พุทธิพงษ์ DES ยืนยัน ไม่ได้มีปัญหากับผู้พัฒนา หมอชนะ
DES ออกมาโต้ปมขัดแย้งกับผู้พัฒนาแอปฯ หมอชนะ ยืนยันทำงานด้วยกันอย่างดี เผยต้องส่งให้รัฐฯ เนื่องจากระบบใหญ่ขึ้น
นาย พุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) พร้อมด้วย นางสาวอัจฉรินทร์ พัฒนพันธ์ชัย ปลัดกระทรวงดีอีเอส นายสุพจน์ เธียรวุฒิ ผู้อำนวยการสำนักงานพัฒนารัฐบาลดิจิทัล(สพร.) นพ.ปรีชา เปรมปรี รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กระทรวงสาธารณสุข นายอนุชิต อนุชิตานุกูล และนายสมโภช อาหุนัย ทีมผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน “หมอชนะ” ร่วมแถลงข่าว ประเด็นที่สังคมมีคำถาม เรื่องแอปพลิเคชัน “หมอชนะ”
นายพุทธิพงษ์ กล่าวว่า แอปพลิเคชัน หมอชนะ ในแง่ของการทำงานกับทีมพัฒนาอาสายังคงทำงานด้วยกันอย่างดี และยังคงเป็นพี่เลี้ยงให้คำปรึกษาอยู่ แต่เมื่อมีการโปรโมตและมีการใช้งาน ระบบจึงใหญ่ขึ้น ต้องมีทีมทำงานประจำ และมีงบประมาณในการทำงานจึงเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีการโอนให้รัฐดูแล
ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการโอนย้าย และการจัดหางบประมาณ กำลังคน โดยให้ สพร.และ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ดูแลระบบหลังบ้าน
ดังนั้นการทำงานของแอปดังกล่าวยังใช้งานได้เป็นอย่างดี และต้องมีการใช้งานจำนวนมาก เพื่อให้ระบบสามารถวิเคราะห์ข้อมูลได้อย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อลดภาระในการติดตามโรคและแจ้งเตือนโดยกรมควบคุมโรค ไม่ต้องเสียเวลาในการดูไทม์ไลน์ผู้ติดโรคแต่ละคนซึ่งทำได้ยากกว่าการใช้ระบบดิจิทัลช่วย
“ยืนยันว่าไม่ได้มีปัญหากัน เพราะผมเข้าไปร่วมทำงานตั้งแต่แรก แต่เมื่อเปิดตัวและจะใช้งานตอนนั้น การระบาดของโรคน้อยลงแล้ว จึงเห็นว่าใช้การเช็คอิน ไทยชนะ ก็เพียงพอ แต่เมืองมีการระบาดรอบใหม่ จึงถึงเวลาเหมาะสมที่จะนำมาใช้ เพื่อง่ายต่อการติดตามและสอบสวนโรครวมถึงผู้สัมผัสด้วย”
ส่วนเรื่องการเปลี่ยนสีของคิวอาร์โค้ด ในระบบไม่สามารถเปลี่ยนสีเป็นสีแดงเองได้ เมื่อมีการเดินผ่านผู้ติดเชื้อ แต่จะมีการตรวจสอบจากรัฐก่อนว่ามีการสัมผัสเสี่ยงสูงกับผู้ติดหรือไม่ จากนั้นจะดำเนินการเปลี่ยนสีและแจ้งเตือนให้เข้าสู่ระบบการสอบสวนโรค ซึ่งนับว่าเป็นข้อมูลสำคัญของคนไข้ รัฐต้องดูแลให้อยู่ภายใต้เงื่อนไขของกฎหมายโดยเฉพาะเรื่องข้อมูลส่วนบุคคล
ด้าน นายอนุชิต กล่าวว่า ทีมอาสาสมัครหมอชนะ ได้พัฒนาแอปพลิเคชันมาระยะหนึ่ง และจำเป็นต้องส่งต่อให้รัฐบาลในการใช้งานและพัฒนาอย่างต่อเนื่อง โดยทีมอาสาสมัครผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน หมอชนะ ทำงานร่วมกับ รมว., ปลัดกระทรวงดีอีเอส และ สพร. รวมถึงกรมควบคุมโรค มาตั้งแต่ ก.พ. 2563 จนเมื่อถึงระดับการใช้งานที่ขยายมากขึ้นจึงส่งต่อให้ทางรัฐบาลดูแลและใช้งานอย่างเป็นทางการ และสิ่งสำคัญคือต้องมีกระบวนการการสื่อสารที่ชัดเจนและมาในทิศทางเดียวกัน ไม่ทำให้เกิดความสับสน พร้อมกันนี้ ขอให้คนไทยร่วมมือกันใช้แอปพลิเคชันหมอชนะนี้ ในการช่วยต่อสู้กับโควิดอย่างจริงจัง ให้เราชนะให้ได้
ขณะเดียวกัน รองอธิบดีกรมควบคุมโรค ยืนยัน ว่า ได้ทำงานร่วมกันกับคณะทำงานผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน กับทาง สพร. มาตั้งแต่ต้น ซึ่งเรื่องการเปลี่ยนสีสถานะของแต่ละบุคคล ต้องผ่านคนกลางที่เป็นเจ้าหน้าที่ของกรมควบคุมโรคแต่ละพื้นที่ ส่งข้อมูลไปยังกระทรวงดีอีเอส หากมีการเปลี่ยนสี และส่งต่อไปให้ผู้พัฒนาแอปพลิเคชัน อัปเดทข้อมูลสถานะสีให้ และจะเปลี่ยนสี ก็ต่อเมื่อโรงพยาบาลได้ยืนยันการติดเชื้อแล้วเท่านั้น