ข่าวการเมือง

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 4 เจ้าหน้าที่รัฐเรียกสินบน บริษัทก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม ซิโน – ไทย โดนฐานสนับสนุน

ป.ป.ช. ชี้มูลความผิด 4 เจ้าหน้าที่รัฐเรียกสินบน บริษัทก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม ซิโน – ไทย โดนฐานสนับสนุน

นายวรวิทย์ สุขบุญ เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ช. ในฐานะโฆษกสำนักงาน ป.ป.ช. แถลงว่า ที่ประชุมคณะกรรมการ ป.ป.ช. ได้มีมติชี้มูลความผิดเจ้าหน้าที่ของรัฐ 4ราย กรณีร่วมกันเรียกรับเงินจำนวน 20,000,000 บาท จากบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่รับว่าจ้างก่อสร้างโรงไฟฟ้าขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช เพื่อแลกกับการอนุญาตให้ใช้ ท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้า ตลอดจนให้เรือลำเลียงเข้าเทียบท่าเพื่อขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้าโดยไม่ชอบ และชี้มูลความผิด บริษัท ซิโน – ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) รวมถึงผู้บริหารระดับสูงของบริษัทฯ อีกสองราย ในฐานเป็นผู้สนับสนุนเจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสี่รายในการกระทำความผิด

จากพยานหลักฐานข้อเท็จจริงฟังได้ว่า เมื่อปี พ.ศ. 2556 บริษัทค้าร่วม (Consortium) ประกอบด้วย บริษัทสัญชาติญี่ปุ่น และบริษัท ซิโน-ไทย เอ็นจีเนียริ่ง แอนด์ คอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) ได้รับว่าจ้างให้ดำเนินการก่อสร้างโรงไฟฟ้าพลังงานความร้อนร่วม ที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช โดยโรงไฟฟ้าดังกล่าวเป็นโรงไฟฟ้า ของบริษัท ผลิตไฟฟ้าขนอม จำกัด (KEGCO) ซึ่งเป็นบริษัทในกลุ่ม EGCO Group ที่เป็นบริษัทเอกชนผู้ทำการผลิตและจำหน่ายกระแสไฟฟ้าทั้งหมดให้แก่การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย

ต่อมา ในเดือนกุมภาพันธ์ 2558 เรือลำเลียง 3 ลำไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าเทียบท่าได้ เนื่องจากมีขนาดใหญ่เกินกว่าท่าเทียบเรือที่จะรองรับได้ เจ้าหน้าที่ของรัฐ 4 ราย ประกอบด้วย

1) นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาค สาขานครศรีธรรมราช

2) นายคณิน เมืองด้วงรองนายกเทศมนตรีตำบลท้องเนียน

3) นายอภิชาติสวัสดิรัตน์ ผู้ใหญ่บ้านหมู่ที่ 8 ตำบลท้องเนียน

4) พันตำรวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ สารวัตรสถานีตำรวจน้ำ 4 กองกำกับการ 6 กองบังคับการตำรวจน้ำ

ได้ร่วมกันเรียกรับเงินจ านวน 20,000,000 บาท จากผู้แทนของบริษัท มิตซูบิชิ ฮิตาชิพาวเวอร์ ซิสเต็มส์ จำกัด (Mitsubishi Hitachi Power Systems Ltd. : “MHPS”) ซึ่งเป็นบริษัทสัญชาติญี่ปุ่นที่มาปฏิบัติงานก่อสร้างโรงไฟฟ้า เพื่อแลกกับการอนุญาตให้เรือลำเลียงชิ้นส่วนอุปกรณ์ก่อสร้างโรงไฟฟ้าที่นำเข้าจากต่างประเทศสามารถเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวบริเวณโรงไฟฟ้าได้ แม้ว่าเรือจะมีขนาดใหญ่เกินกว่าที่จะเข้าเทียบท่าเทียบเรือชั่วคราวตามที่ขออนุญาตก่อสร้างไว้ ซึ่งผู้บริหารของบริษัท MHPS
ตัดสินใจที่จะจ่ายเงินสินบนจำนวน 20,000,000 บาท เพราะหากการขนส่งชิ้นส่วนเครื่องจักรเกิดการหยุดชะงักจะทำให้การก่อสร้างไม่ทันกำหนดเวลาการส่งมอบงาน และบริษัท MHPS จะต้องเสียค่าปรับตามสัญญาถึงวันละ 40 ล้านเยน (คิดเป็นเงินไทยประมาณ 11,000,000 บาท)

ทั้งนี้ ปรากฏข้อเท็จจริงว่า บริษัท ซิโน-ไทยฯ และผู้บริหารระดับสูงสองราย ได้แก่ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ กรรมการผู้จัดการ และนายราเกส กาเลีย ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการส่วนงานปฏิบัติการ ได้ให้ความช่วยเหลือ ในการกระทำความผิดของเจ้าหน้าที่รัฐในการเรียกรับสินบนจากบริษัทญี่ปุ่น โดยมีการจัดทำสัญญาที่ไม่มี การจ้างงานจริง เพื่อให้บริษัท ซิโน-ไทยฯ จัดเตรียมสินบนเป็นเงินสด20,000,000 บาท ต่อมา มีการมอบเงินสินบน ให้กับผู้แทนบริษัทญี่ปุ่นที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทซิโน-ไทยฯ เพื่อให้ขนเงินไปยังพื้นที่อำเภอขนอม จังหวัดนครศรีธรรมราช และส่งมอบให้เจ้าหน้าที่ของรัฐทั้งสี่ราย ซึ่งปรากฏข้อเท็จจริงว่าในช่วงเวลาเดียวกัน เรือลำเลียงก็สามารถเทียบท่าและขนถ่ายชิ้นส่วนของเครื่องกำเนิดไฟฟ้า ณ ท่าเทียบเรือชั่วคราวโรงไฟฟ้าขนอมได้แม้ว่าจะไม่มีการแก้ไขเรื่องการขออนุญาตก่อสร้างท่าเทียบเรือให้ถูกต้องตามระเบียบของกรมเจ้าท่าแต่อย่างใด

คณะกรรมการ ป.ป.ช. พิจารณาแล้วมีมติว่าผู้ถูกกล่าวหามีมูลความผิด ดังนี้

1. กลุ่มเจ้าหน้าที่ของรัฐจำนวน 4 ราย ประกอบด้วย นาวาโท สาธิต ชินวรณ์ นายคณิน เมืองด้วง นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ และพันต ารวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์ มีมูลความผิดทางอาญา ฐานเป็นเจ้าพนักงานเรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สินหรือประโยชน์อื่นใดส ำหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบเพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที ่ ฐานเป็นเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 83 และสำหรับราย นายคณิน เมืองด้วง รองนายกเทศมนตรีต าบลท้องเนียน มีมูลเป็นความผิดอันเป็นเหตุให้พ้นจาก
ตำแหน่งได้ ตามพระราชบัญญัติเทศบาล พ.ศ. 2496 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาตรา 73 และส่วนเจ้าหน้าที่ของรัฐอีก 3 ราย มีมูลความผิดทางวินัยอย่างร้ายแรง

2. กลุ่มผู้สนับสนุน ได้แก่ บริษัท ซิโน-ไทยฯ นายภาคภูมิ ศรีชำนิ และ นายราเกส กาเลีย มีมูลความผิดทางอาญา ฐานสนับสนุนเจ้าพนักงาน เรียก รับ หรือยอมจะรับทรัพย์สิน หรือประโยชน์อื่นใดส าหรับตนเองหรือผู้อื่นโดยมิชอบ เพื่อกระทำการหรือไม่กระทำการอย่างใดในตำแหน่งไม่ว่าการนั้นจะชอบหรือมิชอบด้วยหน้าที่ และฐานสนับสนุนเจ้าพนักงานปฏิบัติหรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยทุจริต ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 149 และมาตรา 157 ประกอบมาตรา 8

ทั้งนี้ คณะกรรมการ ป.ป.ช. มีมติให้ส่งรายงาน สำนวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน สำเนาอิเล็กทรอนิกส์และคำวินิจฉัยไปยังอัยการสูงสุด เพื่อดำเนินคดีอาญาในศาลซึ่งมีเขตอำนาจพิจารณาพิพากษาคดีกับผู้ถูกกล่าวหาทั้ง 7 ราย ส่งรายงานส านวนการไต่สวน เอกสารหลักฐาน และคำวินิจฉัย ไปยังผู้บังคับบัญชา เพื่อด าเนินการทางวินัย กับนาวาโท สาธิต ชินวรณ์ นายอภิชาติ สวัสดิรัตน์ และพันต ารวจโท สันติพงษ์ พันธ์สวัสดิ์และส่งรายงานสำนวน การไต่สวน ไปยังผู้มีอ านาจแต่งตั้งถอดถอน เพื่อให้ด าเนินการตามหน้าที่และอำนาจกับนายคณิน เมืองด้วงตามฐานความผิดดังกล่าว ตามพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปรามการทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 91 (1) และ (2) และมาตรา 98 วรรคสี่ แล้วแต่กรณีต่อไป

 

…การชี้มูลความผิดทางอาญาของคณะกรรมการ ป.ป.ช. ยังไม่ถือเป็นที่สุด
ผู้ถูกกล่าวหายังเป็นผู้บริสุทธิ์จนกว่าจะมีค าพิพากษาของศาลอันถึงที่สุด

Aindravudh

นักเล่าเรื่อง จบการศึกษาด้านภาษาและประวัติศาสตร์ ผู้สนใจประเด็นความเคลื่อนไหวทางสังคมและการเมือง ผนวกกับการเริ่มต้นเส้นทางด้วยการเขียนงานวรรณกรรม ก่อนผันตัวมาเจาะประเด็นข่าวทางสังคม ออนไลน์ ด้วยกลวิธีการเล่าเรื่องแบบย่อยง่าย อย่างงานเขียนสร้างสรรค์ สั้น กระชับ จับทุกประเด็น

ข่าวที่เกี่ยวข้อง

ใส่ความเห็น

Back to top button