พระมหาไพรวัลย์แจง ตุ๊ดก็บวชพระได้
พระมหาไพรวัลย์แจง ตุ๊ดก็บวชพระได้
จากกรณี ปม ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ได้โพสต์ภาพตัวเองยืนคู่กับภาพวาดพระสงฆ์แต่งหน้าผ่าน twitter พร้อมระบุข้อความว่า “หากกะเทยมีความศรัทธาในศาสนา ทำไมสังคมบางส่วนจึงมองว่าเป็นพระตุ๊ดพระแต๋วและไม่เหมาะสม ความศรัทธาทำไมจึงมีเรื่องเพศที่กำหนดการเข้าถึง มันไม่ควรจะเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ใช่หรือ #ธัญวัจน์ #พรรคอนาคตใหม่ #Spectrosynthesis2”
หากกะเทยมีความศรัทธาในศาสนา ทำไมสังคมบางส่วนจึงมองว่าเป็นพระตุ๊ดพระแต๋วและไม่เหมาะสม ความศรัทธาทำไมจึงมีเรื่องเพศที่กำหนดการเข้าถึง มันไม่ควรจะเกี่ยวกับเรื่องเพศไม่ใช่หรือ #ธัญวัจน์ #พรรคอนาคตใหม่ #Spectrosynthesis2 pic.twitter.com/nv8NHsPQkh
— ธัญวัจน์ กมลวงศ์วัฒน์ – Tunyawaj Kamolwongwat (@kru_tun) November 23, 2019
เมื่อโพสต์ดังกล่าวถูกแชร์ออกไปอย่างกว้างขวาง ทำให้เกิดกระแสถกเถียงแบ่งเป็นสองฝ่าย บางส่วนบอกว่าไม่เห็นด้วย เนื่องจากไม่เหมาะสม อีกฝ่ายมองว่ากฎควรถูกปรับเปลี่ยนไปตามความเหมาะสมและเวลา ปัจจุบันความเท่าเทียมและหลากหลายทางเพศก็เปิดกว้างขึ้นแล้ว
ต่อเรื่องนี้ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ ในฐานะผู้ครองสมณเพศได้ออกมาแสดงความคิดเห็นถึงการให้เพศที่สามบวชพระไว้ดังนี้
“เข้าใจให้ถูกต้อง ก็ไม่ต้องดราม่า
ที่จริงก่อนที่จะมีคำถามว่า พระตุ๊ดผิดหรือไม่ผิดตรงไหน หากมีความสงสัยเกี่ยวกับเรื่องของการบวชก็ควรต้องแสวงหาความรู้ในกฎเกณฑ์และข้อบัญญัติซึ่งเกี่ยวข้องหับการบวชให้ชัดเจนเสียก่อน อาตมาว่า ถ้าแสวงหาความรู้ที่ชัดเจนแล้ว คำถามแบบนี้ก็จะไม่เกิด
ในข้อพระวินัย มีการอธิบายเกี่ยวกับคำว่าบัณเฑาะก์ไว้ชัดเจนมาก ว่าหมายถึงบุคคลประเภทไหน บัณเฑาะก์อย่างไรห้ามการบวช บัณเฑาะก์อย่างไรไม่ห้าม
เวลาตั้งคำถามต่อเรื่องพวกนี้ ต้องกลับไปดูคำที่ใช้ในข้อพระวินัย ไม่ใช่เอาคำไทยเป็นที่ตั้ง พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ห้าม ตุ๊ด เกย์ ไม่ให้บวชนะ ท่านใช้คำว่าบัณเฑาะก์ ซึ่งเป็นคำที่มีคำอธิบายมากกว่าแค่เรื่องของเพศสภาพแบบที่สังคมเราเข้าใจกัน บัณเฑาะก์ในทางพระวินัย หมายถึงบุคคลที่มีความบกพร่องทางเพศด้วย เช่น คนที่มีอวัยวะเพศไม่ปรากฎ
บวชนะบวชได้แน่ แต่การบวชไม่ใช่แค่เรื่องว่าการผิดหรือไม่ผิด เหมาะสมหรือไม่เหมาะสมของเพศสภาพ พฤติกรรมเสียหายและละเมิดพระวินัยหลังบวชต่างหากที่สำคัญ และเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับเพศสภาพนะ
การอยู่ในสังฆะ มีระเบียบและกฎเกณฑ์ที่จะต้องถือปฎิบัติร่วมกันในสังฆะ ไม่ใช่แค่อ้างสิทธิ์ในการบวชแล้วจะเข้ามาทำอะไรก็ได้
ทุกวันนี้เราก็เห็นปัญหาอยู่ ไม่ใช่บวชแล้ว จะทาปากแดงเพื่อยืนยันสิทธิในการทาปากของตัวเองก็ได้ ไม่ใช่บวชแล้วจะกรีดตาเขียนคิ้ว เพื่อยืนยันสิทธิในการกรีดตาเขียนคิ้วของตัวเองก็ได้ ไม่ใช่บวชแล้วจะแต่งหน้าทำนม เพื่อยืนยันสิทธิในการแต่งหน้าทำนมของตัวเองยังไงก็ได้ ถ้าแบบนี้ พระศาสนาก็อยู่ไม่รอด ไม่เป็นที่ตั้งแห่งความปสาทะเลื่อมใส
อาตมาว่าสังคมสงฆ์ทุกวันนี้ใจกว้างมากเลยนะ หากดูจากข่าวที่พระซึ่งประพฤติตัวไม่เหมาะสมในการแสดงออกทางเพศ แต่แน่นอนแหล่ะ เมื่อเข้ามาบวชแล้ว ความพระเป็นเรื่องสำคัญกว่าเรื่องของเพศสภาพ
อาตมาเห็นพระรูปหนึ่ง เป็นเพื่อนกันในเฟซบุ๊ก ท่านเคยเป็นถึงนางงามเพศที่ ๓ แต่พอท่านตัดสินใจจะเข้ามาบวช ท่านก็ไปเอานมออก แล้วท่านก็ประพฤติตนสำรวมดีมาก อาตมายังนับถือเลย ถ้าแบบนี้ก็ไม่เป็นปัญหา และสังฆะท่านก็ยอมรับ”
https://www.facebook.com/paivan01/photos/a.691183647980650/808014626297551/?type=3&theater
https://www.facebook.com/paivan01/posts/807967122968968
ภาพจาก: kru_tun และ พระมหาไพรวัลย์ วรวณฺโณ