแดดริมชายหาด หรือรอชมพระอาทิตย์ลับหายไปในทะเลก็โรแมนติกสุด ๆ
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวหมู่เกาะสิมิลัน: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน
2. เกาะสมุย
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กที่ใครก็อยากมา เกาะสมุย ชายหาดที่มีต้นปาล์มรายล้อม วิลล่าสุดหรู ร้านอาหารระดับ
มิชลิน สิ่งเหล่านี้ทำให้เกาะสมุยเป็นหนึ่งในสถานที่ท่องเที่ยวสุดหรูหราโรแมนติก นอกจากนี้ยังมีกิจกรรมสำหรับคู่รักสายต่าง ๆ ถ้าคุณเป็นคู่รักสายลุยคุณต้องไม่พลาดไปชมน้ำตก กระโดดบันจี้จัมพ์เพิ่มอะดรีนาลีนให้ร่างกาย จะจับมือกระโดดหรือกอดแล้วกระโดดลงมาพร้อมกันก็ได้ แต่ถ้าพวกคุณเป็นคู่รักสายชิล เน้นใช้เวลาเพื่อการผ่อนคลาย ก็สามารถไปชาร์จพลังให้ร่างกายกันได้ที่สปาทรีตเมนต์
และกิจกรรมที่พลาดไม่ได้เลยก็คือนอนชิลอาบแดดริมชายหาดเกาะสมุย ฟังเสียงคลื่นทะเล จิบน้ำมะพร้าวเย็นชื่นใจ พอตกเย็นพระอาทิตย์ใกล้ลับขอบฟ้าก็ไปนั่งชิล ชิมค็อกเทลต่อที่บาร์ริมทะเล ก่อนจะไปลิ้มรสดินเนอร์ใต้แสงเทียน เดินย่อยที่ตลาดกลางคืน ชมการแสดงไฟหรือเข้าร่วมปาร์ตี้ริมชายหาดกับนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่น ๆ ก็ได้ประสบการณ์ที่น่าประทับใจสุด ๆ
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะสมุย: สามารถเที่ยวได้ตลอดทั้งปี แต่ช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดคือนอกฤดูมรสุม ช่วงเดือนมกราคม-เดือนกันยายน
3. กรุงเทพมหานคร
เมืองหลวงของไทย เมืองแห่งแสงสี มีชีวิตชีวาและคึกคักแม้ในยามราตรี ปัจจุบันแม้ว่าสถานการณ์โควิด-19 จะยังไม่หมดไปและสถานที่ท่องเที่ยวยังต้องปรับเวลาในการให้บริการอยู่ แต่ก็มีหลายกิจกรรมที่เปิดและพร้อมให้คุณไปทำแล้ว อย่างการเดินสำรวจรอบเกาะรัตนโกสินทร์ พระบรมมหาราชวัง ชมสถานที่แลนด์
มาร์กริมแม่น้ำเจ้าพระยาอย่างวัดอรุณ เดินเล่นย่านเมืองเก่าอย่างบางลำพู ตลาดน้อย เดินเที่ยวชอปปิงที่จตุจักร นั่งชิลที่ร้านอาหาร-บาร์บนดาดฟ้า หรือล่องเรือทานอาหารค่ำในแม่น้ำเจ้าพระยา ไม่ว่ากิจกรรมไหนก็กลายเป็นกิจกรรมสุดโรแมนติกได้ ถ้าหากคุณได้ใช้เวลาไปกับคนพิเศษ
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวกรุงเทพฯ: ช่วงไฮซีซั่นเดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์ เพราะช่วงเดือนมีนาคม-เดือนมิถุนายน อากาศค่อนข้างร้อนจัด ส่วนเดือนกรกฎาคม-เดือนตุลาคม เป็นช่วงฤดูฝนของประเทศไทย
4. เชียงใหม่
หนึ่งในเมืองท่องเที่ยวแห่งภาคเหนือ มีทั้งวิถีชีวิตแบบดั้งเดิมและแบบใหม่ผสมผสานกันอยู่ในทุกพื้นที่ของจังหวัด เหมาะกับคู่รักที่ต้องการใช้ชีวิตสโลว์ไลฟ์ หลีกหนีความวุ่นวายในเมือง ชมสถานที่ทางประวัติศาสตร์อย่างประตูท่าแพ ไหว้พระธาตุดอยสุเทพและวัดพระสิงห์ ตามหาร้านอร่อยบนถนนนิมมาน
เหมินทร์ ล่องเรือชมแม่น้ำปิง หรือจะขึ้นดอยม่อนแจ่มไปชมทะเลหมอกยามเช้าก็สุดจะโรแมนติก
แต่ไม่ใช่ว่าจะมีแต่ที่ท่องเที่ยวเพื่อไลฟ์สไตล์สโลว์ไลฟ์เพียงอย่างเดียว เชียงใหม่ยังมีกิจกรรมผจญภัยกลางแจ้งอย่างการขึ้นดอยอินทนนท์หรือล่องแก่ง รวมถึงพื้นที่สำรวจธรรมชาติในเขตรักษาพันธุ์ช้างอีกด้วย
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเชียงใหม่: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์
5. เกาะหลีเป๊ะ
พามาเติมหวานกันที่เกาะอีกแห่งกับเกาะหลีเป๊ะที่ล้อมรอบด้วยทะเลอันดามัน อยู่ในเขตจังหวัดสตูล และยังอยู่ในเขตอุทยานแห่งชาติทางทะเลหมู่เกาะตะรุเตา ความเขียวขจีของต้นไม้บนเกาะและน้ำทะเลสีฟ้าครามจะทำให้คุณรู้สึกได้ถึงช่วงเวลาแห่งการพักผ่อนกับคนที่คุณรักจริง ๆ นอกจากนี้ปะการังสีสันสวยงามที่ได้รับการอนุรักษ์ไว้อย่างดี ยังเหมาะสำหรับการทำกิจกรรมดำน้ำลึกและตื้นอีกด้วย หรืออยากจะเดินสำรวจเกาะก็ทำได้ เพราะเกาะหลีเป๊ะมีขนาดเล็กมาก เดินจากต้นเกาะไปถึงท้ายเกาะใช้เวลาเดินเท้าเพียง 20 นาทีเท่านั้น
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมกราคม
6. อยุธยา
ชวนคู่รักสายประวัติศาสตร์และรักในศิลปวัฒนธรรมไปเดินชมเมืองเก่าที่จังหวัดอยุธยา สำรวจร่องรอยอารยธรรมอันรุ่งเรืองในอดีตที่วัดใหญ่ชัยมงคล วัดมหาธาตุ และพระราชวังบางปะอิน เก็บบันทึกความทรงจำด้วยภาพถ่ายคุณและคนที่คุณรักในชุดไทยโบราณที่วัดไชยวัฒนาราม ซึ่งมีบริการให้เช่าชุดไทยที่นั่น หลังจากนั้นไปแวะชิมกุ้งแม่น้ำ หรือเดินเล่นที่ตลาดน้ำอยุธยาและตลาดกลางคืน ใช้ช่วงเวลาที่ดีในบรรยากาศเมืองเก่าร่วมกัน น่าประทับใจสุด ๆ
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวอยุธยา: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนกุมภาพันธ์
7. ภูเก็ต
ไข่มุกอันดามัน ภาคใต้ของประเทศไทย เป็นหนึ่งในสถานที่ฮันนีมูนที่มีชื่อเสียงอีกแห่งหนึ่ง ด้วยความที่ภูเก็ตเป็นเมืองแห่งการท่องเที่ยวแบบเต็มขั้น เพราะมีทั้งหาดทรายสีขาว ทะเลสีฟ้า ร้านอาหารและ
รีสอร์ตมากมายรองรับนักท่องเที่ยว ถ้าต้องการเที่ยวแบบคึกคักต้องไม่พลาดหาดกมลาและหาดป่าตอง แต่หากต้องการใช้เวลาไปกับคนรักในที่ที่เงียบสงบกว่านั้นก็แนะนำเป็นที่หาดสุรินทร์และหาดในหาน อยู่ไม่ไกลจากแหลมพรหมเทพ อีกจุดชมวิวพระอาทิตย์ตกดินที่โรแมนติกที่สุด ให้คุณได้จดจำช่วงเวลาที่ได้ใช้ด้วยกันช่วงนี้ไปอีกนาน
นอกจากกิจกรรมริมทะเล ที่ภูเก็ตก็ยังมีย่านเมืองเก่าให้เที่ยวชม รวมถึงกิจกรรมสุดโลดโผนอย่างบันจี้จัมพ์ ดำน้ำ สำหรับคู่รักและนักท่องเที่ยวที่สนใจอีกด้วย
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวภูเก็ต: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน
8. กระบี่
จังหวัดกระบี่ มากมายด้วยหมู่เกาะและสถานที่เที่ยวสุดสวยและโรแมนติกไม่แพ้ที่ไหน อีกทั้งคนไม่พลุกพล่านเท่าภูเก็ตหรือเกาะสมุยอีกด้วย จึงเหมาะกับคู่รักที่อยากใช้เวลาอยู่กับบรรยากาศริมทะเลแบบไม่วุ่นวาย โดยจุดหมายปลายทางในกระบี่ที่โรแมนติกสุด ๆ ก็คือ หาดไร่เลย์ นอนพักผ่อนอาบแดดบนทรายละเอียดสีขาวหรือถ้าอยากทำกิจกรรมที่น่าตื่นเต้นอีกหน่อย ที่นี่ก็มีจุดปีนหน้าผาเพื่อคู่รักนักผจญภัยอีกด้วย
อีกหนึ่งสถานที่คืออ่าวท่าเลน ล้อมรอบด้วยภูเขาหินปูนสูง ซึ่งคุณสามารถพายเรือคายัคไปเที่ยวชมอ่าวแห่งนี้ได้ หรือจะลุยไปชมความงามของธรรมชาติที่อุทยานแห่งชาติเขาสก และต้องอย่าลืมเก็บแรงไปปีนวัดถ้ำเสือ ชมวิว 360 องศาของเมืองกระบี่ก่อนปิดทริปด้วยนะ
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวกระบี่: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนมีนาคม
9. เชียงราย
ถ้ากล่าวถึงภาคเหนือ ผู้คนมักจะนึกถึงจังหวัดเชียงใหม่เป็นอันดับต้น ๆ แต่ความจริงแล้วจังหวัดเชียงรายก็มีดีไม่แพ้กัน ส่วนใหญ่จะเป็นสถานที่ท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมอย่างเมืองหลวงเก่า วัดร่องขุ่น สามเหลี่ยมทองคำ พื้นที่ที่ประเทศไทย เมียนมาร์และลาวมาบรรจบกัน ท่องเที่ยวแบบธรรมชาติที่เขตรักษาพันธุ์ช้างเชียงราย บ่อน้ำพุร้อนตามธรรมชาติโป่งพระบาท หรือจะแวะเก็บชา ชิมขนมที่ไร่ชาฉุยฟงก็ได้บรรยากาศน่ารักนุ้บนิ้บหัวใจไม่แพ้กัน
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเชียงราย: ตั้งแต่เดือนตุลาคม-เดือนกุมภาพันธ์
10. เกาะพีพี
มาถึงสถานที่ท่องเที่ยวสุดโรแมนติกแห่งสุดท้ายที่เราคัดสรรมา เกาะพีพี ตั้งอยู่ระหว่างจังหวัดภูเก็ตและจังหวัดกระบี่ เหมาะสำหรับการท่องเที่ยวของคู่รักที่ต้องการสถานที่พักผ่อนสุดโรแมนติกที่เงียบสงบ ใกล้ชิดกับธรรมชาติ ชายหาด ป่าเขียวขจีและเขาหินปูนที่โอบล้อมเราไว้ ขึ้นชื่อว่าเกาะก็แน่นอนว่าต้องมีจุดดำน้ำสวย ๆ ให้คุณได้ไปทำทั้งกิจกรรมดำน้ำลึกและตื้น ปีนเขาไปชมวิว และปิดท้ายวันก่อนเข้านอนด้วยปาร์ตี้ริมชายหาดและการแสดงควงไฟยามค่ำคืน ได้ใช้เวลาด้วยกันเติมความหวานให้กันจนเต็มอิ่มแน่นอน
เวลาที่ดีที่สุดในการเที่ยวเกาะพีพี: ตั้งแต่เดือนพฤศจิกายน-เดือนเมษายน
ใกล้เปิดประเทศเต็มทีแล้ว ทุกคนคงคิดถึงบรรยากาศคึกคักและชีวิตที่ได้ท่องเที่ยวกันไม่น้อย แต่ต้องไม่ลืมว่าสถานการณ์โควิด-19 ยังไม่จากเราไปไหน เพราะฉะนั้นเที่ยวได้แต่ต้องระวังตัวเราเองรวมถึงคนที่เรารักด้วย เพื่อที่พวกคุณจะได้อยู่ด้วยกันนาน ๆ ได้ไปเที่ยวด้วยกันอีกหลายทริป และเติมความหวานให้กันไปอีกหลายปี
