ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 2)

อีกแค่ไม่กี่อึดใจ แฟนกีฬาชาวไทยและทั่วโลก ก็จะได้รับชม มหกรรมกีฬาที่ยิ่งใหญ่ที่สุด อย่าง โอลิมปิก 2020 ที่กรุงโตเกียว ประเทศญี่ปุ่น ซึ่ง The Thaiger ได้พาเพื่อนๆไป รู้จัก นักกีฬาไทย ที่เข้าร่วมการแข่งขันในครั้งนี้ 10 อันดับแรกกันไปแล้วนั้น วันนี้ เราจะขอพาไปรู้จักกับ นักกีฬาไทย ในอันดับที่ 11-20 กันต่อเลยครับ
คลิกอ่าน : ทำความรู้จัก นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (Part 1)
คลิกอ่าน : ช่องทางรับชม ถ่ายทอดสด โอลิมปิก โตเกียว 2020
รายชื่อ นักกีฬาไทย ใน โอลิมปิก เกมส์ 2020 (อันดับที่ 11-20)
ขอบคุณข้อมูลจาก : https://stadiumth.com/
11.พาณิภัค วงศ์พัฒนกิจ (เทนนิส) เทควันโด รุ่น 49 กก. หญิง
จอมเตะจากสุราษฎร์ธานีผู้อ่อนโยนแต่ไม่อ่อนแอ ผลการตัดสินที่ค้านสายตาในรอบชิงฯ ซีเกมส์ ปี 2013 ส่งให้เธอแพ้เจ้าภาพทั้งที่เป็นฝ่ายไล่เตะอยู่ฝ่ายเดียว หรือการพลิกแพ้ให้คู่แข่งช่วง 4 วินาทีสุดท้ายในโอลิมปิก 2016 ฯลฯ ความผิดหวังและรอยน้ำตาทุก ๆ ครั้ง ได้หล่อหลอมให้เธอแข็งแกร่งขึ้น กวาด 18 แชมป์จาก 21 รายการที่ลงแข่ง ก้าวสู่ตำแหน่งแชมป์โลก 2 สมัย และนับตั้งแต่ปี 2019 เธอยังไม่เคยปราชัยให้กับใครอีกเลย พร้อมครองมือ 1 ของโลกและเป็นความหวังเหรียญทองโอลิมปิก 2020
12.ใบสน มณีก้อน มวยสากล (ครีม) มวยสากล รุ่น 69 กก. หญิง
สาวน้อยจากถิ่นภูธร ผู้ที่กล้าเดินออกจากกรอบเดิมจากยอดมวยไทยก้าวสู่สังเวียนผ้าใบสากล เส้นทางสู่นักชกมวยสากลทีมชาติของเธอถือเป็นความท้าทายใหม่ในชีวิตแต่ด้วยความมุ่งมั่นผนวกกับความฝันที่จะติดทีมชาติทำให้เธอเต็มที่กับการฝึกซ้อม จนเธอสามารถกวาดเหรียญรางวัลมาคล้องคอพร้อมการันตีความเป็นยอดนักชกด้วย MVP ในการศึกแชมป์เยาวชนเอเชียปี 2019 พร้อมกับกรุยทางสู่โอลิมปิก 2020 ได้เป็นครั้งแรกในชีวิต
13.ธิติสรรค์ ปั้นโหมด (เหลิม) มวยสากล รุ่น 52 กก. ชาย
นักชกร่างเล็กจากเมืองชาละวัน ลูกเจ้าของค่ายมวยที่ถูกเพื่อนรังแกอยู่เป็นประจำ จึงฝึกวิชามวยไทยไว้เพื่อปกป้องกันตัว แต่ความแข็งแรงและทักษะที่โดดเด่นเกินวัย กลายเป็นบันไดสู่เวทีที่สูงขึ้น เหลิมชกมวยไทยอยู่ไม่กี่ปีก็หันไปต่อยมวยสากลแทน ก่อนจะสร้างชื่อด้วยการเป็นแชมป์เยาวชนโลก 2018 ก่อนจะมาโค่นแชมป์โอลิมปิก 2016 ในอีก 2 ปีต่อมาพร้อมกับคว้าตั๋วโอลิมปิก 2020 มาครองด้วยวัยเพียง 19 ปีเท่านั้น
14.สุดาพร สีสอนดี (แต้ว) มวยสากล รุ่น 60 กก. หญิง
นักชกสาวจากอุดรธานี เคยเกือบแขวนนวมเลิกชกมวยสากล ในช่วงต้นชีวิตบนสังเวียนผ้าใบ เธอตกเป็นตัวสำรองของรุ่นพี่อยู่หลายปี ได้แต่ซ้อมอย่างเดียวไม่มีรายได้ จนกระทั่งซีเกมส์ 2011 ความพยายามของเธอเริ่มเห็นผล มีชื่อติดทีมก่อนจะคว้าเหรียญทองกลับมาได้ หลังจากนั้นเธอค่อยๆยกระดับผลงานของตัวเอง โดยเฉพาะในปี 2018 ถือเป็นเป็นปีทองของเธอได้รองแชมป์โลกและเอเชียนเกมส์ ส่วนโอลิมปิกเกมส์หนนี้เป็นครั้งแรก ซึ่งเธอตั้งเป้าว่าจะเป็นนักชกสาวไทยคนแรกที่คว้าเหรียญโอลิมปิก
15.ฉัตร์ชัยเดชา บุตรดี (สด) มวยสากล รุ่น 57 กก. ชาย
ยอดนักชกจากสระแก้ว ก้าวเข้าสู่แคมป์ทีมชาติครั้งแรกในซีเกมส์ 2009 นับตั้งแต่นั้นมาเขาได้สถาปนาตัวเองเป็นขุนพลหลักขอทีมชาติตลอดมา คว้าแชมป์เอเชียปี 2015 เหรียญทองแดงชิงแชมป์โลกปี 2013 กวาดอีก 4 เหรียญทองจากซีเกมส์ 6 สมัย ผ่านโอลิมปิกมาแล้ว 2 ครั้ง ในช่วงหลัง ฉัตร์ชัยเดชา เหมือนนักชกอับโชคหลายครั้งที่เขาเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ทั้งๆที่น่าจะเป็นฝ่ายกำชัย ปัจจุบันวัย 35 ปีเขาพร้อมทุ่มหมดหน้าตักเพื่อหวังปิดฉากเส้นทางอาชีพกับทีมชาติไทยด้วยเหรียญโอลิมปิก
16.คีริน ตันติเวทย์ กรีฑา ประเภทวิ่ง 10,000 ม. ชาย
นักวิ่งลูกครึ่งไทย-สหรัฐ รับใช้ทีมชาติไทยมาตั้งแต่ปี 2017 การวิ่งเข้าเส้นชัยด้วยรองเท้าข้างเดียว และการคว้า 2 เหรียญทองซีเกมส์ 2019 แบบต้องรีบกลับไปสอบ เป็นภาพความทุ่มเทที่ทำให้ก้าวเข้ามานั่งในใจคนไทย หลังเรียนจบ คีริน ที่หลงใหลการวิ่งเป็นชีวิตจิตใจ ได้เข้าร่วมทีมนักวิ่งอาชีพระดับแนวหน้าของสหรัฐ และสร้างรอยยิ้มให้คนไทยอีกครั้งด้วยการทำเวลาผ่านเกณฑ์ควอลิฟายและกลายเป็นนักวิ่งไทยคนแรกในโอลิมปิก 2020
17.สุธาสินี เสวตรบุตร (หญิง) เทเบิลเทนนิส ประเภทหญิงเดี่ยว
นักปิงปองสาววัย 27 ปีที่กล้าเดิมพันเส้นทางชีวิต หลังจากที่เธอก้าวออกจากโรงเรียนด้วยวัย 12 ปี เพื่อเดินหน้าอย่างแน่วแน่สู่วงการลูกเด้ง โดยที่เธอมีความใฝ่ฝันไว้ว่าจะต้องก้าวเข้าสู่เส้นทางนักกีฬาอาชีพให้จงได้ ด้วยการสนับสนุนจากครอบครัวทำให้เธอก้าวขึ้นมาสู่การเป็นนักกีฬาทีมชาติ ด้วยความมุ่งมั่นและมีความฝันที่ชัดเจนทำให้เธอสามารถลบลืมความผิดพลาดและพร้อมจะกลับมาลุยต่อในโอลิมปิกที่โตเกียว
18.อรวรรณ พาระนัง (ทิพย์) เทเบิลเทนนิส ประเภทหญิงเดี่ยว
นักตบลูกเด้งจากอุบลราชธานี เกิดในครอบครัวยากจน ยังดีที่ชะตาขีดไว้ให้มาพานพบครูใจดีอุปถัมภ์ซื้อไม้ปิงปองอันแรกในชีวิต แม้จะมีต้นทุนชีวิตน้อยกว่าใคร แต่เพราะว่ามีความฝัน มีความตั้งใจที่อยากจะใช้กีฬาปิงปองสร้างรายได้ให้กับครอบครัว เธอจึงหมั่นฝึกฝนตัวเองอย่างหนัก ถึงจะเลือกเกิดไม่ได้ แต่เลือกที่จะเป็นได้ ผลของความพยายามในวันนั้น เปลี่ยนให้เธอเป็นนักกีฬาทีมชาติและกลายเป็นนักกีฬาปิงปองไทยคนที่ 4 ในประวัติศาสตร์โอลิมปิก
19.ณัฐพงษ์ โพธิ์นพรัตน์ (โอ๊ต) นักกีฬาวินด์เซิร์ฟ ประเภท RS:X ชาย
จากเด็กชายร่างเล็กที่เห็นภาพการฝึกซ้อมของนักกีฬาวินด์เซิร์ฟทีมชาติไทยจนชินตา จนเกิดแรงบันดาลใจว่าสักวันหนึ่งเขาจะต้องแล่นเรือใบเพื่อไปแข่งขันในระดับนานาชาติให้ได้ ด้วยความมุ่งมั่นที่มีฝันไกลถึงโอลิมปิกทำให้เขาสามารถก้าวขึ้นมาเป็นนักกีฬาทีมชาติสมความตั้งใจและแล่นเรือใบสู่โอลิมปิกได้สำเร็จ
20.อรสา เที่ยงกระโทก (อ้อย) นักกีฬาเรือแคนู สปริ้นท์ ประเภทเรือแคนู 1 คนหญิง ระยะ 200
นักกีฬาสาวจากเมืองย่าโม เป็นคนเดียวในครอบครัวเที่ยงกระโทก ที่เล่นกีฬา พื้นฐานจากกีฬาเรือยาวทำให้เธอพัฒนาได้ไวกับเรือแคนู ใช้เวลาฝึกซ้อมเพียงแค่ 8 เดือนก็ก้าวสู่ทีมชาติทีมชาติไทยชุดซีเกมส์ 2015 ตลอดเส้นทางเธอต้องพบกับคำดูถูกมากมาย แต่วันนี้เธอตอบกลับเสียงวิจารณ์เหล่านั้นด้วยการเป็นนักกีฬาเรือแคนูไทยคนแรกในประวัติศาสตร์โอลิมปิก