ในวันที่ 19 พ.ย. 2563 ดัชนี ดาว์นโจนส์ ในตลาดหุ้นนิวยอร์ก ได้ทำการปิดตัวลงแล้ว โดย ติดลบ อยู่ที่ 300 กว่าจุด เนื่องด้วยความกังวลถึงมาตรการที่เข้มงวดขึ้นในการจัดการกับเชื้อไวรัส Covid-19
หลังจากที่ตลาดหุ้นนิวยอร์กได้มีทำการประกาศปิดตัวไป โดยหุ้นหลักทั้ง 3 ตัวอย่าง ดาว์นโจนส์, S&P500 และ Nasdaq นั้นล้วนแล้วปิดตัวแบบ ติดลบ เนื่องมากจากความกังวลในการแพร่ระบาดของเชื้อ Covid-19 จากมาตรการที่เข้มงวดมากขึ้นของเมืองนิวยอร์ก
โดยเป็นการปิดตัวลงเมื่อคืนก่อน (18 พ.ย.) ตามเวลาท้องถิ่น รายละเอียดของหุ้นสำคัญที่ได้มีการปิดตัวไปแล้วก็มีดังนี้
- ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาว์นโจนส์ ได้ทำการปิดตัวไปที่ 29,438.42 จุด ถือว่าลดลง 344.93 จุด หรือ -1.16%
- ดัชนี S&P500 ปิดตัวที่ 3,567.79 จุด ลดลงไป 41.74 จุด หรือ -1.16% เช่นเดียวกัน
- ดัชนี Nasdaq ปิดตัวอยู่ที่ 11,801.60 จุด โดยลดลงไป 97.74 จุด หรือ -0.82%
ซึ่งการลดลงของบรรดาหุ้นหลักทั้งหลายนี้ มาจากความกังวลในผลกระทบที่จะเกิดขึ้นต่อเศรษฐกิจของสหรัฐ จากการใช้มาตรการที่เข้มงวดในการควบคุมการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส Covid-19 ถึงแม้ว่าจะมีข่าวถึงความคืบหน้าในการผลิตวัคซีนของทางบริษัท Pfizer ก็ตาม
ในขณะเดียวกัน นครเมืองนิวยอร์กได้มีการประกาศปิดโรงเรียนรัฐบาลทุกแห่ง หลังพบว่ามีผู้ติดเชื้อในเมืองอย่างต่อเนื่อง
นายบิล เดอ บลาซิโอ นายกเทศมนตรีนครเมืองนิวยอร์ก ได้แถลงว่า โรงเรียนรัฐบาลทุกแห่งจะเปลี่ยนไปใช้การเรียนการสอนแบบทางไกลแทน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่ 19 พ.ย. 2563 นี้ โดยเป็นไปเพื่อเป็นการปกป้องชุมชนให้ปลอดภัยจากการแพร่ระบาด เนื่องด้วยจำนวนผู้ติดเชื้อเริ่มกลับมาเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ทั้งนี้นักวิเคราะห์จากบริษัทอินเวอร์เนส คอนเซิล ในรัฐนิวยอร์ก ก็ได้ให้ความเห็นว่า จากการประกาศปิดโรงเรียนในตัวเมืองนิวยอร์กที่ถือว่าเป็นเมืองที่ใหญ่ที่สุดนั้น ได้สะท้อนให้เห็นว่าการแพร่ระบาดนั้นอยู่ในวิกฤติขนาดไหน ถึงแม้ว่าจะมีข่าวในความคืบหน้าของการพัฒนาวัคซีนแล้วนั้น แต่ประชาชนก็ยังคงตั้งคำถามว่าจะเริ่มมีการใช้งานได้เมื่อใด
ในส่วนของข้อมูลเศรษฐกิจที่ก็ได้มีการเปิดเผยออกมาในเวลาเดียวกันนั้น ทางกระทรวงพาณิชย์ของสหรัฐอเมริกาได้เปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านได้เพิ่มขึ้นมา 4.9% โดยตีเป็นจำนวนที่อยู่อาศัยได้ดังนี้ ในเดือนตุลาคมมีจำนวน 1.530 ล้านยูนิต มากกว่าในเดือนกันยายนที่มี 1.459 ล้านยูนิต ซึ่งสูงกว่าที่คาดการณ์ไว้ว่าจะอยู่ที่ 1.460 ล้านยูนิต
ทางด้านสมาคมนายธนาคารเพื่อการจำนองของสหรัฐ (MBA) ก็ได้เปิดเผยว่า จำนวนของผู้ที่ยื่นขอกู้สินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยนั้นได้เพิ่มขึ้นมา 4% จากสัปดาห์ที่ผ่านมา และเพิ่มขึ้น 26% จากช่วงเวลาเดียวกันของปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้แล้วยังจะมีการชี้แจงเปิดเผยข้อมูลทางเศรษฐกิจเพิ่มอีกจำนวนหนึ่ง ได้แก่ จำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์, ดัชนีการผลิตประจำเดือน พ.ย. จากธนาคารเงินสำรองรัฐบาล, ยอดขายบ้านมือสองประจำเดือน ต.ค. และดัชนีชี้นำทางเศรษฐกิจประจำเดือน ต.ค. จาก Conference Board
แหล่งที่มาข่าว : เว็บไซต์สำนักข่าว TNN Thailand