รู้จัก ‘ชุดไปรเวท’ ไม่ต้องใส่เครื่องแบบก็สุภาพแถมมีสไตล์ได้
ทำความรู้จัก ชุดไปรเวท เครื่องแบบการแต่งกายที่หลากหลายตามสไตล์ของแต่ละคน มีมาให้ครบทั้งแบบผู้ชายและผู้หญิง ท่ามกลางดราม่าอำนาจนิยมในชุดนักเรียน
เสรีภาพในการแต่งตัว ถือเป็นประเด็นสำคัญที่สังคมให้ความสนใจมากขึ้น ทำให้ ‘ชุดไปรเวท’ กลายมาเป็นข้อถกเถียงถึงความเหมาะสม จากกรณีการเรียกร้องให้ยกเลิกชุดนักเรียนและเครื่องแบบในรั้วโรงเรียน เพื่อคืนสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกายและทรงผมให้กับเยาวชน วันนี้ไทยเกอร์เลยจะพาไปดูกันว่า แท้จริงแล้วชุดไปรเวทคืออะไร เหมาะสมที่จะแต่งไปเข้าเรียนและทำกิจกรรมต่าง ๆ ได้จริงหรือไม่ อย่ารอช้า ไปอ่านพร้อมกันได้เลย
ชุดไปรเวท คืออะไร เหมาะสมให้ใส่ไปเรียนได้จริงหรือ ?
ชุดไปรเวท มีรากศัพท์มาจากภาษาอังกฤษอย่างคำว่า Private Dress ที่หมายถึงชุดส่วนตัว แต่พอเข้ามายังประเทศไทย ก็ได้พลิกแพลงและนำคำนี้มาใช้แทนความหมายของ ชุดลำลอง (Casual Dress) จนติดปากเรียกกันว่าชุดไปรเวท
สำหรับข้อจำกัดของชุดไปรเวท อาจนิยามได้ว่า หมายถึง ชุดที่ไม่เป็นทางการ แต่งแบบเรียบง่าย สบาย ๆ เหมือนที่ผู้คนทั่วไปใส่ในชีวิตประจำวัน หรือใส่ไปเที่ยว และทำกิจกรรมนอกบ้านในโอกาสต่าง ๆ นั่นเอง
ความเหมาะสมในการใส่ชุดไปรเวท
ปฏิเสธไม่ได้ว่าการสวมใส่ชุดไปรเวท ก็มีเรื่องของความเหมาะสมเข้ามาเกี่ยวข้องด้วย โดยผู้สวมใส่ต้องพึงคำนึงถึงสถานที่ กาลเทศะ ความเหมาะสม แต่ยังคงอยู่บนพื้นฐานของสิทธิเสรีภาพเหนือร่างกายตนเอง
สำหรับประเทศไทย ผู้คนนิยมใส่ชุดไปรเวทกันแบบสบาย ๆ คลายร้อน เช่น เสื้อยืด-กางเกงยีน-รองเท้าผ้าใบ หรือ ชุดเดรสแขนสั้น-รองเท้ารัดส้น เป็นต้น
ทว่าในบางสถานที่ก็ได้มีการกำหนดความเหมาะสมของเครื่องแต่งกายเอาไว้เช่นกัน อาทิ สถานที่ราชการไม่อนุญาตให้สวมใส่กางเกงขาสั้น เช่นเดียวกับวัดที่ไม่อนุญาตให้นุ่งสั้นหรือใส่เสื้อแขนกุดนั่นเอง
ชุดไปรเวท – ชุดนักเรียน ความต่อสู้ในอำนาจนิยม
กลายเป็นประเด็นถกเถียงในสังคมมากพอสมควร สำหรับเครื่องแต่งกายของนักเรียนไทยในปัจจุบัน โดยเริ่มมีเยาวชนรุ่นใหม่ หันมาสนใจสิทธิและเสรีภาพบนร่างกายมากขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่อง เครื่องแบบนักเรียน และทรงผม ที่หลายคนมองว่าเป็นการละเมิดสิทธิของเด็กมากจนเกินไป โดยมีคนรุ่นใหม่จำนวนมาก พยายามพิสูจน์ให้เห็นว่า เครื่องแต่งกายและทรงผม ไม่ได้เป็นตัวชี้วัดผลการเรียน และไร้ซึ่งความจำเป็นในการสืบต่อวัฒนธรรมนี้
โดยหากย้อนกลับไปเมื่อวันที่ 1 ธันวาคม 2563 ได้เกิดปรากฏการณ์ #1ธันวาบอกลาเครื่องแบบ ซึ่งนักเรียนจำนวนมากทั่วประเทศไทย นัดกันใส่ชุดไปรเวทไปเข้าเรียน เพื่อสะท้อนให้เห็นว่า ไม่ว่าจะใส่ชุดหรือเครื่องแบบอะไร นักเรียนก็ยังสามารถเรียนรู้ได้เช่นเดิม
หรืออย่างกรณีล่าสุดที่น้องหยก ผู้ต้องหาคดี 112 ได้ลุกขึ้นมาย้อมสีผมและแต่งชุดไปรเวทเข้าเรียน ก็ได้กลายเป็นประเด็นโต้เถียงที่ร้อนแรงในสังคมเช่นเดียวกัน โดยมีหลายคนที่เห็นต่างและมองว่าเป็นความคิดที่สุดโต่ง ในขณะที่บางส่วนก็สนับสนุนการแต่งชุดไปรเวท เพื่อหักดิบกับอำนาจนิยมในรั้วโรงเรียนที่ริดรอนสิทธิเสรีภาพเยาวชนมาอย่างยาวนาน
แม้ในปัจจุบันการแต่งชุดไปรเวทเข้าเรียน จะไม่ได้เป็นที่ยอมรับกันอย่างกว้างขวางในสังคมไทย ทว่าในสังคมของประเทศโลกที่ 1 ก็เปิดกว้างกับเรื่องนี้มานานแล้ว อาทิ สวิสเซอร์แลนด์ อเมริกา แคนาดา และฟินแลนด์ ก็ไม่ได้มีข้อบังคับเครื่องชุดนักเรียน หรืออาจมีในบางรัฐและบางโรงเรียนเท่านั้น
ตัวอย่างชุดไปรเวทที่นิยมในปัจจุบัน
ในปัจจุบันแฟชั่นการแต่งกายมีความหลากหลายมากขึ้น เช่นเดียวกับสังคมที่เริ่มเปิดกว้าง ทำให้ผู้คนหันมาแสดงความเป็นตัวเอง ผ่านเสื้อผ้าเครื่องประดับ จนเต็มไปด้วยความหลากหลาย โดยไทยเกอร์จะขอยกตัวอย่าง เสื้อผ้าชุดไปรเวทที่คนไทยนิยมใส่กัน ดังนี้
กางเกงยีนส์ – ไม่ว่าจะกี่ยุคสมัย กางเกงยีนส์ก็ยังคงเป็นไอเท็มหลักในการแต่งตัวของคนไทย เพราะสะดวก คล่องตัว แมทช์กับเสื้อและรองเท้าได้ง่าย แถมใส่ซ้ำได้และมีอายุการใช้งานที่นาน
รองเท้าผ้าใบ – หากพูดถึงความเหมาะสม ทันสมัย และดูดี ก็คงปฏิเสธไม่ได้ว่ารองเท้าผ้าใบ ตอบโจทย์คนรุ่นใหม่และคนวัยทำงานมากที่สุด เพราะมันสามารถใส่ทำกิจกรรมได้หลากหลาย แถมยังมีความสุภาพ ทั้งยังได้รับความนิยมไปทั่วโลกอีกด้วย
เสื้อเชิร์ตแขนสั้น/ยาว – ไม่ว่าจะคนทำงานหรือวัยเรียน การมีเสื้อเชิ้ตติดตู้เสื้อผ้าไว้ ก็ถือเป็นสิ่งที่จำเป็น เพราะมันสามารถนำมาใส่ได้หลายโอกาส แถมยังมีให้เลือกหลากหลายสีสันอีกด้วย
เสื้อยืดคอกลม/คอวี – เสื้อยืดน่าจะเป็นเครื่องแต่งกายที่ง่ายและสะดวกที่สุด ทั้งในแง่การสวมใส่ การเคลื่อนไหว การระบายความร้อน ตลอดจนแมทช์กับกางเกงได้ง่าย
กางเกงผ้าขาสั้น – ท่ามกลางอากาศที่ร้อนระอุของประเทศไทย การใส่กางเกงขาสั้น ถือเป็นไอเดียการแต่งตัวที่หลายคนชื่นชอบ โดยส่วนใหญ่นิยมใส่สีเรียบแทนสีสันที่ฉูดฉาด
ชุดเดรส – ในกลุ่มเด็กสาวและคนวัยทำงานในไทย หลายคนนิยมใส่ชุดเดรสแขนสั้นหรือแขนกุด เนื่องจากไม่ต้องคิดเรื่องการแมทช์เสื้อผ้า แค่มีชุดเดียวก็สวยได้ แถมยังมีลวดลายและดีไซน์ให้เลือกเยอะมากทีเดียว
ทั้งหมดนี้คือชุดไปรเวทที่กำลังได้รับความนิยมในประเทศไทย บอกเลยว่ามีอีกหลายแบบหลายสไตล์ให้เราได้เลือก ฉะนั้นใครที่จะแต่งตัวไปทำกิจกรรมอะไรที่ไหน ก็อย่าลืมคำนึงถึงความเหมาะสม ความคล่องตัว ตลอดจนข้อกำหนดของแต่ละสถานที่กันด้วยนะ.