WHO เผย โควิดเดลต้า ระบาดแล้ว 142 ประเทศทั่วโลก
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้ออกมาเปิดเผยว่าในขณะนี้ โควิดเดลต้า ระบาดแล้วกว่า 142 ทั่วโลก เชื่อแพร่เชื้อง่ายกว่าโควิดทั่วไป
องค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้รายงานผลวิจัยเกี่ยวกับโควิดเดลต้าหรือโควิดสายพันธุ์อินเดีย ที่ได้มาจากผลการตรวจเชื้อโควิด-19 ด้วยวิธีตรวจลำดับพันธุกรรม PCR ในผู้ติดเชื้อโควิดที่ถูกกักตัว พบว่า ปริมาณของไวรัสที่ตรวจพบในผู้ที่ติดเชื้อ “เดลต้า” เป็นครั้งแรกนั้น มีจำนวนเชื้อมากกว่า 1,000 เท่า เมื่อเทียบกับปริมาณไวรัสของโควิดสายพันธุ์ดั้งเดิม ที่ตรวจพบในผู้ป่วยโควิดที่ติดเชื้อสายพันธุ์ดั้งเดิม
โดยจากการตรวจพบในครั้งนี้ทำให้ทาง WHO ตั้งข้อสันนิษฐานว่า โควิดเดลต้ามีความสามารถในการแบ่งตัวที่รวดเร็วมากกว่าสายพันธุ์ดั้งเดิมเป็นอย่างมาก ดังนั้น จึงเพิ่มความเสี่ยงในการติดเชื้อเดลต้าซ้ำได้ ตั้งแต่ช่างแรกๆที่เดลต้าเริ่มระบาด
นอกจากนี้ ในรายงานยังระบุด้วยว่า เดลต้ายังระบาดเพิ่มขึ้นเป็น 142 ประเทศและภูมิภาคทั่วโลกแล้ว โดยเพิ่มขึ้นรวดเดียว 7 ประเทศภายในสัปดาห์เดียวในช่วงวันที่ 4- 10 สิงหาคมที่ผ่านมา
ขณะที่ อัลฟา โควิดกลายพันธุ์จากอังกฤษ ระบาดไป 185 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 3 ประเทศใน 1 สัปดาห์ ส่วนเบตา กลายพันธุ์จากแอฟริกาใต้ ระบาดไป 136 ประเทศทั่วโลก เพิ่มขึ้น 4 ประเทศจากสัปดาห์ก่อนหน้า และแกมมา กลายพันธุ์จากบราซิล ระบาดไป 81 ประเทศทั่วโลก
ทั้ง 4 สายพันธุ์เป็นโควิดกลายพันธุ์อันตราย ที่ WHO ได้ยกระดับให้เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล ส่วนกลายพันธุ์แลมบ์ดา และโคลอมเบีย ยังไม่ได้ถูกยกระดับให้เป็นสายพันธุ์น่ากังวล
WHO ยังสรุปภาพรวมสถานการณ์ล่าสุดการระบาดของโควิดทั่วโลกด้วยว่า ยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั่วโลก ทะลุหลัก 200 ล้านคนไปแล้วเมื่อวันที่ 5 สิงหาคมที่ผ่านมา ใช้เวลาเพียงแค่ 6 เดือนในการเพิ่มขึ้น 2 เท่าตัวจาก 100 ล้านคนแรก
ส่วนยอดผู้เสียชีวิตและยอดรวมผู้ติดเชื้อโควิดสะสมทั่วโลก ก็ยังเพิ่มไม่หยุดในรอบสัปดาห์ที่สิ้นสุดวันที่ 8 สิงหาคม โดยผู้เสียชีวิตรายใหม่เพิ่มขึ้นกว่า 65,000 คนทั่วโลกในรอบสัปดาห์ดังกล่าว
และผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นมากกว่า 4.2 ล้านคนทั่วโลกในระยะเวลาเดียวกัน
- CDC เผยเอกสาร ‘โควิดเดลต้า’ แพร่เชื้อได้ง่ายเท่า ‘อีสุกอีใส’
- CDC ยกระดับ ไทย เป็นประเทศเสี่ยงสูง
- ‘ดร.อนันต์’ ห่วง ภูมิคุ้มกันซิโนแวค ไม่พอป้องกัน โควิดเดลต้า