ศรีริต้า ตัดผมสั้นเปลี่ยนลุค ว่าที่สามีชอบ
ใกล้งานแต่งเข้ามาทุกที แต่ว่าที่เจ้าสาวก็ไปตัดผมสั้นเสียก่อนสำหรับ ศรีริต้า เจนเซ่น เจ้าตัวเผยมาไว้ผมยาวมานานมาก อยากลองเปลี่ยนลุคดูบ้าง ส่วนว่าที่เจ้าบ่าวอย่าง กรณ์ ณรงค์เดช ก็ปลื้มมากเช่นกัน
ศรีริต้าบอกว่าอยากตัดมานานแล้ว พอละครปิดกล้องปุ๊บ ก็รีบไปร้านทำผมให้ช่างตัดทันทีเลย เนื่องจากริต้าทำผมยาวมานานมาก แถมละครที่ถ่ายก็ใช้เวลาถ่ายทำนานถึง 1 ปี 8 เดือน ริต้าก็เลยไม่สามารถเปลี่ยนทรงผมได้ในช่วงนั้น แถมผมสั้นถ้าตัดแล้วเดี๋ยวมันก็ยาวใหม่ได้
คุณกรณ์ว่าอย่างไรบ้างกับผมทรงนี้
ตอนแรกเขาไม่อยากให้ตัด เขาอยากให้ตัดหลังแต่งงานมากกว่า แต่ริต้าก็ไปตัดเลย ปรากฏว่าเขาชอบมาก ชอบกว่าเดิมอีก
เราชินกับลุคใหม่ของตัวเองไหม
ชินมาก มันสบายมากเลย ริต้าชอบทรงนี้มาก ส่วนผมยาวถ้าต้องใช้ในงานอีเวนต์ ก็จะใส่วิกช่วยแทน ริต้ารู้สึกว่าอยากลองเปลี่ยนลุค เปลี่ยนอะไรใหม่ๆ ให้กับตัวเองบ้าง
คิดว่าจะตัดสั้นกว่านี้ไหมในอนาคต
พอแล้ว พอก่อน แต่จริงๆ ก็เคยมีช่วงที่ริต้าผมสั้นกว่านี้นะ เป็นช่วงที่เข้าวงการใหม่ๆ เลย สมัยอายุ 15-16 ปี ตอนนั้นผมซอยสั้นเป็นสาวเปรี้ยว
ไม่กังวลใช่ไหมว่าผมสั้นแบบนี้จะส่งผลถึงการทำผมในงานแต่ง
ไม่ ริต้าอยู่วงการนี้มานานจนรู้แล้วว่าเรื่องการทำผม มันสามารถต่อสั้นต่อยาว คือเนรมิตรได้หมดทุกอย่าง ก็ฝากติดตามดูกันนะคะว่าจะเป็นยังไง เพราะตอนนี้ริต้ายังไม่ได้คิดเรื่องทรงผมเลย
ความคืบหน้างานแต่งตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง
ตื่นเต้นมาก เพิ่งรู้เหมือนกันว่าการเตรียมงานแต่งงานมันตื่นเต้นขนาดนี้ ถึงแม้จะเคยใส่ชุดเจ้าสาวในละครมาแล้วหลายเรื่อง แต่ความรู้สึกมันต่างกันมาก มันไม่เหมือนกันเลยจริงๆ คนละอารมณ์กันเลย
ล่าสุดเห็นคุณกรณ์บอกว่าเคาะธีมงานแล้วด้วย
เหรอ ตอนนี้แพลนทุกอย่างมันเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาตลอดเลย โอเคอาจจะมีโครงร่างอยู่บ้าง ว่าจะเป็นประมาณนั้นประมาณนี้ แต่ยังไม่ได้มีการเคาะ ทุกอย่างมันจะคร่าวๆ หมด
อย่างคำนำหน้าของเราเห็นว่าจะต้องใช้ นาง?
ใกล้แล้ว ปีหน้า นามสกุลก็ด้วย แต่ยังไม่ได้คิดเลยว่าจะต้องใช้นามสกุลของครอบครัวคุณกรณ์เดี่ยวๆ หรือว่าใช้คู่กับนามสกุลริต้าไปเลย เราคงต้องคุยกันก่อน ส่วนเรื่องใช้คำนำหน้านางนั้น ริต้าไม่คิดมาก ได้หมด
ต้องดูหมอ ดูดวง หรือดูคำต่างๆ ก่อนไหม ถ้าหากจะต้องเปลี่ยนนามสกุล
จริงๆ ชื่อ ศรีริต้า เจนเซ่น ที่ริต้าใช้อยู่ทุกวันนี้ก็เป็นชื่อที่ไม่ถูกต้องอยู่แล้วนะ เคยมีหมอดูทักมานานมากๆ แล้ว ก็เลยไม่ค่อยเชื่อเรื่องพวกนี้เท่าไหร่ แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่นะ ริต้าแค่มองว่าเรื่องพวกนี้เราเองก็ต้องมีความมั่นใจในตัวเองด้วยเหมือนกัน อะไรที่คุณพ่อคุณแม่ให้เรามา ริต้าเชื่อว่านั่นคือสิ่งที่ดีที่สุด พ่อแม่คือพระที่ประเสริฐที่สุดสำหรับเรา
ส่วนเรื่องเรือนหอนั้นต้องถามคุณกรณ์ ตอนนี้ริต้าขอเริ่มจากการแต่งงานก่อนดีกว่า ขอทีละเรื่อง เอาเป็นเรื่องๆ ไป เดี๋ยวค่อยวางแผนกันอีกที ส่วนเรื่องที่ริต้าเครียดอย่างเดียวเลย คือรายชื่อแขก เพราะมันคือส่วนที่สำคัญมาก และจำนวน 1,000 คน ที่เราวางไว้ เราก็เชิญได้เท่านั้นจริงๆ เนื่องจากสถานที่จัดงานเราค่อนข้างจำกัด แต่ตอนนี้รายชื่อก็ใกล้จะครบแล้ว
วันเกิดที่ผ่านมาเป็นยังไงบ้าง
วันเกิดปีนี้ของริต้าไม่ได้มีการจัดงานฉลองเลย เน้นทำบุญอย่างเดียว อย่างที่ใจต้องการ ไปทอดกฐินกันตั้งแต่เช้าตรู่ ซึ่งเราได้เงินมากว่า 2,400,000 บาท ส่วนช่วงบ่ายเราก็เดินทางไปแถวๆ สวนผึ้ง บริเวณโรงเรียนตำรวจชายแดน ที่นั่นเขาจะมีเด็กกะเหรี่ยงน่ารักมากๆ และเขาก็ขาดแคลนจริงๆ ริต้าเลยได้มีโอกาสไปมอบทุนการศึกษา รวมถึงอุปกรณ์การเรียน ข้าวสารอาหารแห้งให้แก่น้องๆ ก็มอบไปประมาณ 60-70 คน ทั้งเด็กเรียนดี เด็กยากไร้ ที่บริจาคไปครั้งนี้เป็นเงินส่วนตัวของตัวริต้าและก็มีเพื่อนๆ กัลยาณมิตรที่ร่วมสมทบทุนด้วย
ทำไมเราถึงเปลี่ยนแนวมาเป็นสายบุญปีนี้
ริต้าทำบุญทุกปีอยู่แล้ว ทำมาตั้งแต่เด็กๆ ไม่เคยขาดสักทีเดียว และปีนึงริต้าก็ทำหลายโรงเรียนด้วย ริต้าคิดเสมอว่าเราโชคดีมากที่ได้ทำงานตรงนี้ แต่ในขณะเดียวกันก็มีอีกหลายๆ คนที่เขาขาดแขลน ดังนั้นจึงรู้สึกว่าทุกครั้งที่ได้ให้ริต้ามีความสุข มันเลยทำให้ริต้าอยากทำแบบนี้อยู่เรื่อยๆ
ส่วนเรื่องรับอุปถัมภ์ ริต้ากลัวตัวเองจะไม่พร้อม เพราะมีหน้าที่การงานอีกหลายอย่างที่ต้องทำ ดังนั้นสิ่งที่ริต้าสามารถทำได้ดีที่สุด ณ ตอนนี้ก็คือการมอบความช่วยเหลือ มอบทุนการศึกษา มอบข้าวสารอาหารแห้ง มอบอุปกรณ์การเรียน มอบให้ถึงมือเขาจริงๆ ริต้าทำแบบนี้มา 10 กว่าปีแล้ว และก็ทำหลายโรงเรียนมาก
วันเกิดปีนี้ ว่าที่สามีให้อะไร
ก็มีนิดหน่อย อย่างที่บอกปีนี้เราไม่ได้จัดงานฉลองอะไรเลย เนื่องจากว่ามันยังมีอีกหลายงานที่กำลังจะเกิดขึ้น ส่วนของขวัญก็มีนิดๆ หน่อยๆ แต่ขอไม่บอกได้ไหมว่าคืออะไร รู้แค่ว่าเป็นของใช้
