สรุป รีวิว iPhone 12 Pro Max วิดีโอคมชัด จับภาพเหมือนมือโปร
สรุป รีวิว iPhone 12 Pro Max มือถือเรือธง ปรจำปี 2020 อัปเดตหน้าจอ OLED ใหญ่ขึ้นเต็มตา ได้สีสันคมชัดบาดใจ มาพร้อมดีไซน์ที่เบาบาง หรูหรา ระดับพรีเมียม และแบตเตอรี่ Lithium-ion ความจุ 3687 mAh ชาร์จเร็วได้ด้วยกำลังไฟสูงสุด 20W ทนน้ำได้ดี แถมรองรับ 5G
หลังจากเปิดตัวไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อปี 2020 ที่ผ่านมา สำหรับ iPhone 12 Pro Max ที่ได้ยกระดับขนาดหน้าจอ ให้มีความใหญ่บิ๊กเบิ้ม ยิ่งขึ้นกว่าเก่า ด้วยความกว้าง 6.7 นิ้ว นับว่าเป็นมือถือของ ไอโฟน รุ่นแรก ที่มีหน้าจอใหญ่ที่สุด
เพื่อรองรับการใช้งาน ด้านความบันเทิงต่าง ๆ ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็น เล่นเกม ดูหนัง เปิดกล้อง หรือใช้งานทั่วไป พร้อมด้วยการดีไซน์ กรอบตัวเครื่องด้านข้างแบบแบน และจอแสดงผล ก็ถูกปรับมาเป็นจอแบน ด้วยเช่นกัน ทำให้ตัวเครื่องมีความเรียบเนียน ไม่ว่าจะมองจากมุมไหน สำหรับ ไอโฟน รุ่นนี้จะมีจุดเด่น และข้อสังเกตตรงไหนบ้าง ตามมาดู สรุป รีวิว ในนี้กัน
สรุป รีวิว iPhone 12 Pro Max
ดีไซน์สวยหรู สัมผัสเรียบเนียน
iPhone 12 Pro Max ได้ออกแบบจอแสดงผลแบบใหม่ ด้วยการดีไซน์ขอบแบน ให้พื้นผิวหน้าจอ มีความเรียบเนียน สัมผัสลื่นไหล ไม่มีสะดุด ซึ่งตัวกรอบของเครื่องจะใช้วัสดุ สแตนเลสสตีล ซึ่งเป็นวัสดุเกรดเดียว กับที่ใช้ในการทำเครื่องมือ ศัลยกรรม นั่นเอง ทำให้พื้นผิวมีความ มันเงา วาววับ และสวยงามมาก เมื่อต้องแสงไฟ เรียกว่ายังคงสร้างมาตราฐาน การออกแบบที่พรีเมียม ตามสไตล์ไอโฟน ได้อย่างดีเยี่ยมเหมือนเดิม
เสริมความแข็งแกร่ง ของกระจกหน้าด้วย Ceramic Shield อันเป็นผลึกเซรามิก ระดับนาโน ที่ต้องผ่านกระบวนการผลิต ที่มีความซับซ้อนมาก ซึ่งจะมีความทนทาน กว่ากระจกของ สมาร์ทโฟน รุ่นอื่น ๆ ทำให้สามารถแสดงผลจอภาพ ได้อย่างสวยงาม คงทน และไร้ที่ติ
อีกทั้ง ด้วยการออกแบบจาก วัสดุเซรามิก ยังช่วยให้ไอโฟน สามารถทนต่อการตกกระเเทก ได้ดีขึ้นถึง 4 เท่า นับว่าเป็นการพัฒนา ที่จะช่วยลบภาพจำของมือถือไอโฟนว่า จอพังแตกง่าย อย่างในอดีตที่ผ่านมา
จอกว้าง ขอบบาง ให้ภาพคมชัด
จอใหญ่ แต่ขอบหน้า มันรู้สึกกวนใจเหลือเกิน สำหรับรุ่นนี้ มาพร้อมกับจอภาพกว้าง ขนาด 6.7 นิ้ว Super Retina XDR เมื่อเทียบกับตัว 11 Pro Max ที่มีขนาด 6.5 นิ้ว ก็จะพบว่า มีขนาดที่แตกต่างกันอย่างเห็นได้ชัด เรียกว่าใหญ่เน้น ๆ สะใจกันทีเดียว
แถมด้วยคุณสมบัติขของเทคโนโลยี หน้าจอแบบ OLED แสดงผลได้ในระดับ HDR ความละเอียด 2778 x 1284, ให้ค่าความสว่างสูงสุดอยู่ที่ 1,200 nits (สำหรับรูปภาพ และภาพยนตร์แบบ HDR) ทำให้สามารถเปิดดูหน้าจอ ในที่กลางแจ้ง ได้เป็นอย่างดี, อัตราส่วนคอนทราสต์ 2,000,000 : 1 ให้ภาพมีสีดำเข้ม และสีขาวที่สว่างสุด ๆ ช่วยให้ภาพมีความ สดใส และคมชัด มากขึ้น
รวดเร็ว แม่นยำ ด้วยชิป A14 Bionic
A14 Bionic คือชิปเซ็ตที เร็ว แรง ด้วยขนาดเพียง 5 นาโนเมตร ตัวแรกในอุตสาหกรรม ที่มีส่วนประกอบภายในต่าง ๆ เล็กจิ๋วในระดับเท่า อะตอม รวมถึงการเพิ่มความเร็วให้ มากขึ้น 40% ด้วยทรานซิสเตอร์ เพื่อยืดอายุการใช้งานของแบตเตอรี่ ให้สามารถใช้ได้นานยิ่งขึ้นกว่าเดิม
และเมื่อทำงานร่วมกันกับ หน่วยประมวลผลภาพใหม่ ISP : Image Sensor Processor ช่วยยกระดับการถ่ายภาพด้วยโหมด Smart HDR 3 และ Deep Fusion ให้ทำงานได้อย่างเต็มที่ และด้วยความไฮเอนท์ของชิป จึงสามารถเล่นเกมได้อย่าง ลื่นไหล ได้แบบสบาย ๆ สูสีกับชิปอย่าง Snapdragon 888
ชาร์จไว ติดจรวจ
ด้วยเทคโนโลยีการชาร์จเร็วผ่านสายด้วย กระแสไฟ 20W (สามารถชาร์จได้ 50% ในเวลาเพียง 30 นาที) และยังรองรับการชาร์จ แบบไร้สาย อย่าง MagSafe ที่สามารถด้วยกำลังไฟสูงสุด 15W อีกด้วย ซึ่งจะเป็นการใช้ระบบแม่เหล็ก สำหรับการดูดติด มือถือ ให้เข้ากับแท่นชาร์จ ได้อย่างดีเยี่ยม ไม่ต้องกลัวว่าจะหลุดออกง่าย ๆ
สำหรับระบบการชาร์จ แบบไร้สาย จะมีอุปกรณ์เสริมหลายอย่าง ดั้งนี้ แท่นชาร์จ MagSafe แบบเดี่ยว, แท่นชาร์จ MagSafe แบบคู่, เคสที่รองรับ MagSafe, เคสใส่บัตรที่รองรับ MagSafe และอุปกรณ์เสริมจากผู้ผลิตแบบ 3rd Party ที่รองรับ MagSafe ได้หลายตัว อีกทั้งยังสามารถใช้ประโยชน์จาก Wireless Charger ที่ไม่ใช่ตัว MagSafe มาประยุกต์ใช้กับ iPone 12 Series ได้เหมือนกัน แต่จะให้กำลังไฟสูงสุดเพียง 7.5 W เท่านั้น
แรมใหญ่ ความจุเพิ่ม
เริ่มต้นหน่วยความจำ ROM ด้วยขนาด 128 GB เพียงพอสำหรับการเก็บไฟล์ภาพ และการทำงานทั่วไป และยังมีหน่วยความจำ RAM เพิ่มขนาดเป็น 6 GB (จากเดิม 4 GB) ช่วยให้การใช้งานโดยรวม รวดเร็ว ลื่นไหล กว่าเดิม
รีวิว ฟังก์ชัน เอนเตอร์เทนเมนท์
ให้การถ่ายภาพเป็นเรื่องง่าย
ด้วยฟีเจอร์ของ กล้อง ที่มีมาให้ในระดับมือโปร ทำให้สามารถถ่ายภาพนิ่ง แม้อยู่ในสภาวะแสงน้อย และเพิ่มเติมด้วยระบบ LiDAR ที่ช่วยให้โฟกัสเร็วขึ้น สูงสุด 6 เท่า สำหรับการถ่ายภาพบุคคล ในตอนกลางคืน ให้มีความสวยงาม ถ่ายทอดรายละเอียดออกมา ได้เหมือนกับการใช้กล้องถ่ายภาพระดับ DSLR
ด้วยการปรับเซ็นเซอร์ ให้ใหญ่ขึ้นถึง 47% พร้อมรู้รับแสงจากกล้องไวด์ ขาด f/1.6 ยกระดับความนิ่งกันภาพเบลอยิ่งขึ้น กับระบบ OIS ปรับใหม่ ปรับแก้ตำแหน่งได้มากถึง 5,000 ครั้ง ต่อวินาที ซึ่งมากกว่าของ 11 Pro ถึง 5 เท่า เลยทีเดียว เรียกว่าให้ภาพชัดตั้งแต่ ตรงกลา จรดขอบกันเลยทีเดียว
ความลับของโหมดกล้องคุณภาพเหล่านี้ มาจากการทำงานของ AI สุดล้ำ ในโหมด HDR อัจฉริยะ 3 ที่จะปรับไฮไลท์ แสง และเงา ให้ดีขึ้นโดยอัตโนมัติ ไม่ว่าจะเป็นการถ่ายในสภาวะแสงน้อย หรือแดดจัด ๆ ตอนเที่ยงตรง ก็ยังสามารถเก็บ รายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ โดยในตัวของ 12 Pro Max จะประกอบด้วย กล้อง 4 ระยะ ได้แก่
- กล้องหลัก Wide
รูรับแสงขนาด ƒ/1.6
Focus Pixels 100% - กล้อง Ultra Wide
ทางยาวโฟกัส 13 มม.
มุมมองภาพ 120°
รูรับแสงขนาด ƒ/2.4 - กล้อง Telephoto
รูรับแสงขนาด ƒ/2.2
Focus Pixels - กล้อง TrueDepth ที่ด้านหน้า
สามารถถ่ายเซลฟี่ในโหมดกลางคืนได้
การบันทึกวิดีโอแบบ Dolby Vision
ถ่ายวิดีโอได้สมจริงยิ่งขึ้น ด้วยการบันทึกแบบ HDR 10 บิต ที่ให้สีสันมากถึง 700 ล้านสี ISP ใหม่ ลดนอยซ์จากการถ่ายในที่แสงน้อย ได้ดียิ่งขึ้น พร้อมกับการบันทึกในรูปแบบ Dolby Vision ช่วยให้เราสามารถ รังสรรค์ วิดีโอได้อย่างมืออาชีพ ในระดับสตูดิโอฮอลลีวูด และส่วนสำคัญคือ
นอกจากจะบันทึกวิดีโอในความชัดระดับ Dolby Vision ยังสามารถตัดต่อวิดีโอ Dolby Vision ทั้งหมดได้บน iPhone ทันทีจากในแอปรูปภาพ, iMovie หรือการตัดต่อบน Mac ด้วย Final Cut Pro เรียกว่าเริ่มต้นโปรเซส ได้ตั้งแต่ต้นจนจบ พร้อมแชร์ขึ้นทีวีผ่าน AirPlay ด้วยการสัมผัสเพียงครั้งเดียว แค่มีเครื่องนี้ ก็สามารถจบงานวิดีโอได้อย่างสบาย ๆ ไม่ต้องง้อคอมกันเลยจ้า
ช่องทางสั่งซื้อ iPhone 12 Pro Max ออนไลน์
สำหรับ iPhone 12 Pro Max ได้วางจำหน่ายแล้วในราคาเครื่องเปล่า เริ่มต้นที่ 39,900 บาท โดยสามารถสั่งผ่าน
- รีวิว สเปค Vivo Y20s [G] รีวิว แบตถึก ชาร์จไว สะใจเวอร์ ช่องทางซื้อออนไลน์
- เปิดตัว สเปค Infinix Note 10 Pro เกมมิ่งโฟน ราคาสุดคุ้ม ถูกใจเกมเมอร์
- รีวิว สรุปสเปค POCO X3 Pro กล้องหลักสีตัว คุ้มเกินราคา
อ้างอิงจาก : ไอโฟนประเทศไทย gsmrena thaimobilecenter.com