Samsung S21 Series 5G : เบื้องหลังกว่าจะได้ดีไซน์สุดล้ำ ตอบโจทย์ผู้ใช้งาน
Samsung S21 Series 5G : เผยแนวคิดเบื้องหลังการออกแบบ เรือธงรุ่นล่าสุดของซัมซุง Galaxy S21 ทั้ง 3 รุ่น ตอบโจทย์ผู้ใช้งานอย่างรอบด้าน
นอกจากนวัตกรรมอันเหนือชั้นแล้ว อีกหนึ่งสิ่งที่สร้างความตื่นตาตื่นใจในทุกๆ การกลับมาของ Galaxy S Series คงจะเป็นอะไรไปไม่ได้นอกจากดีไซน์ โดยเฉพาะในปีนี้ที่ Galaxy S Series 5G เปิดตัวมาในดีไซน์ที่แปลกตาและแตกต่างไปจากเดิมอย่างเห็นได้ชัด ไม่ว่าจะเป็นพาเลทสีใหม่ ผิวด้านแบบ Haze Finish และดีไซน์กล้องหลังสุดไอคอนิกแบบ Contour Cut ที่ต่อยอดมาจากสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นก่อนอย่าง Galaxy S20 และ Galaxy Note20 ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ซัมซุงตั้งใจพัฒนาเพื่อมอบประสบการณ์ที่แปลกใหม่และตอบโจทย์ผู้ใช้ในทุกๆ ด้านอย่างแท้จริง
ดีไซน์โฉมใหม่กับเอกลักษณ์เฉพาะตัว
คอนเซ็ปต์หลักในการออกแบบสมาร์ทโฟนแฟลกชิปรุ่นนี้ คือดีไซน์ที่โดดเด่นเหนือความคาดหมาย ทำให้ได้มาซึ่งรูปทรงเหลี่ยมโฉมใหม่ ที่ต่อยอดอัตลักษณ์ของตระกูล Galaxy S อย่างชัดเจนในรูปแบบที่เรียบง่ายและทันสมัยยิ่งขึ้น โดยสมาร์ทโฟนรุ่นนี้มาพร้อมตัวเลือกขนาดหน้าจอที่หลากหลายตอบรับไลฟ์สไตล์ที่แตกต่างกันของผู้ใช้ โดยอีกหนึ่งความโดดเด่นของซีรี่ส์นี้คงหนีไม่พ้นดีไซน์กล้องหลังสุดไอคอนิคแบบ Contour Cut ที่เชื่อมต่อบริเวณกล้องเป็นชิ้นส่วนเดียวกันกับตัวเครื่องได้อย่างแนบเนียน มอบสัมผัสที่ต่อเนื่องและพรีเมียม ซึ่งนอกจากจะสร้างความแปลกใหม่ให้กับวงการแล้ว ดีไซน์ดังกล่าวยังออกแบบให้ตัวเลนส์อยู่ลึกลงไปจากขอบดีไซน์เล็กน้อย เพื่อช่วยปกป้องตัวเลนส์จากรอยขีดข่วนเพื่อให้อยู่ในสภาพสมบูรณ์มากที่สุด นับเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จที่ได้สร้างบรรทัดฐานใหม่ในการออกแบบสมาร์ทโฟน นอกจากนี้ ด้วยดีไซน์ขอบที่โค้งมนพอดีกับฝ่ามือ ทำให้สามารถกดปุ่มเปิด-ปิดและปรับระดับเสียงได้อย่างคล่องตัวด้วยมือเดียว
‘Less is more’ เฉดสีเรียบหรูเหนือกาลเวลา สะท้อนแนวคิดด้านการดีไซน์เพื่อความยั่งยืน
กว่าจะมาเป็นเฉดสีและผิวสัมผัสที่ใช่ของ Galaxy S21 Series 5G นั้น ซัมซุงต้องผ่านกระบวนการคิดค้นและทดลองนับครั้งไม่ถ้วน ทั้งในเรื่องของวัสดุ ระดับความเข้มข้นของสี และปัจจัยอื่นๆ อีกมากมาย เพื่อให้ได้พาเลทที่ลงตัวและ คงเอกลักษณ์ของพิกเมนต์นั้นๆ ไว้ให้ได้มากที่สุดไม่ว่าจะอยู่ในสภาพแสงแบบใดก็ตาม
โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับสี “Phantom Black” สุดคลาสสิกของ Galaxy S21 Ultra 5G ที่ถูกพูดถึงเป็นอย่างมากตั้งแต่เผยโฉมออกมา ซึ่งเบื้องหลังความงดงามนั้น ทีมดีไซน์ของซัมซุงต้องเลือกสรรเฉดสีดำที่ใช่เพียงหนึ่งเดียว บนวัสดุแผ่นฟิล์มที่ต่างไปจากเดิมเพื่อเพิ่มคุณสมบัติในการซึมซับแสงทุกรูปแบบ พร้อมเทคนิคการเคลือบด้วยกระจก Haze Glass ที่คิดค้นขึ้นใหม่ จนกลายเป็นเฉดสีดำที่มีสไตล์ ลึกลับและน่าค้นหา บนสัมผัสแบบแมตต์สุดเรียบหรู
นอกจากนี้ นายจุนโฮ ยาง รองประธานอาวุโส หัวหน้าทีมออกแบบ ธุรกิจโทรคมนาคมและไอที บริษัท ซัมซุง อิเลคโทรนิคส์ จำกัด ผู้มีประสบการณ์กว่า 20 ปี และเป็นหัวเรือใหญ่ในการออกแบบสมาร์ทโฟนแฟลกชิปของซัมซุงมาแล้วหลายรุ่น ได้เผยอีกว่า แนวคิดเบื้องหลังการออกแบบในครั้งนี้คือการคำนึงถึงผู้บริโภคเป็นหลักในทุกด้านของการใช้งาน โดยเฉพาะเรื่องการดีไซน์เพื่อความยั่งยืน เพราะจากผลสำรวจพบว่า ผู้บริโภคเริ่มหันมาเปลี่ยนสมาร์ทโฟนทุก 3-4 ปี จากเดิมที่ประมาณ 2 ปี ซัมซุงจึงตั้งใจออกแบบ Galaxy S21 Series 5G ให้มีความเรียบหรู คลาสสิกเหนือกาลเวลา เพื่อให้ดูทันสมัยตลอดระยะการใช้งานที่นานขึ้น
นอกจากนี้ ยังถือเป็นครั้งแรกของตระกูล Galaxy S ที่ซัมซุงเปิดบริการ Colorways Customization ให้ลูกค้าสามารถเลือกเฉดสีของ Galaxy S21 Ultra 5G และ Galaxy S21+ 5G ในแบบของตัวเองได้ ไม่ว่าจะเป็น สี Phantom Red และ Phantom Gold สำหรับ Galaxy S21+ 5G หรือ Phantom Brown, Phantom Navy และ Phantom Titanium สำหรับ Galaxy S21 Ultra 5G เพื่อตอบรับไลฟ์สไตล์และความชอบที่หลากหลายของกลุ่มผู้บริโภคที่ใหญ่ขึ้น
ความมุ่งมั่นในการพัฒนาดีไวซ์เพื่อตอบรับความต้องการของผู้บริโภคอย่างต่อเนื่อง ทั้งในด้านความลงตัวของดีไซน์ที่เหนือระดับและเป็นเอกลักษณ์ แต่ยังคงคำนึงถึงประโยชน์ในการใช้งานจริงอย่างยั่งยืนโดยทีมดีไซน์ผู้มากด้วยประสบการณ์ ทำให้สุดยอดสมาร์ทโฟนแฟลกชิป Galaxy S21 Series 5G เครื่องนี้ สามารถบ่งบอกความเป็นตัวตนของผู้ใช้ได้อย่างชัดเจนยิ่งขึ้น ทันสมัยเหนือกาลเวลาตลอดการใช้งาน พร้อมยกระดับประสิทธิภาพการใช้งานไปอีกขั้นอย่างแท้จริง
สามารถดูรายละเอียดผลิตภัณฑ์เพิ่มเติมได้ที่ https://www.samsung.com/th/smartphones/galaxy-s21-5g/buy
อ่านข่าวอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง
- Samsung Galaxy จะได้รับการอัปเดต ความปลอดภัย เป็นเวลา 4 ปี
- รวมฟีเจอร์เด็ดกล้อง Samsung Galaxy S21 Series 5G สุดอัจฉริยะ ตอบโจทย์สายทำคอนเทนต์
- Samsung ปล่อยฟีเจอร์คล้าย AirDrop ใช้ได้ทั้ง Android และ Windows 10