อนาคตใหม่ชงแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร เลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นสมัครใจ
อนาคตใหม่ชงแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร เลิกบังคับเกณฑ์ทหาร เปลี่ยนเป็นสมัครใจ
ยกเลิกเกณฑ์ทหาร – วันที่ 14 พ.ย. พรรคอนาคตใหม่ รายงาน พล.ท.พงศกร รอดชมภู รองหัวหน้าพรรคอนาคตใหม่ และ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พร้อมด้วย ส.ส.ของพรรคอนาคตใหม่ ร่วมแถลงข่าวการเสนอร่างแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร มีหลักการเพื่อยกเลิกการเกณฑ์ทหารที่ทำมากกว่า 100 ปี โดยให้มีการเกณฑ์เฉพาะช่วงภาวะสงครามเท่านั้น และสามารถเกณฑ์ได้เพียงรอบละ 1 ปี แต่ถ้าเป็นสภาวะปกติ ให้ยกเลิกการเกณฑ์ทหารแล้วเปิดรับสมัครเฉพาะสมัครใจเท่านั้น โดยทำสัญญา 5 ปี จำกัดจำนวนทหารให้น้อยลง เพื่อเน้นการฝึกฝนและความชำนาญให้มากขึ้น และนำงบประมาณที่เหลือมาเพิ่มเงินเดือน ค่าตอบแทน เงินทุนการศึกษา ประกันสุขภาพ การดูแลสวัสดิการที่ดี รวมถึงทุนประกอบอาชีพหลังปลดประจำการ
พล.ท.พงศกร กล่าวว่า กองทัพไทยควรเน้นที่ความสามารถ มีความรู้สูง เพื่อป้องกันประเทศชาติ โดยจะมีการวางระบบให้สอบเลื่อนขั้นทุก 5 ปี และให้เกษียณอายุ 46 ปีบริบูรณ์ สิ้นสุดที่ยศพันโท เพราะนายทหารที่อายุมากกว่า 50 ขึ้นไป จะเริ่มปฏิบัติหน้าที่ได้ลำบาก
นอกจากนี้ยังมีหลักการป้องกันการละเมิดศักดิ์ศรีความเป็นมนุษย์ ไม่ให้ปฏิบัติงานนอกภารกิจทางการทหาร มีการตรวจการฝึกทุกที่ เพื่อให้มั่นใจว่าทหารจะได้รับการฝึกที่มีประสิทธิภาพ ดูแลด้านสมรรถภาพด้านความปลอดภัย และมีกติกาสากลเหมือนทหารในประเทศที่พัฒนาแล้ว
พล.ท.พงศกร กล่าวถึงข้อกังวลว่าผู้สมัครทหารอาจไม่เพียงพอ ก็ต้องมีการแก้ไขทั้งเรื่องเงินเดือน สวัสดิการ และการลดอัตรากำลังพล เพื่อให้จำนวนผู้สมัครกับจำนวนอัตรากำลังพลเท่าที่จำเป็นมีสัดส่วนที่พอดีกัน พร้อมยืนยันเกี่ยวกับความก้าวหน้าในหน้าที่การงานในสายงานที่มีความชำนาญด้านการรบ ซึ่งควบคู่แข่งขันกันกับสายสัญญาบัตรที่มาจากโรงเรียนนายร้อย ทั้งนี้ในอนาคตจะมีการเสนอร่างกฎหมายให้มีโรงเรียนนายร้อยเพื่อฝึกนายทหารสัญญาบัตรที่มาจากบุคคลจบปริญญาตรี
“ระบบการเกณฑ์ทหารที่ใช้มากว่า 100 ปี ควรได้รับการเปลี่ยนแปลง อยากให้พรรคการเมืองหลายพรรคที่เคยหาเสียงไว้รวมถึงประชาชน ช่วยกันเป็นแนวร่วมผลักดันร่างกฎหมาย และรณรงค์ต่อสังคมว่าถึงเวลาที่ต้องเปลี่ยนแปลงแล้ว เพื่อให้อาชีพทหารมาจากความเต็มใจ สมัครใจ และเข้มแข็ง” พล.ท.พงศกร กล่าว
ด้าน รังสิมันต์ โรม ส.ส.พรรคอนาคตใหม่ ระบุถึงสาระสำคัญของ ร่างแก้ไข พ.ร.บ.รับราชการทหาร ว่า 1. ให้เกณฑ์ทหารเฉพาะช่วงที่มีภัยสงคราม ส่วนในภาวะปรกติใช้วิธีสมัครใจ ไม่บังคับคนไม่อยากเป็นทหารให้ต้องทิ้งครอบครัว ทิ้งที่ทำกินมาเข้าค่าย 2. เปลี่ยนจากเน้นเกณฑ์คนจำนวนมาก เป็นรับจำนวนน้อยลงแต่เน้นสร้างความชำนาญ เพิ่มรายได้ ให้ทุนเรียนต่อ ให้สวัสดิการครอบครัว (โดยใช้เงินที่ประหยัดได้จากการลดกำลังพล) 3. ป้องกันการละเมิดสิทธิในรั้วค่าย ห้ามนำทหารไปใช้งานส่วนตัว มีศูนย์กลางคอยตรวจสอบสม่ำเสมอ
รังสิมันต์ กล่าวว่า “ร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้เป็นจุดเริ่มต้นที่สำคัญของการผลักดันนโยบายปฏิรูปกองทัพที่พรรคอนาคตใหม่ได้ให้สัญญาไว้กับประชาชนเมื่อตอนหาเสียง เราเชื่อมั่นเป็นอย่างยิ่งว่าร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้จะช่วยให้กองทัพมีความทันสมัยและมีประสิทธิภาพ และจะเป็นประโยชน์ต่อประชาชนอย่างแน่นอน ขอให้ทุกท่านโปรดติดตามการพิจารณาร่าง พ.ร.บ. ฉบับนี้ต่อไปด้วยครับ”