ข่าว

รุ่นพี่ปวส. เตะซ่อม รุ่นน้องจนตาย ศาลสั่ง จำคุก 1 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา

รุ่นพี่ปวส. เตะซ่อม รุ่นน้องจนตาย ศาลสั่ง จำคุก 1 ปี 9 เดือน ไม่รอลงอาญา

จากกรณีรุ่นพี่ ปวส. ซ่อม รุ่นน้อง ปวช.จนเสียชีวิต โดยเหตุเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2562 นายศิริพันธ์ นักศึกษาปวส. ปี 1 ผู้ก่อเหตุ สั่งซ่อมนายพัธนดนย์ นักศึกษาปวช. ปี 2 ผู้ตาย ด้วยการให้นอนคว่ำหน้าไถตัวไปกับพื้นกรวด จากนั้นนายศิริพันธ์ก็ถามว่าจะให้เตะกี่ที เมื่อผู้ตายบอกว่า 2 ที จึงเตะเข้าที่หน้าอกไป 2 ที แล้วให้นายพัธนดนย์ไปอาบน้ำแต่งตัวเพื่อจะได้คุยกันแต่นายพัธยดนย์อาการไม่ดีจึงพาส่งโรงพยาบาลแทนก่อนจะเสียชีวิตจากอาการหัวใจล้มเหลว

ล่าสุด ศาลอ่านคำพิพากษาคดีที่พนักงานอัยการสำนักงานคดีอาญามีนบุรี เป็นโจทก์ และญาติผู้เสียชีวิต เป็นโจทก์ร่วม ยื่นฟ้องนายศิริพันธ์ สิงห์พันธ์ อายุ 20 ปี อดีตนักศึกษา ปวส.ปี 1 วิทยาลัยเทคนิคมีนบุรี เป็นจำเลย ฐานทำร้ายร่างกายผู้อื่นเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย ข่มขืนใจผู้อื่นให้จำยอมให้กระทำหรือไม่กระทำ โดยขู่เข็ญว่าจะใช้กำลังหรือใช้กำลังประทุษร้าย ตาม ป.อาญา มาตรา 290, 309 วรรคแรก

คำฟ้องอัยการระบุพฤติการณ์สรุปได้ว่า เมื่อวันที่ 19 ก.ค. 2562 เวลากลางคืน จำเลยเป็นนักศึกษารุ่นพี่ของนายพันธดนย์ บุญครอง อายุ 16 ปี ผู้ตาย ซึ่งเป็นนักศึกษา ปวช.ปี 2 ได้บังคับข่มขืนใจให้ผู้ตายนอนคว่ำหน้าและนอนหงาย ไถตัวไปข้างหน้าแล้วไถตัวกลับมาบนพื้นกรวด ในลักษณะขู่เข็ญตะคอกโดยทำให้กลัว จนผู้ตายยอมจำยอมกระทำตามที่จำเลยข่มขืนใจ แล้วจำเลยใช้เท้าเตะที่หน้าอกผู้ตายหลายครั้ง จนเป็นเหตุให้ถึงแก่ความตาย

โดยจำเลยให้การรับสารภาพตามฟ้อง แต่เนื่องจากคดีนี้ในบทหนักมีอัตราโทษจำคุกอย่างต่ำ 3 ปี จึงไม่ใช่คดีที่มีโทษจำคุกอย่างต่ำตั้งแต่ 5 ปีขึ้นไป ศาลจึงพิจารณาพิพากษาลงโทษจำเลยได้โดยไม่ต้องสืบพยานประกอบคำรับสารภาพ

ศาลพิเคราะห์แล้วเห็นว่า จำเลยกระทำผิดจริง ให้ลงโทษทุกกรรมเป็นกระทงความผิดไปตาม ป.อาญา มาตรา 91 แม้ขณะกระทำจำเลยมีอายุ 19 ปีเศษ แต่พฤติการณ์แห่งคดีเป็นความร้ายแรงและจำเลยรู้ผิดชอบชั่วดีในการกระทำแล้ว ไม่สมควรลดมาตราส่วนโทษให้จำเลย พิพากษาลงโทษจำคุก ฐานทำร้ายเป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย 3 ปี ฐานข่มขืนใจผู้อื่น 6 เดือน รับสารภาพเป็นประโยชน์ต่อการพิจารณา ลดโทษกึ่งหนึ่ง คงจำคุก 1 ปี 9 เดือน แม้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายแก่โจทก์ร่วม 1 แสนบาท แต่พฤติการณ์ร้ายแรง ไม่รอการลงโทษ

ที่มา มติชน

kamon w.

จบสายภาษาแต่หนีไปทำงานด้านบริการเกือบ 2 ปี ตอนนี้กลับมาขีด ๆ เขียน ๆ อีกครั้ง พร้อมแพสชั่นในงานข่าวที่เต็มเปี่ยม

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button