ราคา เงินแท่ง พุ่งสูงขึ้น! เหตุต่อยอดจาก GameStop

ไทยเกอร์นิวส์เผยแพร่: 01 ก.พ. 2564 15:08 น.| อัปเดต: 01 ก.พ. 2564 15:09 น.

445 Less than a minute

หลังจากที่ได้เปิดปรากฏการณ์ทางเศรษฐกิจไปเมื่ออาทิตย์ก่อนอย่างเหตุการณ์การแห่ซื้อขายของหลักทรัพย์ GameStop ซึ่งก็ได้ส่งผลกระทบไปอย่างต่อเนื่อง จนมาถึงในส่วนของราคา เงินแท่ง ที่ได้มีการเพิ่มสูงขึ้นอย่างน่าประหลาดใจ

ภายในวันจันทร์นี้ (1 ก.พ. 2564) ราคาของ เงินแท่ง ได้มีการเพิ่มขึ้นสูงเป็นอย่างมากในรอบ 5 เดือน เช่นเดียวกับราคาหุ้นของบริษัททำเหมืองแร่ และเว็บไซต์ขายเหรียญที่ได้มีการเพิ่มขึ้นเช่นเดียวกัน หลังจากที่การแห่มาลงทุนในตลาดนี้ของนักลงทุนรายย่อยทั้งหลาย ที่มีเป้าหมายในตลาดเหล็กแท่งนี้ ต่อเนื่องจากปรากฏการณ์ GameStop

อย่างที่ได้กล่าวไปในข้างต้นว่า ภายหลังจากปรากฏการณ์การแห่ซื้อขายในหุ้น GameStop ของบรรดานักลงทุนบนเว็บบอร์ด Reddit ที่ซึ่งส่งผลต่อเนื่องเป็นลูกโซ่จนสามารถทำให้มูลค่าของหลักทรัพย์เพิ่มขึ้นมามากกว่า 1500% โดยมีสาเหตุเพื่อจัดการกับบริษัทลงทุนที่ใช้งานกลยุทธ์ Hedge Fund ในการเอาชนะการเดิมพันกับทางบริษัท

โดยภายหลังจากที่การดำเนินการดังกล่าวนี้ ก็ได้มีผู้ใช้งาน Reddit นำเสนอข้อมูลในแนวทางแบบเดียวกันที่ได้เกิดขึ้นในตลาดเงิน (Silver) ที่ซึ่งมีการชี้แจงว่าการเพิ่มขึ้นของราคาเงินในเชิงกายภาพ/วัตถุนั้นจะสามารถทำร้ายบรรดานักลงทุนรายใหญ่ที่มีการเดิมพันในการตกลงของราคาเช่นเดียวกับที่ได้มีในก่อนหน้านี้ ที่ก็ถือว่าเป็นคุกคามในตัวตลาดที่มขนาดใหญ่ และมีการเคลื่อนไหวมากกว่า

ซึ่งก็ทำให้ราคาของเงินนั้นกระโดดสูงขึ้นมา 7.4% ตีเป็นมูลค่าอยู่ที่ 28.99 ดอลลาร์ หรือ 866.81 บาทต่อออนซ์ โดยก็ถือว่าเป็นการเพิ่มขึ้นมาถึง 15% จากเมื่อวันพุธทีผ่านมา และราคานั้นก็ได้เพิ่มขึ้นมาสูงที่สุดนับตั้งแต่เมื่อช่วงกลางเดือนสิงหาคมปีที่ผ่านมา

ทำให้บรรดาตลาดหุ้นบริษัทเหมืองเงินในประเทศออสเตรเลีย, จีน และผ่านช่องทาง Money Metals นั้น ได้มีการกำหนดการซื้อขายให้อยู่ภายในมูลค่าระหว่าง 1,000 ดอลลาร์ (29,900.30 บาท) ถึง 10,000 ดอลลาร์ (299,002.97 บาท) ถือได้ว่าเป็นผลกระทบห่วงโซ่ที่เริ่มตั้งแต่ในส่วนของไปจนถึงในการผลิตเงินแท่งที่ก็ได้มีการเร่งการผลิตขึ้นตามด้วยเช่นกัน

ทั้งนี้แล้วก็ยังไม่มีใครคาดการณ์ได้ว่ากระแสการแห่ลงทุนหักหน้านักลงทุนรายใหญ่นั้นจะจบลงตอนไหน บรรดานักวิเคราะห์นั้นต่างพูดกันได้แค่ว่า ปรากฏการณ์นี้จะต้องจบลงด้วยน้ำตาแน่ แต่เราก็ยังไม่เห็นว่าน้ำตาที่ว่าจะหลั่งตอนไหนกันแน่

แหล่งที่มาของข่าว : Reuter

สามารถติดตามข่าวการเงินเพิ่มเติมได้ที่นี่ : ข่าวการเงิน